Apple เปิดตัวชิป M1 Ultra เสริมประสิทธิภาพแบบที่ PC ไม่เคยมีมาก่อน | Techsauce

Apple เปิดตัวชิป M1 Ultra เสริมประสิทธิภาพแบบที่ PC ไม่เคยมีมาก่อน

Apple สร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวชิป M1 Ultra ที่เสริมสเปคและการประหยัดพลังงานในระดับก้าวกระโดด โดย Apple กล่าวว่าชิปนี้จะกลายเป็นหน่วยประมวลผลที่เร็วที่สุดและมีประสิทธิภาพของ CPU เมื่อเทียบต่อวัตต์ที่ดีที่สุดในโลกAppleM1 Ultra มาพร้อมการเชื่อมต่อแผ่นวงจรชิป M1 Max สองตัวจนกลายเป็นหนึ่งเดียวแบบ SoC (System on Chip) มีสถาปัตยกรรมการบรรจุชิป UltraFusion ที่ Apple สร้างเอง ทำให้สามารถส่งข้อมูลได้มากถึง 2.5 TB/s ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ CPU 20 Core, GPU 64 Core ที่มี ProRes hardware acceleration และส่วนประกอบ Processor อื่นๆ ที่ไม่จำเป็นต้องคัดลอกข้อมูลระหว่างกัน และสามารถเข้าถึง Data pool เดียวกันได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อม Neural Engine 32 Core ที่เหนือชั้นด้วยการคำนวณแบบ Machine Learning ทำให้นับได้ว่าชิป M1 Ultra เป็นชิปที่แรงที่สุดเท่าที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน แต่ถึงจะเป็น chipset ที่แรงมาก M1 Ultra กลับใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 1,000 KWh ในระยะเวลาหนึ่งปี เมื่อเทียบกับ PC ระดับไฮเอนด์ทั่วไป

ชิป M1 Ultra นี้จะถูกนำไปใช้เพิ่มความสามารถให้กับผลิตภัณฑ์ตระกูล M1 ใน Mac Studio ที่พึ่งเปิดตัวไม่นานมานี้ ซึ่งก็เป็นที่น่าจับตามองว่าผู้ผลิต Processor เจ้าอื่นจะแก้เกมนี้อย่างไร

อ้างอิง Apple

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Burnout ใครว่าเรื่องเล็ก พนักงานหมดไฟ 1 คน บริษัทจะเสียเงินเท่าไหร่?

ภาวะหมดไฟ หรือ Burnout Syndrome ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่คอยกัดกินสุขภาพกายและใจของเรา แต่มันคือ 'ระเบิดเวลา' ที่ถูกมองความและสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับหลายองค์กรทั...

Responsive image

Techsauce - สภาหอการค้าไทย - มหาวิทยาลัยหอการค้า จับมือเตรียมยกระดับภาคการศึกษาและธุรกิจไทย

Techsauce สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (Harbour.Space@UTCC) ลงนาม MOU ส่งเสริมองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพของเยาวชนและผู้ประกอบการไทย...

Responsive image

OpenAI เปิดตัว Responses API เร่งพัฒนา AI Agents ใช้จริงในโลกธุรกิจ

OpenAI ได้ประกาศเปิดตัวเครื่องมือใหม่ล่าสุดในชื่อ Responses API ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันการพัฒนา AI Agents หรือระบบอัตโนมัติที่สามารถปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง โดย...