“ธนาคารกรุงไทย” จับมือ “อินฟินิธัส” ยกระดับดิจิทัลเพย์เมนต์ เปิดตัวบริการใหม่ “เป๋าตังเปย์” ที่สุดของซูเปอร์วอลเล็ต สร้างประสบการณ์ใหม่ตอบโจทย์สังคมไร้เงินสด ตรงใจคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด “เปย์ไป มีแต่ได้” ชูจุดแข็ง Thailand Open Digital Platform เชื่อมต่อทุกการใช้จ่าย ให้ “เปย์สนุก” กับทุก การใช้จ่าย “เปย์ครบ” ทุกรูปแบบการใช้จ่าย เติม โอน จ่ายบิล “เปย์คุ้ม” ยิ่งใช้ยิ่งได้ส่วนลด และ สิทธิประโยชน์มากมาย คาดมีผู้ใช้งานกว่า 5 ล้านรายภายในปี 2566
คุณผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทย ในฐานะผู้นำดิจิทัลแบงกิ้งของไทย วางยุทธศาสตร์ชัดเจนในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ใน 5 Ecosystems หลัก ทั้งบริการภาครัฐ การศึกษา การขนส่งมวลชน สุขภาพและการรักษาพยาบาล รวมถึงการชำระเงิน ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการหลักของระบบธนาคาร และเป็นปัจจัยสนับสนุนทุกกิจกรรมในระบบเศรษฐกิจ โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รูปแบบการชำระเงินของไทยเปลี่ยนแปลงไปสู่การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Digital Payment อย่างชัดเจน จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ประชาชนหันมาใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัลแทนเงินสดมากขึ้น
จากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย ล่าสุด ณ เดือนกันยายน 2565 การใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) เพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ 400 รายการต่อคนต่อปี จากปี 2564 อยู่ที่ 312 รายการต่อคนต่อปีและปี 2563 อยู่ที่ 202 รายการต่อคนต่อปี โดยช่องทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Internet & Mobile Banking มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 133 ล้านบัญชี มีปริมาณธุรกรรม 2,139 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 48.6% มูลค่ารวม 8.43 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.3% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีธุรกรรมที่เติบโตสูงคือ บริการชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ซึ่งเป็นการชำระเงินของคนรุ่นใหม่ มีไลฟ์สไตล์ชอบความสะดวก รวดเร็ว ทำธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์บนมือถือ โดยมีจำนวนผู้ใช้งานถึง 122.6 ล้านบัญชี ปริมาณธุรกรรม 302 ล้านรายการต่อเดือน เพิ่มขึ้น 38.5% มูลค่ารวม 5.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เพื่อตอกย้ำการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมไร้เงินสดอย่างยั่งยืน ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับ บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จึงพัฒนา “เป๋าตังเปย์” (Paotang Pay) ให้เป็นซูเปอร์วอลเล็ตของคนไทย เพิ่มศักยภาพดิจิทัลเพย์เมนต์แอปฯ “เป๋าตัง” ให้ครบวงจรมากขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัล โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้งานกว่า 5 ล้านราย ภายในสิ้นปี 2566
ทั้งนี้นิยามของเป๋าตังเปย์คือ 1.Open คือการเปิดกว้างตอบโจทย์ทุกอย่าง 2.Popular คือการได้รับความนิยม ได้รับการยอมรับ
ขณะเดียวกันคาดว่าไม่เกิน 3 ปี ตั้งเป้าจากการเป็น Super App สู่การเป็น Super Wallet โดยที่มีการตั้งงบ 10,000-12,000 ล้านบาทต่อปีในการลงทุนด้านดิจิทัล
รวมทั้งจะมีการสร้าง Foundation Payment ก่อน ๆ ที่จะเห็นการปล่อยกู้ในปี 2566 ซึ่งทางคุณผยง ก็ได้มีการเปิดเผยว่ามีโอกาสในการปล่อยกู้ในปีหน้านี้ผ่านแพลตฟอร์มเป๋าตังเปย์
คุณประราลี รัตน์ประสาทพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จำกัด ผู้พัฒนาแอปฯ เป๋าตัง กล่าวว่า ทิศทางการชำระเงินในอนาคตมุ่งสู่ Digital Payment อย่างชัดเจน จากรายงาน Global Payments ของ World Pay ชี้ว่า ปัจจัยสนับสนุนคือ
1. ความนิยมซูเปอร์แอป หรือแอปฯ ที่รวมฟังก์ชันต่างๆเข้าด้วยกัน เพราะช่วยให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์การใช้จ่ายแบบครบวงจรจากแพลตฟอร์มเดียว
2. ผู้บริโภคชอบการชำระเงินที่มีความคล่องตัว ใช้งานง่ายและรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องพกเงินสด
3. ผู้ให้บริการ e-Commerce ชั้นนำต่างเปิดรับการชำระเงินด้วยวอลเล็ต รวมถึงเปิดวอลเล็ตของตัวเอง เพิ่มช่องทางการรับชำระค่าสินค้าและบริการให้ผู้บริโภค
4. มีช่องทางการเติมเงินเข้าวอลเล็ตที่หลากหลายขึ้น ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัญชีธนาคาร เป็นต้น
5. การชำระเงินแบบไร้สัมผัสมีการเร่งตัวขึ้น โดยผู้บริโภคเริ่มใช้เงินสดน้อยลงและใช้วอลเล็ตมากขึ้น
จากทิศทางดังกล่าว บริษัทจึงพัฒนา “เป๋าตังเปย์” ให้เป็นบริการอีกขั้นของการชำระเงินในรูปแบบซูเปอร์ วอลเล็ตบนแอปฯ เป๋าตัง ที่ผสานความสามารถของ Bank App และ e-Wallet เข้าด้วยกันให้บริการแบบ Open Loop เป็นวอลเล็ตแรก โดยใช้ QR พร้อมเพย์ เป็นตัวกลาง เปิดกว้างทุกการใช้จ่าย ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้จ่ายทุกร้านค้าได้อย่างอิสระ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ มุ่งขยายฐานผู้ใช้งานกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และวัยเริ่มต้นทำงานที่มีเพียง 30% บนแอปฯ เป๋าตังเป็นหลัก และเพื่อให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง
“เป๋าตังเปย์” จึงถูกออกแบบและพัฒนาโดยทีมคนรุ่นใหม่ INFINITAS NEXT GEN TEAM ภายใต้แนวคิด “เปย์ไปมีแต่ได้” ครอบคลุมทั้งบริการโอนเงิน เติมเงิน สแกนจ่ายผ่านคิวอาร์พร้อมเพย์ได้ทุกธนาคาร และทุกร้านค้าทั่วไทย รวมถึงใช้ชำระบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ บัตรเครดิต ประกัน หรือค่าธรรมเนียมหน่วยงานภาครัฐ ฯลฯ ซึ่งจะมาพร้อมสิทธิประโยชน์และภารกิจสนุกๆ เพื่อพิชิตคูปองส่วนลดมากมาย
นอกจากนี้ เพื่อให้สามารถใช้จ่ายได้ทุกร้านทั่วไทยอย่างแท้จริง ยังได้เปิดตัว บัตรเพลย์ บัตรที่เชื่อมกับ เป๋าตังเปย์ ผสานการใช้งานออนไลน์-ออฟไลน์ ใช้ชำระค่าโดยสารระบบขนส่งมวลชน แบบ Contactless แตะจ่ายได้ทั้งรถ ราง และทางด่วน ใช้ซื้อสินค้าออนไลน์ และรูดจ่ายผ่านเครื่อง EDC Payment ยกเว้นค่าธรรมเนียมในการออกบัตร เมื่อออกบัตรภายในวันที่ 31 มกราคม 2566 และใช้จ่ายผ่านบัตรเพลย์ ครบ 1,000 บาท/บัตร/เดือน รับสิทธิ์รับเครดิตเงินคืนเข้าเป๋าตังเปย์ 45 บาทต่อเดือน (จำกัด 1,000 สิทธิ์/เดือน) ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565 – 28 กุมภาพันธ์ 2566
คุณสุพร สุนทรโรหิต Chief Business Innovation Officer บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จํากัด กล่าวว่า “เป๋าตังเปย์” พร้อมมอบความสะดวกสบายให้ผู้ใช้งานได้อย่างไร้รอยต่อ เพียงแค่มีแอปฯ เป๋าตัง ก็สมัครใช้งานได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพียงกรอกข้อมูลบัตรประชาชนข้อมูล CDD (Customer Due Diligence) สแกนใบหน้ายืนยันตัวตน หากสมัครเป๋าตังเปย์สำเร็จ จะสามารถกดสมัครบัตรเพลย์บนแอปฯ เป๋าตังได้ทันที สะดวก และสามารถเติมเงินได้หลายช่องทาง ทั้ง G-Wallet Krungthai NEXT และ Mobile Banking ของทุกธนาคาร หรือผ่าน QR Code รับเงิน โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้งานดาวน์โหลดเป๋าตังเปย์อยู่ที่ 115,600 ราย
ทั้งนี้เป๋าตังเปย์และบัตรเพลย์ จะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับการใช้จ่ายของคนไทย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ “เปย์สนุก” “เปย์ครบ” ทุกธุรกรรม และ “เปย์คุ้ม” รับส่วนลดมากมาย เมื่อสมัครใช้งาน และใช้จ่ายผ่านเป๋าตังเปย์ที่ร้านค้าถุงเงิน เพียง 50 บาท รับส่วนลด 10 บาททันที สูงสุดคนละ 5 สิทธิ รวม 500,000 สิทธิ และจ่ายเพียงบาทเดียว เมื่อซื้อ Wall’s จำกัด 150,000 สิทธิ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน - 31 ธันวาคม 2565 นอกจากนี้ ยังมีคูปองส่วนลดช้อปปิ้ง กิน เที่ยว ทุกเดือนกับพาร์ทเนอร์อีกจำนวนมาก
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด