กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ agoda แพลตฟอร์มจองที่พักระดับโลกเปิดตัวแพลตฟอร์มจองแพ็คเกจ ASQ | Techsauce

กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ agoda แพลตฟอร์มจองที่พักระดับโลกเปิดตัวแพลตฟอร์มจองแพ็คเกจ ASQ

กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประกาศความร่วมมือกับ agoda ในการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยของ agoda แพลตฟอร์มด้านการเดินทางท่องเที่ยวระดับโลก มาปรับปรุงขั้นตอน และเพิ่มประสิทธิภาพในการจองแพ็คเกจสถานกักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก (Alternative State Quarantine หรือ ASQ) สำหรับชาวไทยที่ต้องการเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย และนักเดินทางต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และความร่วมมือสำหรับโครงการครั้งนี้ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศแรกของโลกที่ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการจองสถานกักกันโรครัฐทางเลือก (ASQ)

โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักเดินทางชาวไทย และชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เลือกจองห้องพักของ ASQ ที่ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขผ่านเว็บไซต์ www.agoda.com/quarantineTH ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยนักเดินทางสามารถค้นหาห้องพักที่ว่าง ประเภทของห้องพัก และราคาของห้องพักได้แบบเรียลไทม์ (real time) นักเดินทางชาวไทย และเนื่องจากชาวต่างชาติจำเป็นต้องจองแพ็คเกจ ASQ เพื่อนำไปเป็นส่วนหนึ่งในการขออนุมัติจากสถานทูตไทยในประเทศ/เขตปกครองตนเองที่ตนอยู่ ก่อนเดินทางเข้ามาในประเทศไทย

กระบวนการจองที่เป็นระบบอัตโนมัติของเว็บไซต์ สร้างความสะดวกสบายให้กับทั้งนักเดินทาง และโรงแรมพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการ ด้วยการช่วยลดปัญหายุ่งยากในการค้นหา และจองห้องพักของ ASQ โดยในช่วงเริ่มต้นโครงการนี้ ผู้ที่เข้าพักในโรงแรมที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ชลบุรี และภูเก็ต สามารถชำระเงินค่าห้องพักผ่านเว็บไซต์ได้เลย

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศทั่วโลก ทั้งทางด้านสุขภาพ สังคมและเศรษฐกิจ ประเทศไทยเราโชคดี ภายใต้พระบารมีขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และด้วยความเข้มแข็งของระบบการแพทย์และการสาธารณสุขไทย อีกทั้งความร่วมมือร่วมใจของบุคลากรทุกหมู่เหล่า ประชาชน อาสาสมัครสาธารณสุข ทำให้เราสามารถควบคุมวิกฤติการณ์นี้ได้จนเป็นแบบอย่างด้านการสาธารณสุข สร้างเสริมภาพลักษณ์อันดีของประเทศ ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่เราต้องภาคภูมิใจร่วมกัน

ตามที่มีการประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019 หรือ COVID-19) เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคน ต้องได้รับการตรวจคัดกรอง แยกกัก หรือ กักกันเพื่อการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคซึ่งมาจากท้องถิ่นอื่น หรือเมืองท่านอกราชอาณาจักร กรณีโรคโควิด-19 หน่วยงานรัฐจึงจำเป็นต้องจัดเตรียมและจัดหาสถานที่สำหรับเป็นที่กักตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ให้อยู่ในการกำกับดูแล เพื่อการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามหลักเกณฑ์และแนวทางการควบคุมป้องกันโรค โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหม และกระทรวงสาธารณสุข เป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ อีกทั้งการจัดงานในวันนี้ถือเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศไทยช่วยผู้ประกอบกิจการให้เกิดรายได้”

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์, อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า “Alternative State Quarantine : ASQ สถานกักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก เป็นกลไกสำคัญในการป้องกันควบคุมโรค และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยมุ่งหวังผลประโยชน์ 2 ทาง คือ การป้องกันและควบคุมโรค COVID 19 และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ ทั้งนี้ โรงแรมที่ต้องการเข้าร่วมเป็นสถานกักกันต้องการผ่านการตรวจมาตรฐานอย่างรัดกุมใน 6 หมวด จากกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงกลาโหม ได้แก่ โครงสร้างปลอดภัย บุคลากรมีความพร้อม อุปกรณ์ครบครัน จัดหาเวชภัณฑ์และอบรมการป้องกันส่วนบุคคลเป็นมิตรกับชุมชนและมีระบบจัดการสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยโรงพยาบาลมืออาชีพ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนไทยที่เดินทางกลับประเทศ ส่งเสริมให้เศรษฐกิจของประเทศสามารถเดินหน้า ควบคู่ไปกับการ ป้องกันและควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค COVID 19 จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมามีโรงแรมที่เข้าร่วมเป็น ASQ จำนวน 113 แห่ง สามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยมากกว่า 1,200 ล้านบาท การคาดการณ์หากแพลตฟอร์มจองแพ็คเกจโรงแรมสถานที่กักตัวทางเลือกได้รับการประชาสัมพันธ์ออกไปจะสามารถชักจูงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากทั่วโลก และสร้างรายได้ให้กับประเทศได้อีกหลายเท่า”

คุณจอห์น บราวน์, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, agoda กล่าวว่า “เราขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุข และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพที่มีแนวคิดที่ก้าวหน้า และเลือกนำเทคโนโลยีระดับโลก รวมถึงความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของเรา เข้าช่วยพัฒนาการเข้าถึง และประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มจองแพ็คเกจ ASQ ในแบบดิจิทัล ขณะที่ยังดูแลและให้ความปลอดภัยด้านสุขภาพแก่ประชาชนในประเทศ และนักเดินทางได้อย่างเต็มที่ ความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ และองค์กรในลักษณะนี้ มีส่วนช่วยให้เราส่งมอบบริการที่คุ้มค่าให้กับลูกค้าได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในช่วงสถานการณ์แบบนี้”

“สำนักงานของ agoda ในกรุงเทพฯมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมากกว่า 1,000 คน คอยพัฒนาโซลูชันเทคโนโลยีที่ทันสมัยสำหรับลูกค้า ธุรกิจ และภาครัฐ ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกอยู่ตลอดเวลา เรามุ่งมั่นคิดค้นวิธียกระดับกระบวนการเดินทางโดยใช้เทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องทุกวัน อีกทั้งเทคโนโลยียังเปรียบได้เหมือนหัวใจของทุกฝ่ายของ agoda ดังนั้นเราจึงรู้สึกตื่นเต้น และยินดีมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ในประเทศไทย”

ขณะนี้แพลตฟอร์ม ASQ แบบดิจิทัลเปิดให้นักเดินทางทั่วโลกเข้าใช้งานแล้ว คาดว่าจะมีโรงแรมพันธมิตร และพันธมิตรด้านเทคโนโลยีเข้าร่วมโปรแกรมมากขึ้นภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า

สามารถดูรายละเอียดการจองที่พักได้ https://www.agoda.com/quarantineTH

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

3 การเปลี่ยนแปลงสำคัญในวงการ AI จากมุมมอง Andrew Ng ต่อ DeepSeek-R1

DeepSeek-R1 โมเดล AI ใหม่จากจีน กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในแวดวงเทคโนโลยี หลังเปิดตัวในรูปแบบ Open Weight ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนนำไปพัฒนาต่อได้ พร้อมประสิทธิภาพที่เทียบเคียงกับ Ope...

Responsive image

OR แต่งตั้ง 'หม่อมหลวงปีกทอง' เป็น CEO คนใหม่ เดินหน้าปั้นไทยสู่ศูนย์กลางธุรกิจน้ำมันในภูมิภาค

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ประกาศแต่งตั้ง หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) คนใหม่ พร้อมเปิดวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนองค์กรผ่าน...

Responsive image

ธปท. ออก 3 มาตรการใหม่ กวาดล้างบัญชีม้า ปิดช่องโหว่ภัยมิจฉาชีพ

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เดินหน้ายกระดับมาตรการป้องกันภัยทุจริตทางการเงิน โดยเฉพาะการจัดการบัญชีม้า เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการฉ้อโกงทางการเงิน...