Mira Murati ลาออก ยกแผงคนเก่าแก่ OpenAI สื่อต่างประเทศลือ Sam Altman จะเข้ามาถือหุ้น 7% | Techsauce

Mira Murati ลาออก ยกแผงคนเก่าแก่ OpenAI สื่อต่างประเทศลือ Sam Altman จะเข้ามาถือหุ้น 7%

ไปกันเกือบหมดสำหรับ Dream Team รุ่นแรกที่ร่วมสร้าง OpenAI บริษัทผู้พัฒนา ChatGPT เพราะล่าสุด Mira Murati ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ได้ประกาศลาออกจากบริษัท โดยให้เหตุผลว่าต้องไปจัดการกับโครงการส่วนตัวที่ทำอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความประหลาดใจให้กับพนักงานหลายคน

นอกจากนี้สื่อต่างประเทศหลายสื่อยังรายงานอีกว่า OpenAI กำลังพิจารณาให้ Sam Altman ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของบริษัทได้รับสัดส่วนการถือหุ้น 7% เมื่อบริษัทเปลี่ยนเป็นองค์กรที่แสวงหาผลกำไร ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ Altman จะมีสัดส่วนการเป็นเจ้าของในบริษัท !

Mira Murati คือใคร ?

ปัจจุบัน Mira Murati ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ OpenAI ซึ่งเธอนับเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาเทคโนโลยีในบริษัท  โดย Murati ทำงานอยู่ที่นี่มากว่า 6 ปีและมีบทบาทสำคัญในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท เช่น ChatGPT และ DALL-E

การลาออกของ Murati ในครั้งนี้แทบจะเป็นการยกแผงคนเก่าแก่ของ OpenAI ที่อยู่กับ Altman มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท ทำให้ปัจจุบันเหลือเพียง Sam Altman และ Wojciech Zaremba ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งดั้งเดิมที่ยังคงอยู่ใน OpenAI

ลือหนัก ! เปลี่ยนรูปแบบบริษัท OpenAI

ตอนนี้กำลังมีการพิจารณาให้ Sam Altman เข้ามาถือหุ้น 7% ของบริษัท OpenAI หลังจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบบริษัทเป็นองค์กรที่แสวงหาผลกำไร แต่ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างการหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้ และยังไม่มีการกำหนดระยะเวลาที่แน่ชัด 

Bloomberg รายงานว่า บริษัทอาจจะเปลี่ยนไปเป็น บริษัทที่มีเป้าหมายสาธารณะ (Public Benefit Corporation) ซึ่งหมายถึงการแสวงหาผลกำไรควบคู่ไปกับการมุ่งเน้นในการช่วยเหลือสังคม โดยที่ส่วนที่ไม่แสวงหากำไรของ OpenAI จะยังคงอยู่เช่นเดิม

Sam Altman ไม่ได้เป็นเจ้าของ OpenAI อยู่แล้วเหรอ ?

OpenAI ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 ในฐานะองค์กรไม่แสวงหากำไร โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ปลอดภัยและเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ 

อย่างไรก็ตาม ในปี 2019 บริษัทได้สร้างส่วนที่แสวงหาผลกำไรขึ้นมาเพื่อดึงดูดเงินทุนสำหรับการพัฒนาโครงการ AI ที่มีค่าใช้จ่ายสูง โดยฝ่ายที่แสวงหาผลกำไรนี้ได้ดึงดูดการลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์จากนักลงทุน รวมถึงบริษัท Microsoft ด้วย

สำหรับบริษัทในส่วนที่แสวงหาผลกำไรมีการตั้งกฎว่าจะคืนกำไรให้นักลงทุนถึงระดับหนึ่ง ที่เหลือส่งกลับไปช่วยภารกิจเดิมของบริษัทแม่ที่ไม่แสวงหากำไร ทั้งหมดนี้ถูกควบคุมดูแลโดยบอร์ดบริษัท Non-Profit เพื่อให้แน่ใจว่าเป้าหมายหลักยังเป็นการพัฒนา AI ที่เป็นประโยชน์ต่อทุกคน

นั่นทำให้แม้ Microsoft จะเป็นนักลงทุนรายใหญ่ แต่ก็ไม่มีสิทธิ์ควบคุมบอร์ดของ OpenAI รวมถึง Sam Altman ที่เป็น CEO ของบริษัทก็ถือหุ้นทางอ้อมผ่าน Y Combinator ในรูปเงินบริจาค เนื่องจากก่อนหน้านี้ Altman เคยเลือกที่จะไม่รับสัดส่วนการถือหุ้นใน OpenAI เพราะต้องการให้บริษัทมุ่งเน้นในการช่วยเหลือสังคมมากกว่าการสร้างรายได้ส่วนตัว

หาก Sam Altman เข้ามาถือหุ้นในบริษัทกว่า 7% ก็จะถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อนตั้ง OpenAI มา ที่ Altman จะมีสัดส่วนการเป็นเจ้าของในบริษัทนี้

อ้างอิง: bloomberg, theverge

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทำความรู้จัก Gen Beta ผู้ไม่รู้จัก ‘โลกในยุคไร้ AI’ เจนเนอเรชั่นกำเนิดใหม่ของปี 2025

เจเนอเรชัน Beta (Gen Beta) กำลังจะเป็นกลุ่มใหม่ที่เกิดในปี 2025-2039 พวกเขาเติบโตในโลกที่ AI และเทคโนโลยีเชื่อมโยงชีวิตอย่างสมบูรณ์ พร้อมรับมือกับความท้าทายระดับโลกและเน้นความยั่งย...

Responsive image

EU เริ่มกฎบังคับใช้พอร์ตชาร์จ USB-C ตั้งเป้าลดขยะอิเล็กทรอนิกส์

หลังจากที่สหภาพยุโรป หรือ EU ได้ออกมาเคลื่อนไหวด้านการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยการเคลื่อนไหวด้านกฎบังคับให้ใช้พอร์ตชาร์จเดียวกันสำหรับทุกอุปกรณ์มาตั้งแต่ปี 2022 ล่าสุดกฎหมายดังกล่าว...

Responsive image

อนาคตที่ปรึกษาทางการเงิน จะเป็นอย่างไร ? เมื่อ AI คือผู้ช่วยคนสำคัญ

ที่ปรึกษาการเงินหลายท่านกำลังเผชิญกับภาวะ "งานเอกสารท่วมตัว" จนแทบไม่มีเวลาดูแลลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวล เพราะเวลาส่วนใหญ่หมดไปกับงานที่ไม่สร้างรายได้ ทำให้การสร้างความสัมพันธ...