Lensa AI แอพลิเคชันที่ใช้ AI เปลี่ยนภาพเซลฟี่ของเราให้เป็น AI Portriat หรือภาพดิจิทัลสไตล์ต่างๆ ทั้งไซไฟ อนิเมะ แฟนตาซี ป็อปอาร์ท ผ่านฟีเจอร์ “Magic Avatars” นิยมต่อเนื่อง ที่ล่าสุดยอดดาวน์โหลดขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของ App Store มียอดติดตั้งทั่วโลก 12.6 ล้านครั้งในช่วงต้นเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 600% จากเดือนที่แล้ว ดูสถิติ
The Rapid Rise of Lensa AI
นอกจากนี้ยังพาเอาแอพลิเคชันที่มีฟีเจอร์แก้ไขหรือตกแต่งภาพด้วย AI คล้ายๆกัน ก้าวขึ้นสู่ 3 อันดับแรก ใน App Store ของสหรัฐฯ ติดอันดับท็อปตามกันอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน เช่น AI Art, Wonder, Prequel, Voi, Dream, Pixelup เป็นต้น แสดงให้เห็นถึงกระแสความนิยมในวงกว้าง
Lensa AI สร้างขึ้นในตั้งแต่ปี 2018 แต่ฟีเจอร์ “Magic Avatars” นั้นเปิดตัวในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้และกลายเป็นไวรัลในช่วงข้ามคืน ทำให้แอปฯขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต “Photo & Video” ของ iOS App Store
ปัจจุบันเปิดให้ทดลองใช้ฟรีเจ็ดวัน ทั้งใน iOS และ Android โดยมีค่าธรรมเนียมเพื่อปลดล็อคความพรีเมียมไม่จำกัดรายปีตั้งแต่ $3.99 ถึง $49.99 หรือราว 140-1,500 บาท
แม้ว่าในบางมุมมอง รูปภาพที่ปรากฎเสมือนเป็นงานศิลปะดิจิทัล แต่ผู้ที่กังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลและการใช้งาน ไม่แพ้การใช้งาน AI ที่พัฒนามาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะกรณีโมเดล Stable Diffusion
เทคโนโลยีของ Lensa AI อาศัยรูปแบบการเรียนรู้เชิงลึกที่เรียกว่า Stable Diffusion สร้างขึ้นโดยใช้ LAION-5B ซึ่งเป็นชุดข้อมูลโอเพ่นซอร์สขนาดใหญ่ที่รวบรวมภาพ โดยการคัดลอกรูปภาพจากอินเทอร์เน็ต เพื่อนำมาใช้ฝึกฝนปัญญาประดิษฐ์
นอกจากนี้แอปฯ ยังดึงภาพจากแหล่งต่างๆ ทั้งภาพที่มีลายน้ำ งานที่มีลิขสิทธิ์ และภาพจำนวนมากจาก Pinterest หรือ Flickr ภาพประกอบจาก DeviantArt และ ArtStation และภาพสต็อกจากเว็บไซต์เช่น Getty และ Shutterstock
ซึ่งขณะเดียวกันศิลปินไม่สามารถเข้าร่วมหรือยกเลิกการรวมผลงานศิลปะของพวกเขาไว้ในชุดข้อมูลได้ สร้างความกังวลต่อศิลปินบางคนที่กล่าวว่า Stable Diffusion อาศัยงานศิลปะของพวกเขาในการสร้างภาพ แต่เจ้าของภาพไม่ได้รับเครดิตหรือค่าตอบแทนสำหรับผลงานของพวกเขาด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ยังมีประเด็นความไม่ปลอดภัยในการจัดการรูปภาพที่อัปโหลดไปยังแอปฯเหล่านี้ และแอปฯ แก้ไขภาพลักษณะดังกล่าวหลายแอปฯ ถูกพบว่าเป็นพาหะของมัลแวร์เหมือนในกรณี FaceApp
อย่างไรก็ตาม Prisma Labs ทีมงานที่อยู่เบื้องหลัง Lensa AI ระบุว่าบริษัทใช้บริการคลาวด์ของ AWS เพื่อประมวลผลภาพถ่ายของผู้ใช้ ทันทีที่โมเดล AI ได้รับการฝึกฝนบนภาพถ่ายของผู้ใช้ รูปภาพจะถูกลบทันทีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งาน อย่างไรก็ตาม กล่าวอีกนัยหนึ่ง รูปภาพต้นฉบับจะหายไป แต่ภาพที่ Lensa สร้างขึ้น Prisma Labs ยังคงมีอยู่
นอกจากนี้ยังมีประเด็นการแบ่งแยก อคติและการสร้างภาพตัวแทน โดย Lensa AI ได้เจเนอเรทภาพเปลือยของหญิงสาวที่ทดลองเล่นออกมาจำนวนมากจนมีลักษณะเกินจริง
"ในขณะที่ Lensa สร้างอวาตาร์ที่เหมือนจริงให้กับเพื่อนผู้ชายของฉัน เช่น นักบินอวกาศ นักรบผู้ดุร้าย และภาพหน้าปกเจ๋งๆ สำหรับอัลบั้มเพลงอิเล็กทรอนิกส์ ฉันมีภาพเปลือยมากมาย จากอวาตาร์ 100 อันที่ฉันสร้าง มี 16 อันเปลือยท่อนบน และอีก 14 อันทำให้ฉันสวมเสื้อผ้าที่ขาดๆ เกินๆ และโพสท่ายั่วยวนทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง"
"ฉันมีเชื้อสายเอเชีย และนั่นดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่โมเดล AI เลือกจากภาพเซลฟี่ของฉัน ฉันได้ภาพผู้หญิงเอเชียทั่วไปที่จำลองมาจากตัวละครในอนิเมะหรือวิดีโอเกมอย่างชัดเจน"
Aylin Caliskan ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ผู้ศึกษาเรื่องอคติและการเป็นตัวแทนในระบบ AI กล่าวว่า Lensa สร้างอวตารโดยใช้ Stable Diffusion
"จึงไม่น่าแปลกใจที่อินเทอร์เน็ตนั้นเต็มไปด้วยภาพของผู้หญิงที่เปลือยกายและภาพที่สะท้อนถึงการเหยียดเพศ การเหยียดเชื้อชาติ ชุดข้อมูลจึงมีแนวโน้มเอนเอียงไปทางภาพประเภทนี้ด้วย สิ่งนี้นำไปสู่โมเดล AI ที่ทำให้ผู้หญิงถูกจัดด้วยตามการนำเสนอรูปแบบต่างๆ โดยไม่คำนึงว่าพวกเธอต้องการถูกนำเสนอในลักษณะนั้นหรือไม่"
อย่างไรก็ตาม โฆษกของ Prisma Labs กล่าวว่า การแสดงภาพทางเพศเกิดขึ้นกับผู้คนทุกเพศทุกวัยในรูปแบบที่แตกต่างกัน บริษัทอ้างว่าตระหนักถึงความสำคัญเรื่องนี้เป็นอย่างดี และกำลังพยายามแก้ไขปัญหา โดยการปรับความสัมพันธ์ระหว่างคำและรูปภาพบางคำในลักษณะที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดอคติอย่างต่อเนื่อง
อ้างอิงข้อมูลจาก
AI art apps are cluttering the App Store’s Top Charts following Lensa AI’s success
Lensa AI, the app making ‘magic avatars,’ raises red flags for artists
AI photography is taking over social media. Why are some concerned about privacy?
The viral AI avatar app Lensa undressed me—without my consent
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด