Major ทุ่มเงินกว่า 570 ล้านบาท เข้าถือหุ้นใน เถ้าแก่น้อย สัดส่วน 5% หวังสร้างความแข็งแกร่งร่วมกันในอนาคต | Techsauce

Major ทุ่มเงินกว่า 570 ล้านบาท เข้าถือหุ้นใน เถ้าแก่น้อย สัดส่วน 5% หวังสร้างความแข็งแกร่งร่วมกันในอนาคต

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มาหุ้นของ บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) โดย บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป  ( Major) ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา 69 ล้านหุ้น คิดเป็น 5% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา คิดเป็น 5% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

Major ทุ่มเงินกว่า 570 ล้านบาท เข้าถือหุ้นใน เถ้าแก่น้อย สัดส่วน 5% หวังสร้างความแข็งแกร่งร่วมกันในอนาคต

โดยมีราคาซื้อสูงสุดที่หุ้นละ 8.2565 บาท คิดเป็นมูลค่าราว 570 ล้านบาท จากสัดส่วนดังกล่าว จะทำให้ MAJOR ขึ้นไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 4 ของเถ้าแก่น้อยทันที รองจาก "อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ หรือ ต๊อบ" ที่ถือหุ้นในนามส่วนตัวและในนามบริษัทรวมกัน 49% และไทยเอ็นวีดีอาร์ที่ถืออยู่ราว 7% 

สำหรับรายการซื้อขายดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 โดยทำรายการผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส 

Major เข้าเก็บหุ้นบนกระดานเทรด สะท้อนความเชื่อมั่น ยันไม่กระทบการจัดการและนโยบายดำเนินธุรกิจของบริษัท

ด้านคุณอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า ‘เถ้าแก่น้อย’ เปิดเผยว่า จากกรณีข่าว MAJOR ได้เข้าซื้อหุ้น TKN จำนวน 69 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 5% ซึ่งบริษัทฯ ขอชี้แจงว่า กลุ่มผู้ถือหุ้น TKN ไม่มีการขายหุ้น Big Lot ให้กับ MAJOR แต่อย่างใด 

โดยการเข้าซื้อหุ้น TKN ของทาง MAJOR เป็นเพียงการทยอยเข้าซื้อหุ้นหน้ากระดานเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของทาง MAJOR เท่านั้น อย่างไรก็ตาม รายการดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างการจัดการและนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด 

“การที่ MAJOR เข้าลงทุนถือหุ้นในบริษัทฯ เนื่องจากมองเห็นศักยภาพ โอกาสเติบโต และจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะมีการ Synergy เพื่อสร้างความแข็งแกร่งร่วมกันในอนาคต เพราะ TKN มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจขนมขบเคี้ยว ส่วน MAJOR มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจโรงภาพยนตร์” คุณอิทธิพัทธ์ กล่าว 

ทั้งนี้ก็ได้มีการคาดการณ์ว่า ปี 2565 ผลประกอบการของ MAJOR จะพลิกฟื้นจากขาดทุนปีก่อนเป็นกำไร 932 ล้านบาท ซึ่งมีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่รอเข้าฉายจำนวนมาก The Batman, FANTASTIC BEASTS, DOCTOR STRANGE เป็นต้น คาดผู้ชมจะกลับมาอยู่ระดับ 70-80% ของระดับปกติก่อนวิกฤต COVID-19 โดยคาดรายได้ที่ 7,736 ล้านบาท เติบโต 225% จากปีก่อน 

ส่วนประเด็นผลกระทบจากส่วนแบ่งกำไร SF ที่ลดลงจะถูกชดเชยกับผลของดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง จากการนำเงินจากการขายหุ้นบางส่วนไปชำระหนี้ ซึ่งบริษัทชี้แจงว่าผลตอบแทนที่ได้จากการนำเงินไปลงทุน จะครอบคลุม ส่วนแบ่งกำไรที่ลดลง รวมถึงการขยายธุรกิจใหม่ๆ

อาทิ 1.การขยายธุรกิจอาหาร นำป๊อปคอน เข้าไปจำหน่ายในร้านค้าสะดวกซื้อ 7-11

2.ร่วมทุนกับพันธมิตรที่จีนในการสร้างภาพยนต์เข้าฉายในโรงภาพยนต์ที่ประเทศจีน ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ 

อ้างอิง ฐานเศรษฐกิจ

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ไทยชูอาหารเป็น Soft Power ดันต้มยำกุ้งดึงดูดนักลงทุน ในงาน World Economic Forum 2025

ต้มยำกุ้งไทยโดดเด่นใน World Economic Forum 2025 ที่ดาวอส! นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ชู Soft Power ด้านอาหารไทย พร้อมดึงดูดนักลงทุนด้วยนวัตกรรมเกษตรกรรมและศักยภาพเศรษฐกิจไทย...

Responsive image

ตะลุย Davos ส่อง 5 ประเด็นหลัก ใน World Economic Forum

สำรวจประเด็นสำคัญจากงาน World Economic Forum 2025 ที่ Davos เวทีประชุมระดับโลกที่รวมผู้นำหลากหลายวงการ เพื่อหารือเรื่องเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม พร้อมบทบาทไทยในเวทีนานาชาติ...

Responsive image

Trump ไฟเขียว เปิดทางให้ Elon Musk-Larry Ellison เข้าซื้อกิจการ Tiktok

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผยว่าพร้อมพิจารณาให้ Elon Musk หรือ Larry Ellison ซื้อแอป TikTok ซึ่งเป็นของ ByteDance จากจีน ถ้าพวกเขาพร้อมที่จะทำข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ...