Mark ประกาศปรับโครงสร้าง ลดพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ Facebook ก่อตั้งมา | Techsauce

Mark ประกาศปรับโครงสร้าง ลดพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ Facebook ก่อตั้งมา

Mark Zuckerberg ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Meta Platform Inc. ได้สรุปแผนการในการจัดระเบียบและปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ นับเป็นครั้งแรกในการปรับลดจำนวนพนักงานตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2004  โดยมีการเรียกร้องให้ยุติยุคแห่งการเติบโตอย่างรวดเร็วของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน Social Media โดยครั้งนี้เป็นการตัดลดงบประมาณครั้งใหญ่ครั้งแรก นับตั้งแต่ก่อตั้ง Facebook 

บริษัทจะระงับการจ้างงานและปรับโครงสร้างบางทีม เพื่อลดค่าใช้จ่ายและจัดลำดับความสำคัญใหม่ ซึ่งจะทำให้ Meta มีขนาดเล็กในปี 2023 มากกว่าปีนี้

ทั้งนี้ Mark ยังเสริมว่า บริษัทจะลดงบประมาณในทีมส่วนใหญ่ รวมทั้งทีมที่กำลังเติบโต โดยให้แต่ละทีมต้องจัดการกับการเปลี่ยนแปลงจำนวนพนักงาน นั่นอาจหมายถึงการไม่แจกจ่ายหน้าที่ให้กับพนักงาน การโยกย้ายพนักงานไปยังทีมอื่น หรือ ‘จัดการกับคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ’

ผมหวังว่าเศรษฐกิจจะมีเสถียรภาพอย่างชัดเจนมากขึ้นกว่าตอนนี้ แต่จากสิ่งที่เราเห็นมันยังดูไร้วี่แวว ดังนั้นเราต้องวางแผนที่ค่อนข้างระมัดระวัง

ซึ่งแผนการปรับโครงสร้างครั้งนี้มีผลให้หุ้น Meta ซึ่งซื้อขายกันอยู่ ลดลงไปอีก 3.7% จากราคาปิดในวันพุธและได้ลดลงจนถึง 60% ของปีนี้

การลดต้นทุนและการหยุดจ้างพนักงานเป็นสัญญาณที่บ่งชี้อย่างชัดเจนว่า การเติบโตของรายได้โฆษณาของ Meta กำลังชะลอตัว ท่ามกลางการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นตามความสนใจของผู้ใช้ นอกเหนือจากสภาวะกดดันทางเศรษฐกิจแล้ว ธุรกิจโฆษณาของ Meta ซึ่งสร้างขึ้นจากการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำ ได้สูญเสียความได้เปรียบอันเนื่องมาจากข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวอันใหม่จาก Apple Inc. ในการติดตามผู้ใช้ Iphone และทั้งนี้ Tiktok เองก็กำลังดึงดูดผู้ใช้รุ่นใหม่ให้หันไปสนใจมากกว่า Instagraam ซึ่งทำให้  Mark ต้องเดิมพันราคาแพงในการลงทุน metaverse หรืออนาคตเสมือนจริงที่เขาจิตนาการว่าจะมีผู้คนใช้มากที่สุด ซึ่งอาจเป็นความพยายามที่ทำให้ Meta ต้องสูญเสียเงินไปอีกหลายปี

ทำให้ Meta กำลังวางแผนที่จะชะลอการจ้างงานสำหรับบทบาทผู้บริหารบางตำแหน่งและได้เลื่อนการแจกงานเต็มเวลาให้กับการฝึกงานช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นการประกาศแช่แข็งบริษัทเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

เราต้องการให้แน่ใจว่า เราจะไม่เพิ่มคนในทีมที่เราไม่คาดว่าจะมีบทบาทในปีหน้า

อีกทั้ง Mark ได้แถลงเตือนในเดือนกรกฎาคมไว้แล้วว่า Meta จะลดการเติบโตของจำนวนพนักงานอย่างต่อเนื่อง หลายทีมจะเล็กลงเพื่อให้เราสามารถเปลี่ยนพละกำลังไปทำอย่างอื่นได้ โดยลำดับความสำคัญภายในองค์กรว่า ได้แก่ Reel, Tiktok ของ Meta และ metaverse

Meta มีพนักงานมากกว่า 83,500 คน ณ วันที่ 30 มิถุนายน และเพิ่มพนักงานใหม่ไปแล้วกว่า 5,700 คนในไตรมาสที่สอง

Mark กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า บริษัท จะ ‘ค่อนข้างเล็กลง’ ภายในสิ้นปี 2023 นับเป็นช่วง 18 ปีแรกของบริษัท ที่โดยพื้นฐานแล้วเราเติบโตอย่างรวดเร็วทุกปี และเมื่อเร็ว ๆ นี้รายได้ของเราก็ลดลงเป็นครั้งแรก

สำหรับผลประกอบการไตรมาสแรก Meta กล่าวว่าค่าใช้จ่ายประจําปีต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรกประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์โดยตัดช่วงประมาณการที่สูงถึง 95 พันล้านดอลลาร์ออกไป จากการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้เพื่อลดการใช้จ่าย Dual-camera watch ที่ บริษัท กําลังสร้างเพื่อแข่งขันกับ Apple Watch

นอกจากนี้ Meta ไม่ใช่บริษัทเดียวที่พึ่งพาการโฆษณา ที่ได้รับผลกระทบจากความท้าทายทางเศรษฐกิจในวงกว้าง Twitter Inc. ประกาศหยุดการจ้างงานของตัวเองในเดือนพฤษภาคม และได้ขอให้พนักงานระมัดระวังค่าใช้จ่ายในการเดินทางและการตลาด Alphabet Inc.’s Google ก็บอกว่ามันจะเป็นเช่นนั้น จะเกิดการจ้างงานช้า ในช่วงครึ่งหลังของปี และ Snap Inc. ลดพนักงานลง 20% ในเดือนสิงหาคม

อ้างอิง Bloomberg

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เตรียมพบกับ “Taiwan Healthcare Pavilion” โซนจัดแสดงนวัตกรรมทางการแพทย์จาก 26 องค์กรชั้นนำ ในงาน TAIWAN EXPO 2024

กลับมาอีกครั้งกับการจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านสุขภาพที่ล้ำสมัยจากไต้หวันในงาน TAIWAN EXPO 2024 ระหว่างวันที่ 21-23 พฤศจิกายน 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 5 บูธ...

Responsive image

'บ้านปู' ประกาศกลยุทธ์ใหม่ Energy Symphonics เตรียมมุ่งสู่ปี 2030 เปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืน พร้อมเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลาย ประกาศกลยุทธ์ใหม่ 'Energy Symphonics' หรือ “เอเนอร์จี ซิมโฟนิกส์” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ปี 2030 เน้นการเปลี่ยนผ่านพลังงานอ...

Responsive image

Google เผยเศรษฐกิจดิจิทัลไทย โตอันดับ 2 ใน SEA มูลค่า 1.61 ล้านล้านบาท ขับเคลื่อนด้วยอีคอมเมิร์ซและการท่องเที่ยวเป็นหลัก

เศรษฐกิจดิจิทัลไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าในปี 2567 มูลค่ารวมของสินค้าดิจิทัลหรือ GMV จะเพิ่มขึ้นถึง 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.61 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566...