LINE MOBILE เปลี่ยนชื่อเป็น FINN MOBILE คาดหมดสัญญากับ LINE แล้ว | Techsauce

LINE MOBILE เปลี่ยนชื่อเป็น FINN MOBILE คาดหมดสัญญากับ LINE แล้ว

LINE MOBILE บริการซิมมือถือรูปแบบดิจิทัลที่ต้องสมัครผ่านเว็บไซต์ โดยให้บริการโดย DTN [Dtac Network] ซึ่งมีการ Co - Branding กับ LINE ในการทำการตลาด ซึ่งล่าสุดคาดว่าน่าจะหมดสัญญากับ LINE แล้ว โดยประกาศเปลี่ยนชื่อบริการเป็น FINN MOBILE เริ่มต้น 17 กันยายนนี้

อ่านประกอบ ถอดบทเรียน LINE MOBILE

LINE MOBILE ประกาศผ่านทาง Facebook ว่า  ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2562 เป็นต้นไป ซิม LINE MOBILE ชื่อใหม่คือ FINN MOBILE โดยเผยให้ความมั่นใจกับลูกค้าว่าบริการยังคงเป็นไปตามปกติ ดังนี้

ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการทุกอย่างเหมือนเดิมตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น - ราคาที่ถูกกว่าแน่นอน ลดสูงสุด 70% นาน 12 รอบบิล เริ่มต้นเพียง 179 บาท/เดือน เน็ต 5GB โทร 150 นาที - บริการที่ไม่มีสัญญาผูกมัด เปลี่ยนแพ็กเกจ ยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ - เล่น LINE ดู LINE TV ฟรีไม่เสียเน็ต - ชวนเพื่อนมาใช้ ได้ส่วนลดทั้งคุณและเพื่อนตลอดไป - จัดการทุกอย่างได้เองผ่านออนไลน์ 24 ชม. ผ่านเว็บไซต์และแอป FINN MOBILE (เริ่มใช้งานได้ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป)

ทั้งนี้ยังจะมีการส่งโปรใหม่ให้กับลูกค้าสำหรับการเปลี่ยนชื่อเป็น FINN MOBILE อีกด้วย

สำหรับ LINE MOBILE เป็นบริการที่ DTN ร่วมมือกับ LINE ในการให้บริการ ซึ่งคาดว่าการเปลี่ยนชื่อในครั้งนี้เนื่องมาจากการหมดสัญญาการ Co - Branding

อ้างอิง LINE MOBILE

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Elon Musk ส่งอีเมลถึงราชกาให้เลือกลาออกหรืออยู่ต่อ เหมือนที่เคยทำกับพนักงาน Twitter ปี 2022

เกิดแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในระบบราชการสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แต่งตั้ง อีลอน มัสก์ ให้เป็นหัวหน้ากระทรวงเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐ หรือ DOGE โดยมัสก์และทีมงานได้เดินหน้...

Responsive image

SparkCat คืออะไร ทำงานอย่างไร ? มัลแวร์ตัวแรกบน AppStore ลอบขโมยข้อมูลคริปโตผ่านรูปภาพ

มัลแวร์ SparkCat ถูกพบใน AppStore และ Google Play ใช้เทคโนโลยี OCR ขโมยข้อมูลคริปโตจากรูปภาพในแกลเลอรี ระวังการให้สิทธิ์แอปที่ไม่น่าไว้วางใจ...

Responsive image

นักวิจัยสหรัฐฯ สร้างคู่แข่ง AI จีน DeepSeek ด้วยต้นทุนแค่ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ

นักวิจัยจาก Stanford และ University of Washington สร้างโมเดล AI ด้านการให้เหตุผล s1 คู่แข่ง OpenAI o1 ด้วยต้นทุนต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ โดยใช้เทคนิค Distillation และข้อมูลจาก Gemini 2.0...