Manus AI จีนคืออะไร ? สรุปความสามารถ AI Agent ตัวใหม่ที่อาจเทียบเคียง DeepSeek

Manus AI คืออะไร

Manus AI จีนคืออะไร ?

‘Manus’ กำลังกลายเป็นชื่อที่วงการ AI ต้องจับตามอง!

ตามรายงานของ Forbes : Manus ไม่ใช่แค่แชตบอตอัจฉริยะหรือเครื่องมือค้นหาที่พัฒนาขึ้น แต่เป็น AI Agent อิสระ ที่ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงช่วยเหลือมนุษย์ แต่สามารถ ทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ธุรกรรมทางการเงิน คัดกรองผู้สมัครงาน หรือดำเนินการในระบบดิจิทัล ทั้งหมดนี้โดยไม่ต้องมีมนุษย์คอยกำกับ

ย้อนกลับไปในปี 2023 การเปิดตัว DeepSeek โมเดล AI ของจีนที่สามารถแข่งขันกับ GPT-4 ของ OpenAI ถูกมองว่าเป็นสัญญาณว่าจีนกำลังก้าวทันโลกตะวันตกในเทคโนโลยี AI

ซึ่ง Manus ก็เป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่ชี้ว่าจีนกำลังก้าวไปไกลกว่านั้น

ในขณะที่ AI ตะวันตกอย่าง ChatGPT-4 หรือ Google Gemini ยังคงต้องอาศัยคำสั่งจากผู้ใช้ Manus ตัดสินใจเอง วิเคราะห์ข้อมูล ปรับกลยุทธ์ และดำเนินการโดยอัตโนมัติ เปลี่ยน AI จากผู้ช่วยไปสู่ “แรงงานดิจิทัล” ที่ทำงานได้อย่างอิสระ

Manus AI ของใคร ?

Manus เป็นผลงานของ Monica สตาร์ทอัพจากจีนที่ออกแบบ AI ตัวนี้ให้เป็นมากกว่าแค่เครื่องมือช่วยงานทั่วไป โดยพวกเขานิยามว่า Manus เป็นแพลตฟอร์มที่ bridges minds and actions นั่นหมายความว่า Manus ไม่เพียงแค่คิดวิเคราะห์ แต่ยังสามารถลงมือทำและสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริง

นักพัฒนาของ Monica อธิบายว่า Manus เป็น AI Agent ที่สามารถคิด วางแผน และดำเนินการได้เองโดยอัตโนมัติ โดยสามารถทำงานได้หลากหลาย เช่น

  • สร้างเว็บไซต์ ตั้งแต่เขียนโค้ดไปจนถึงออกแบบ UX/UI
  • วางแผนการเดินทาง โดยคำนึงถึงงบประมาณ ความสนใจ และข้อมูลสภาพอากาศ
  • วิเคราะห์หุ้น และแนวโน้มการลงทุนโดยอิงจากข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์
  • ดำเนินงานอื่น ๆ อีกมากมาย ตามคำสั่งของผู้ใช้

Manus เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2025 และภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน ก็ได้รับความสนใจจากทั่วโลก หลายคนเปรียบเทียบผลกระทบของมันกับ DeepSeek R1 ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ไม่นาน

นอกจากนี้ ผู้พัฒนา Manus ยังอ้างว่า AI ตัวนี้สามารถทำงานได้ดีกว่า OpenAI’s DeepResearch ในการทดสอบ GAIA benchmark ซึ่งเป็นมาตรฐานสำคัญในการวัดประสิทธิภาพของ AI Agent ระดับสูง

Manus AI ทำอะไรได้บ้าง ?

Manus ได้รับความสนใจอย่างมากจากความสามารถที่เหนือกว่าหลายระบบ AI ในปัจจุบัน โดยจุดเด่นของมันอยู่ที่การ ทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ความสามารถในการโต้ตอบแบบเรียลไทม์ และการสร้างผลลัพธ์ที่หลากหลาย ซึ่งสามารถสรุปออกมาได้ ดังนี้

1. การทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ

Manus ถูกออกแบบให้ทำงานได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุม เมื่อได้รับคำสั่ง AI จะประมวลผลบนคลาวด์ และสามารถดำเนินงานต่อไปได้แม้ว่าอุปกรณ์ของผู้ใช้จะตัดการเชื่อมต่อ

ในวิดีโอเดโมจากผู้พัฒนา Manus แสดงให้เห็นว่า AI สามารถ เปิดแท็บเบราว์เซอร์มากกว่า 50 แท็บพร้อมกัน ใช้งานแพลตฟอร์มอย่าง X (Twitter), Telegram และเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และดำเนินการได้โดยอัตโนมัติ

2. โต้ตอบแบบเรียลไทม์

Manus ไม่ได้เป็นเพียง AI ที่รอรับคำสั่ง แต่มันสามารถ สำรวจข้อมูล วิเคราะห์ และดำเนินการต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์ โดยผู้ใช้สามารถติดตามกระบวนการทำงานของ AI ได้ตลอด

ตัวอย่างเช่น หากได้รับคำสั่งให้ สร้างแผนการเดินทางไปญี่ปุ่น

  • Manus จะวางแผนการเดินทางแบบ วันต่อวัน
  • ค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และกิจกรรมที่เหมาะสม
  • แสดงกระบวนการทำงานทั้งหมดแบบ ไลฟ์ ให้ผู้ใช้เห็นว่า AI คิดและตัดสินใจอย่างไร

3. ทำงานเบื้องหลังได้โดยไม่ต้องรอคำสั่งซ้ำ ๆ

หลังจากที่ผู้ใช้มอบหมายงานให้ Manus สามารถทำงานในเบื้องหลังโดยอัตโนมัติ และเมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น AI จะแจ้งเตือนให้ทราบ

ตัวอย่างเช่น หากให้ AI ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ แนวโน้มตลาดหุ้น

  • Manus จะวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่ง
  • ประมวลผลและสรุปเป็นรายงาน
  • แจ้งเตือนเมื่อทุกอย่างพร้อม โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องติดตามเองตลอดเวลา

4. สร้างผลลัพธ์ได้มากกว่าแค่ข้อความ

Manus ไม่ได้แค่ ตอบคำถามเป็นข้อความ แต่สามารถ ดึงข้อมูลแบบไลฟ์ และสร้างผลลัพธ์ที่หลากหลาย เช่น

  • บันทึกข้อมูลจากเว็บ
  • ถ่ายภาพหน้าจอ
  • สร้างไฟล์ PDF, สเปรดชีต หรือพรีเซนเทชัน ตามคำสั่งของผู้ใช้

ปัจจุบัน Manus ยังคงอยู่ในระยะทดสอบแบบจำกัด โดยเปิดให้ใช้งานเฉพาะผู้ที่ได้รับคำเชิญผ่านแพลตฟอร์มของบริษัท Monica เท่านั้น ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศวันเปิดตัวสู่สาธารณะอย่างเป็นทางการ

อ้างอิง: indiatoday , forbes

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ซีอีโอ AWS ชี้ AI Agents จะเปลี่ยนโลกยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ต เราอาจได้เห็น AI Agent พันล้านตัวรันองค์กร

AWS ซีอีโอประกาศชัด AI Agents จะสร้างผลกระทบต่อโลกธุรกิจยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ตและ Cloud พร้อมเปิดยุคที่ ‘AI Agent พันล้านตัว’ ทำงานอัตโนมัติอยู่หลังองค์กรทั่วโลก เร่งผลตอบแทนทางธุรกิ...

Responsive image

วิกฤตสมองไหลใน Apple ไม่จบ ! ล่าสุด Meta ดึงตัว Alan Dye หัวหน้าทีมดีไซน์ Apple ผู้คุมออกแบบ Liquid Glass ใน iOS26

เจาะลึกสมองไหลใน Apple ปี 2025 เมื่อผู้เชี่ยวชาญ AI หลายคนย้ายไป Meta, OpenAI และ Cohere ส่งผลต่ออนาคต Apple Intelligence...

Responsive image

เจาะแผน 'Quick Win' รัฐ-เอกชน ผนึกกำลังดันครีเอเตอร์ไทยสู่อาชีพมั่นคง

ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่จุดเปลี่ยน เมื่อเรากลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่ 'ยอดผู้ใช้งาน TikTok แซงหน้า YouTube' อย่างชัดเจน ปรากฏการณ์นี้สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขอ...