ด้วยความร่วมมือกับ Mastercard ผู้ให้บริการสกุลเงินคริปโตชั้นนำทั้งสามรายในเอเชียแปซิฟิกจะสามารถเปิดตัวบัตรมาสเตอร์การ์ดที่รองรับสกุลเงินคริปโต (crypto-linked Mastercard payment cards) และนับเป็นครั้งแรกที่ผู้บริโภคและธุรกิจต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิกจะสามารถสมัครใช้งานบัตรของมาสเตอร์การ์ด ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต บัตรเดบิตหรือบัตรพรีเพด ทำให้ผู้ถือบัตรสามารถแปลงสกุลเงินคริปโตเป็นสกุลเงินแปกติเพื่อจับจ่ายในร้านค้าใดก็ได้ทั่วโลกที่รองรับมาสเตอร์การ์ด
ผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งสามรายที่ร่วมเป็นพันธมิตรกับมาสเตอร์การ์ดประกอบด้วย แอมเบอร์ กรุ๊ป (Amber Group) บิทคัพ (Bitkub) ในประเทศไทยและ คอย์นจาร์ (CoinJar) ในออสเตรเลีย ทุกรายเป็นบริษัทที่ให้บริการซื้อหาและแลกเปลี่ยนเงินสกุลคริปโตในตลาดประเทศตนเอง ทั้งสามบริษัทเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับคริปโตบริษัทแรกในเอเชียแปซิฟิกที่เข้าร่วมใน โปรแกรมบัตรคริปโต ของมาสเตอร์การ์ดซึ่งเป็นโปรแกรมทั่วโลกที่ช่วยให้บริษัทคริปโตสามารถนำเสนอบัตรจ่ายเงินคริปโตที่ปลอดภัยและถูกต้องตามกฏระเบียบสู่ตลาดในประเทศได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วขึ้น ทั้งนี้เพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่มองหาวิธีใช้จ่ายและทำธุรกรรมด้วยเงินดิจิทัลอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ร้านค้าหลายแห่งรองรับการสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin หรือ Eth แล้วแต่ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ดังนั้น แทนที่จะโอนเงินสกุลดิจิทัลไปยังร้านค้าโดยตรง ผู้ถือบัตรสามารถแปลงสกุลเงินดิจิทัลเป็นสกุลเงินตราแบบดั้งเดิมได้ทันทีและอย่างปลอดภัย ทำให้สามารถใช้ได้ทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ที่ร้านค้าใดก็ได้ทั่วโลกที่รับมาสเตอร์การ์ด โดยที่สกุลเงินที่เข้าสู่เครือข่ายของมาสเตอร์การ์ดจะเป็นสกุลเงินแบบดั้งเดิม
การประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ความสนใจในสกุลเงินคริปโตกำลังอยู่ในจุดสูงสุดทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากดัชนีผลสำรวจวิธีการชำระเงินแบบใหม่ของมาสเตอร์การ์ด พบว่า 45% ของผู้คนบนผลสำรวจในเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า พวกเขามีแนวโน้มที่จะใช้สกุลเงินคริปโตภายในปีหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงแบบก้าวกระโดดจากสัดส่วน 12% ของคนที่ระบุว่าได้ใช้สกุลเงินคริปโตแล้วเมื่อปีก่อน และสูงกว่าตัวเลขทั่วโลกถึง 40%
รามา สิทรา รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ดิจิทัลและพันธมิตรใหม่และระบบการชำระเงินใหม่ เอเชียแปซิฟิก มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า “สำหรับผู้คนในปัจจุบัน สกุลเงินคริปโตเป็นหลายๆ อย่างสำหรับพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน เทคโนโลยีที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก หรือเครื่องมือทางการเงินที่มีเอกลักษณ์ พร้อมๆ ไปกับความสนใจในสกุลเงินนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากทุกแห่ง การทำให้สกุลเงินคริปโตสามารถนำมาใช้ในชีวิตจริงได้ก็เกิดขึ้นจริงแล้ว ในการร่วมมือกับทั้งสามพาร์ทเนอร์ที่ล้วนมีหลักการเดียวกับมาสเตอร์การ์ดว่า ไม่ว่าจะเป็นสกุลเงินดิจิทัลใดจะต้องมีความมั่นคง เป็นไปตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้ และให้การคุ้มครองผู้บริโภค มาสเตอร์การ์ดกำลังทำให้สกุลเงินคริปโตเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ยิ่งใหญ่และยืดหยุ่นขึ้น”
โปรแกรมบัตรคริปโตเป็นส่วนของกลยุทธด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของมาสเตอร์การ์ดเพื่อมอบทางเลือกให้ลูกค้า ร้านค้า และธุรกิจต่างๆ ในการใช้สกุลเงินดิจิทัล (digital value) ภายใต้โปรแกรมคริปโตการ์ด มาสเตอร์การ์ดสนับสนุนบริษัทฟินเทคที่ร่วมในโครงการโดยลดอุปสรรคในการเข้าร่วมในธุรกิจนี้และเปิดทางให้ฟินเทคเหล่านั้นได้ทำงานกับผู้เชี่ยวชาญด้านฟินเทคและสินทรัพย์ดิจิทัล รวมทั้งทีมในตลาดประเทศนั้นๆ เพื่อเร่งให้ธุรกิจเกิดขึ้นจริงและเติบโต
มาสเตอร์การ์ดมุ่งมั่นที่จะใช้นวัตกรรม ประสบการณ์ และขนาดของธุรกิจมาสนับสนุนพันธมิตรในสกุลเงินคริปโตและสกุลเงินดิจิทัลที่กำลังเกิดใหม่ เพื่อสร้างระบบนิเวศที่ทันสมัยทั่วโลกและปรับเปลี่ยนวิธีทำธุรกรรมทั้งของคนทั่วไปและภาคธุรกิจ
ไมเคิล วู ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของ Amber Group กล่าวว่า “แอมเบอร์กรุ๊ป (Amber Group) มีความมุ่งมั่นที่จะให้บริการลูกค้าด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม การร่วมมือกับมาสเตอร์การ์ดจะทำให้เราสามารถรวมเทคโนโลยี โซลูชั่น และความเชี่ยวชาญเพื่อมอบประสบการณ์ด้านการเงินดิจิทัลที่คล่องตัวและอยู่ภายใต้กรอบของกฏหมายแก่ลูกค้า”
จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและผู้ร่วมกรรมการบริหารของ Bitkub กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่มุ่งเน้นในเรื่องของสกุลเงินคริปโตมากที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียแปซิฟิก ดังนั้น การเปลี่ยนการครอบครองทรัพย์สินให้กลายเป็นอะไรบางอย่างที่ใช้ได้ในชีวิตประจำวันจึงเป็นความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่สำหรับ Bitkub และลูกค้าของเรา เพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ทางเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบกับมาสเตอร์การ์ดผ่านพาร์ทเนอร์คนสำคัญเพื่อสร้างโซลูชั่นสำหรับบัตรที่โดดเด่นที่ทำให้ผู้ใช้สกุลเงินคริปโตสามารถเปลี่ยนเงินคริปโตเป็นเงินสกุลดั้งเดิม ผมเชื่อว่าการร่วมงานกันครั้งนี้จะช่วยเร่งให้ผู้บริโภคหันมาใช้เงินคริปโตในเชิงพาณิชย์มากขึ้น ทำให้การชำระเงินมีประสิทธิภาพกว่าเดิมและส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจแบบใหม่ๆ สำหรับภาคธุรกิจทั่วโลก”
แอชเชอร์ แทน ประธานกรรมการบริหารของ CoinJar กล่าวว่า “ในฐานะที่เราเป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้บริการด้านการแลกเปลี่ยนเงินคริปโตมานานที่สุดรายหนึ่งในโลก พวกเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ร่วมมือกับบริษัทยักษ์ระดับโลกอย่างมาสเตอร์การ์ดที่ช่วยให้สกุลเงินคริปโตเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้นและเป็นประโยชน์มากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา”
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด