ลาซาด้า เดินหน้าขยายบริการ “ส่งเร็วพิเศษ (Priority Delivery)” ครอบคลุมพื้นที่ 23 จังหวัดสำคัญทั่วไทย ชูจุดขายรับสินค้าทันใจภายในวันถัดไปหลังสั่งซื้อ โชว์ศักยภาพเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติในศูนย์โลจิสติกส์แห่งใหม่บนถนนเทพารักษ์ พร้อมมุ่งยกระดับประสิทธิภาพและมาตรฐานบริการโลจิสติกส์ ด้วยกระบวนการคัดแยกพัสดุที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
ศูนย์คัดแยกสินค้าเทพารักษ์ช่วยเพิ่มกำลังคัดแยกพัสดุทั้งหมดของ ลาซาด้า ในประเทศไทย รวมเป็นกว่า 2 ล้านชิ้นต่อวัน รองรับพฤติกรรมการช้อปปิงออนไลน์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซไทย
เจมส์ มาร์แชนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายโลจิสติกส์ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ลาซาด้าเชื่อว่าอีโคซิสเต็มด้านโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมและทันสมัย ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยให้อีคอมเมิร์ซเติบโตได้อย่างยั่งยืน ในฐานะผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำที่มุ่งนำเสนอโซลูชันครบวงจร ลาซาด้า โลจิสติกส์ ให้ความสำคัญกับการส่งมอบบริการที่รวดเร็วและไร้รอยต่อ ซึ่งรวมถึงการยกระดับศูนย์โลจิสติกส์ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางและประสิทธิภาพของกระบวนการต่างๆ ไปจนถึงการนำเสนอบริการ ‘ส่งเร็วพิเศษ’ ซึ่งเป็นตัวเลือกในการจัดส่งสินค้าสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการได้รับสินค้าเร็วยิ่งขึ้น”
บริการ “ส่งเร็วพิเศษ (Priority Delivery)” ของลาซาด้า เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2565 เป็นต้นมา โดยผู้ซื้อจะได้รับสินค้าภายใน 2 วันทำการหลังจากวันที่ทำการสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้า LazMall หรือ ร้านค้าแนะนำ (LazPick) และผู้ขายมาร์เก็ตเพลสที่เข้าร่วมบริการ โดยไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ปัจจุบันให้บริการครอบคลุม 23 จังหวัดสำคัญทั่วประเทศ อาทิ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ชลบุรี และ นครราชสีมา เป็นต้น โดยนักช้อปสามารถเลือกซื้อสินค้าที่มีสัญลักษณ์บริการส่งเร็วพิเศษได้จากหน้าเพจสินค้าหรือเลือกผ่านตัวกรองในหน้าค้นหาสินค้า
“เราพบว่าลูกค้าที่ได้ใช้บริการส่งเร็วพิเศษมีแนวโน้มที่จะมีความพึงพอใจต่อการซื้อสินค้าชิ้นนั้นๆ เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราการยกเลิกคำสั่งซื้อโดยรวมต่ำลง และทำให้ยอดขายของแบรนด์เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลาซาด้าสามารถขยายบริการส่งเร็วพิเศษได้อย่างต่อเนื่อง คือ การมีศูนย์คัดแยกสินค้าในบริเวณที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย” เจมส์ มาร์แชนท์ เสริม
ศูนย์คัดแยกสินค้าเทพารักษ์ครบครันด้วยเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติที่ครอบคลุมการปฏิบัติงานกว่า 75% ของศูนย์ฯ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ในหลายด้าน โดยระบบอัตโนมัติในการจัดเรียง คัดแยก และบรรจุพัสดุลงถุงเพื่อไปยังสถานีปลายทางต่างๆ ลดการพึ่งพาการใช้แรงงาน ช่วยให้พนักงานสามารถใช้เวลากับงานที่มีความสำคัญได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมแล้ว ยังยกระดับความปลอดภัยให้แก่พนักงานด้วย
นอกจากนี้ ความแม่นยำในการคัดแยกพัสดุที่เพิ่มขึ้นทำให้สินค้าสามารถจัดส่งได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว รวมถึงช่วยลดแรงกระแทกในกระบวนการคัดแยกซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่พัสดุจะเสียหาย นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มกำลังการคัดแยกได้เพิ่มเติมเพื่อรองรับยอดคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงเมกะแคมเปญซึ่งเป็นช่วงสร้างรายได้สำคัญให้แก่ร้านค้า
ข้อมูลอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับศูนย์คัดแยกสินค้าเทพารักษ์
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด
[email protected]