Business Insider รายงานว่า แหล่งข่าวภายใน Microsoft เผยว่าบริษัท Microsoft ได้เจรจาเพื่อเข้าซื้อสตาร์ทอัพผู้ให้บริการพื้นที่เก็บความเปลี่ยนของซอร์สโค้ด (Version Control) อย่าง GitHub อยู่ โดยเริ่มพูดคุยตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว แต่การพูดคุยเริ่มเป็นไปอย่างจริงจังในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่าง Microsoft และ GitHub เป็นไปอย่างด้วยดีตลอดมา มีการพูดคุยเจรจาทั้งแบบเป็นทางการและไม่ทางการอยู่เป็นระยะๆ
ขณะเดียวกัน GitHub เองก็กำลังหา CEO ใหม่มาแทน Chris Wanstrath ที่ประกาศลาออกไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2017 ที่ผ่านมา ซึ่งเขายังคงมีตำแหน่งในระดับสูงในบริษัทอยู่ โดยระหว่าง Julio Avalos ซึ่งเป็น Chief Business Officer (CBO) ของ GitHub ก็ได้นั่งในบอร์ดของบริษัท และนั่งรักษาการตำแหน่ง CEO อยู่
มีข้อมูลระบุว่าผู้ที่มานั่งเป็น CEO ของ GitHub คนต่อไปอาจจะเป็นผู้บริหารจาก Google อย่าง Sridhar Ramaswamy ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างการตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งนี้อีกด้วย
ส่วนผู้ให้บริการอีกรายอย่าง GitLab แสดงความยินดีล่วงหน้า ระบุเป็นการยืนยันถึงการเติบโตของวงการ Software Developer ทั่วโลก อีกทั้งยังมองว่าในอนาคตทุกคนบนโลกสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาโปรแกรมได้
"ชุมชนนักพัฒนาซอฟต์แวร์ต่างอยู่บน GitHub และชุมชน GitLab ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย โดยเมื่อ GitLab ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกก็อยู่บน GitHub และเราก็ได้พบผู้ร่วมพัฒนา (Contributor) มาจาก GitHub อีกด้วย" แถลงการณ์จาก GitLab ระบุ
GitHub เป็นสตาร์ทอัพผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเก็บความเปลี่ยนแปลงของซอร์สโค้ดหรือเรียกสั้นๆ ว่า Version Control สำหรับพัฒนาโปรแกรม (Software Developer) มีผู้ใช้งานมากกว่า 27 ล้านราย และยังมีการส่งโค้ดขึ้นบนระบบมากกว่า 80 ล้านครั้ง เคยการเปิดระดมทุนผ่าน IPO เมื่อปี 2015 ทำให้ GitHub มีมูลค่าบริษัทแตะที่ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งแน่นอนว่ามีโค้ดจากบริษัทไอทียักษ์ใหญ่อย่าง Google (บริษัทลูกของ Alphabet) และ Microsoft ขึ้นมาบน GitHub อยู่ในนี้ด้วย
โดย Microsoft ก็เป็นผู้ส่งโค้ดขึ้นบนระบบของ GitHub มากที่สุดในโลกอีกด้วย อันเป็นผลมาจาก Microsoft เองเริ่มสนับสนุนการพัฒนาโปรแกรมแบบ Open Source มากขึ้น โดย CEO Microsoft อย่าง Satya Nadella เริ่มให้บริษัทแยกออกจากระบบปฎิบัติการ Windows แล้วหันมาสนับสนุนการพัฒนาภายในระบบปฎิบัติการ Linux มากขึ้น
รวมถึงทางบริษัท Microsoft เองก็ต้องการเชื่อมต่อกับชุมชนนักพัฒนาให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้นในอนาคต
อ้างอิงข้อมูลจาก Business Insider, Bloomberg และ GitLab
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด