ฟังวิสัยทัศน์ Microsoft ภายใต้กรอบ FY2025 เพราะ AI คือ โอกาสของไทย ที่ทั่วโลกกำลังเริ่มต้นพร้อมกัน | Techsauce

ฟังวิสัยทัศน์ Microsoft ภายใต้กรอบ FY2025 เพราะ AI คือ โอกาสของไทย ที่ทั่วโลกกำลังเริ่มต้นพร้อมกัน

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคม Satya Nadella, CEO ของ Microsoft ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมงาน Microsoft Build: AI Day ในโอกาสนี้เขาได้ประกาศข่าวสำคัญเกี่ยวกับการที่ Microsoft จะลงทุนสร้าง Data Center ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของคำมั่นสัญญาที่ Microsoft มีต่อคนไทย ในการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ปลดล็อกศักยภาพและความสามารถของประเทศอย่างเต็มที่

ในงานเปิดวิสัยทัศน์ FY2025 และแผนการขับเคลื่อนภารกิจของ Microsoft ในวันนี้ (29/8/2024) คุณธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ Microsoft (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า การลงทุนของ Microsoft ในประเทศไทย ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องเม็ดเงินลงทุน แต่ยังรวมถึงการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรม

AI คือโอกาสครั้งสำคัญของไทยสู่การเติบโตอย่างก้าวกระโดด

“AI ก็คือเทคโนโลยีที่คล้ายกับไฟฟ้า เทคโนโลยีที่สร้างโอกาสในวงกว้าง”

โดยคุณธนวัฒน์ เปรียบเทียบว่า AI เป็นเหมือนกระแสไฟฟ้า ในแง่ที่เป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่สามารถปรับใช้ได้หลายๆ ด้าน และสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ การพัฒนาของไฟฟ้าในศตวรรษที่ 18 ที่นิวยอร์กเป็นตัวอย่างที่ดี ไฟฟ้าทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเติบโตอย่างมหาศาลและกลายเป็นรากฐานของความก้าวหน้าหลายอย่าง แต่กว่าที่ไฟฟ้าจะเข้าถึงทั่วโลก เช่น แอฟริกาใต้ ต้องใช้เวลาถึง 150 ปี

แต่ในกรณีของ AI ชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีนี้มีการเติบโตและการยอมรับที่รวดเร็วมาก ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนหลังจากการเปิดตัว ChatGPT มีผู้ใช้ที่ใช้งานกว่า 100 ล้านคน นี่แสดงถึงพลังของ AI ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง

วิสัยทัศน์ใหม่ของ Microsoft จึงมาในชื่อของ "AI for All Thais" หรือมุ่งเน้นเสริมศักยภาพให้คนไทยทุกคนและทุกองค์กรในประเทศด้วยเทคโนโลยี Generative AI ที่ทันสมัย โดยใช้กลยุทธ์หลัก 3 ด้าน คือ การสร้างทักษะ เสริมขีดความสามารถ และสานต่อความมั่นคง

สร้างทักษะ

Microsoft มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะด้าน AI ให้กับคนไทยอย่างยั่งยืน ผ่านโครงการ ‘AI National Skill Initiative’ ที่มีเป้าหมายในการสนับสนุนทักษะ AI ที่จำเป็นให้กับคนไทย 1 ล้านคนภายในปีหน้า โดยมีหลักสูตรฝึกอบรมเป็นภาษาไทยกว่า 80% ครอบคลุมทุกระดับการใช้งาน ทั้งผู้ใช้งานทั่วไป ผู้บริหาร และนักพัฒนา เพื่อให้ทุกคนสามารถนำ AI ไปประยุกต์ใช้ในการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน และการสร้างสรรค์นวัตกรรมได้

เสริมขีดความสามารถ

Microsoft ต้องการให้คนไทยและองค์กรไทยได้รับประโยชน์จาก AI อย่างเต็มที่ โดยเปิดให้ผู้ใช้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไป นักเรียน ครูอาจารย์ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ และข้าราชการ เข้าถึงเครื่องมือและบริการที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น Copilot บน Windows และ Edge, Microsoft Designer, Cocreator, Paint บน Windows 11, ฟีเจอร์ Reading Progress ใน Microsoft Teams และ Reading Immersive ใน Microsoft Word, GitHub Copilot และ Copilot+ PC

ในระดับองค์กร Microsoft จะเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงานให้กับองค์กรยุคใหม่ ด้วยโซลูชันที่ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์และความคล่องตัว โดยทำงานร่วมกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนในทุกอุตสาหกรรม

สานต่อความมั่นคง

Microsoft ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อให้ผู้ใช้ไว้วางใจในผลิตภัณฑ์และบริการ โดยขยายความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนในการเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศ และเสริมทักษะด้านการใช้ AI เพื่อความปลอดภัยไซเบอร์ รวมถึงการใช้งาน AI อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และมีความรับผิดชอบ

นอกจากนี้คุณธนวัฒน์ ยังได้ยกตัวอย่างที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้ AI ในภาคเกษตรกรรมว่า ประเทศไทยมี Painpoint คือ การที่การเกษตรเป็นกระดูกสันหลังของประเทศไทยมานาน และ 40% ของแรงงานไทยทำงานในภาคการเกษตร รวมถึงพื้นที่เกษตรกรรมก็ครอบคลุมถึงครึ่งหนึ่งของพื้นที่ทั้งหมดของประเทศ แต่กลับสร้างผลผลิตทางเศรษฐกิจ (GDP) เพียงแค่ 6% ของ GDP ทั้งหมด นี่สะท้อนถึงความจำเป็นในการปรับปรุงประสิทธิภาพในภาคการเกษตร 

โดย AI เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สามารถนำมาใช้เพื่อวิเคราะห์ว่า พื้นที่ไหนเหมาะสมกับการปลูกพืชอะไร โดยพิจารณาทั้งสภาพพื้นที่และความต้องการของตลาด เช่น การปลูกข้าวในภาคอีสานซึ่งมีน้ำไม่เพียงพอ อาจทำให้สามารถปลูกได้เพียงรอบเดียวต่อปี แต่ถ้าปลูกข้าวที่อ่างทอง ซึ่งมีน้ำเพียงพอ จะสามารถปลูกได้ 2-3 รอบต่อปี

AI ยังสามารถใช้ในการวิเคราะห์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ โดยการทำวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อให้เกษตรกรสามารถปลูกพืชที่มีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้และความยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งเป็นโอกาสที่จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคตได้เช่นกัน

ผมพูดเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว และหวังว่าปีนี้จะเริ่มเห็นผลจริงจังมากขึ้น สิ่งที่เราต้องทำคือเปลี่ยนประเทศไทยจาก 'Made in Thailand' เป็น 'Born in Thailand' เดิมทีเรามีบทบาทแค่ผลิตและส่งออก ซึ่งได้กำไรไม่มาก แต่ถ้าเราสร้างสรรค์นวัตกรรมและส่งออกสิ่งที่เกิดจากไอเดียของคนไทยเอง ผลตอบแทนจะมหาศาลแค่ไหน และแน่นอนว่า AI จะเข้ามาช่วยจุดนี้ได้ - ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ Microsoft (ประเทศไทย) 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

อดีตซีอีโอ Nissan เตือน การควบรวมกิจการกับ Honda อาจทำให้เจอ 'ปัญหา' การลดต้นทุนครั้งใหญ่

Carlos Ghosn อดีตซีอีโอของ Nissan ออกมาเตือนว่า บริษัทอาจต้องเผชิญกับ "หายนะ" จากการลดต้นทุนครั้งใหญ่ หากตัดสินใจควบรวมกิจการกับ Honda โดยเขาให้เหตุผลว่า ทั้งสองบริษัทมีความซ้ำซ้อน...

Responsive image

เชื่อหมอมากกว่า TikTok ? วิจัยชี้ คำแนะนำทางการแพทย์เกือบครึ่ง 'มั่ว'

Tebra บริษัทวิจัยด้านสุขภาพ ได้ทำการวิเคราะห์วิดีโอบนแพลตฟอร์ม TikTok กว่า 5,000 รายการ ที่มีความเกี่ยวข้องกับคำแนะนำทางการแพทย์ เพื่อทำการประเมินความถูกต้องของ ซึ่งผลลัพธ์แสดงให้เ...

Responsive image

Zoom เผย 10 เทรนด์ AI ในการทำงาน ที่ต้องจับตา ปี 2025

ในปี 2568 บริษัทซูม วิดีโอคอมมิวนิเคชันส์ (Zoom) มองว่าเทคโนโลยี AI อาจเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในหลายๆด้าน บริษัทที่ใช้ AI เป็นหลัก จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพพนักงาน สร้างประสบการ...