บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (International Finance Corporation หรือ IFC) ซึ่งเป็นองค์กรสมาชิกกลุ่มธนาคารโลก (World Bank Group) และ DEG (Deutsche Investitions und Entwicklungsgesellschaft) ตกลงซื้อพันธบัตรเพื่อผู้ประกอบการหญิง (Women Entrepreneurs Bonds) ที่จะออกโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในจำนวนไม่เกิน 220 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายใต้การสนับสนุนด้านการลงทุนจากโครงการสร้างโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการหญิง (Women Entrepreneurs Opportunity Facility: WEOF) ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มโดย IFC และ Goldman Sachs 10,000 Women โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาแหล่งสินเชื่อให้แก่กิจการ SME ที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของหรือผู้บริหาร (Women-led small and medium-sized enterprises หรือ WSMEs) ในประเทศไทย
การออกพันธบัตรครั้งนี้นับเป็นการออกพันธบัตรที่คำนึงถึงเพศสภาพ (Gender Bond) โดยภาคเอกชนเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นพันธบัตรเพื่อสังคมที่ออกเป็นครั้งแรกในตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย
เซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกรุงศรี กล่าวว่า “ผู้ประกอบการ SME มากกว่าครึ่งในประเทศไทยโดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการหญิงขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ความต้องการเงินทุนของผู้ประกอบการหญิงเหล่านี้มีมูลค่ากว่า 25 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบเท่าร้อยละ 61 ของความต้องการเงินทุนที่ยังขาดแคลนสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ประกอบการ SME ทั้งหมดในประเทศไทย การออกพันธบัตรครั้งนี้ตอกย้ำพันธสัญญาของธนาคารในการเป็นพลเมืองภาคธุรกิจที่ดี (Corporate Citizen) รวมทั้งความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ”
การออกพันธบัตรเพื่อสังคมซึ่งได้รับการรับรองครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนวงเงินสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ SME หญิงซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงานในประเทศ ทั้งนี้การออกพันธบัตรครั้งนี้ยังมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความโปร่งใสในการสร้างความเติบโตของตลาดพันธบัตรเพื่อสังคมในภูมิภาคเอเชีย
คริสตินา ชาพีโร Global Director ของ 10,000 Women กล่าวว่า “เรามุ่งเน้นในเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการศึกษาของผู้ประกอบการหญิง ดังนั้น เราจึงสนับสนุนการออกพันธบัตรที่คำนึงถึงเพศสภาพ (Gender Bond) โดยภาคเอกชนเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนี้ งานวิจัยของ Goldman Sachs สะท้อนให้เห็นว่าการช่วยตอบสนองด้านความต้องการเงินทุนสำหรับกิจการ SME ที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) จะช่วยให้รายได้ต่อหัวของประชากรเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย ร้อยละ 12 ภายในปี 2573 ผู้ประกอบการหญิงในไทยจึงมีศักยภาพในการร่วมผลักดันประเทศสู่ความเติบโตในอนาคต”
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด