‘แสนสิริ’ จับมือสองยักษ์ด้านดิจิทัล ‘Microsoft’ และ ‘AIS’ เปิดตัวนวัตกรรมเชื่อมโลกจริงและเสมือนจริงด้วย ‘Mixed Reality (MR)’ รวม VR และ AR เข้าด้วยกันเป็นครั้งแรกในไทย ภายใต้ชื่อ “MR Sales Gallery” เริ่มใช้ในการขายอสังหาริมทรัพย์จริงประมาณเดือนกรกฎาคม 2561
ปล่อยหมัดฮุคมาอย่างต่อเนื่องสำหรับยักษ์ใหญ่ด้าน Property อย่าง ‘แสนสิริ’ ผ่านมา 3 เดือนก็เปิดตัวไป 3 งานแล้ว ได้แก่
ล่าสุดแสนสิริจับมือกับอีก 2 ยักษ์ใหญ่ ได้แก่ ยักษ์ใหญ่ด้าน Technology Platform อย่าง ‘Microsoft’ และยักษ์ใหญ่ด้าน Telco อย่าง ‘AIS’ กลายเป็นการผนึกกำลัง 3 พันธมิตรข้ามอุตสาหกรรมจากยักษ์ใหญ่ครั้งแรก ภายใต้ชื่องาน “EYES OF TOMMORROW”
โดยเปิดตัวนวัตกรรมเชื่อมโลกจริงและเสมือนจริงอย่าง ‘Mixed Reality (MR)’ ซึ่งเป็นการผสานจุดเด่นของเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) เข้าด้วยกัน โดยนำมาใช้ในวงการอสังหาริมทรัพย์เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “MR Sales Gallery”
“MR Sales Gallery” หรือ Mixed Reality Sales Gallery เป็นเหมือนห้องตัวอย่างเสมือนจริง จำลองสภาพแวดล้อมให้ลูกค้าได้สัมผัสบรรยากาศของโครงการที่พักอาศัยแบบ Interactive ด้วยฟังก์ชันในการออกแบบและปรับเปลี่ยนห้องตัวอย่างได้ในหลายมุมมอง สร้างประสบการณ์การซื้อที่อยู่อาศัยให้ดีขึ้น
จุดประสงค์สำคัญของการเปิดตัว MR Sales Gallery แสนสิริระบุว่าคือ การทำตามเป้าหมายที่แสนสิริต้องการสร้าง Complete Living Solution ขึ้นมาให้ได้ โดยใช้เทคโนโลยีที่ไม่จำเป็นต้องลงทุนสูงมาก แต่ตอบโจทย์และสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้บริโภคได้
ซึ่ง ดร.ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยี บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
เราพบว่าหลายๆครั้งที่ลูกค้าประสบปัญหา เขาอยากได้ที่อยู่อาศัย แต่ที่นำเสนอมันไม่ตรงใจเขา เพราะเขาอยากลองที่จะปรับเปลี่ยนดูเอง ซึ่ง Mixed Reality จะทำให้จินตนาการของลูกค้าประสบความสำเร็จ อยากจะเปลี่ยนสภาพห้อง สีห้อง เฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อลูกบ้านแสนสิริอย่างแน่นอน
ทางแสนสิริยืนยืนว่า แสนสิริเป็นที่แรกของไทยที่ใช้เทคโนโลยีนี้ แม้ AR และ VR มีข้อจำกัด และยังไปได้ยังไม่สุด ทำให้แสนสิริเสาะหาเทคโนโลยีจาก Microsoft มา นั่นคือ Mixed Reality (MR) และได้ AIS มาช่วยทำให้เกิดขึ้น
ส่วนทาง Microsoft ระบุว่า ในฐานะที่เป็น Technology Platform การนำเอาเทคโนโลยี Mixed Reality (MR) คือการผสานจุดเด่นของเทคโนโลยี VR และ AR เข้าด้วยกัน ต่อยอดด้วยการสร้างภาพจำลองและอุปกรณ์พิเศษ ที่ผู้ใช้งานสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมที่ผสานกันเป็นหนึ่งเดียวกัน รวมไปถึงการได้ระบบ Cloud อย่าง Azure Cloud Platform มาด้วย
คุณธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
ผู้ใช้หรือลูกค้าจะต้องสวมอุปกรณ์ Holographic Computing Devices ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ที่ทำให้เกิดสภาวะเสมือนจริงหรือภาพ Hologram ได้โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใด ๆ ทั้งยังออกแบบให้ควบคุมได้ง่ายด้วยมือเปล่า
ทำให้ผู้ใส่ Holographic Computing Devices เสมือนกำลังเดินอยู่ในสถานที่จริงของโครงการแสนสิริ
ขณะเดียวกันก็สามารถปรับแต่งการออกแบบและฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ตามความต้องการของแต่ละบุคคล เช่น การเคลื่อนย้าย การเปลี่ยนขนาดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง การเปลี่ยนสีผนัง เปลี่ยนวัสดุ ชมทัศนียภาพจากหน้าต่าง หรือปรับบรรยากาศได้ตามแต่ละช่วงเวลาได้ เป็นต้น
คุณปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
ด้วยวิสัยทัศน์ของเอไอเอส ในการนำศักยภาพด้านเครือข่ายและเทคโนโลยีดิจิทัล มาขยายบทบาทสู่การเป็น Digital Platform ของประเทศ เพื่อเป็นแกนกลางสนับสนุนการทำงานของพันธมิตรในทุกภาคส่วน ทุกอุตสาหกรรม ร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลอันทันสมัย ขยายขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคธุรกิจ สร้างการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในภาพรวมของประเทศ รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับลูกค้าและประชาชนคนไทยได้อย่างยั่งยืน
AIS ระบุว่าการมุ่งพัฒนา Platform ก็เพื่อให้คนทุกกลุ่มเข้าถึงเทคโนโลยีได้ โดย AIS ดึงนักพัฒนา (Developers) มาทำ MR Sales Gallery รวมถึงการใช้สรรพกำลังจากแสนสิริมาร่วมกันทำให้เกิดขึ้นจนได้
โดยระบุว่า MR Sales Gallery จะเป็น The first in thailand ในด้าน Fully Mixed Reality Experience แบบเต็มตัวอีกด้วย
แสนสิริมีแผนการในการนำร่องใช้งาน MR Sales Gallery (Mixed Reality Sales Gallery) กับโครงการแสนสิริในเดือนกรกฎาคม 2561 นี้ และจะมีการพัฒนาฟีเจอร์และการใช้งานในรูปแบบใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้น
น่าจับตาว่าแสนสิริจะมีหมัดเด็ดอะไรปล่อยมาอีกบ้าง น่าจับตาในระยะยาว
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด