
ในยุคที่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่แค่หน้าจออีกต่อไป ชื่อของ MrBeast หรือ Jimmy Donaldson ยูทูบเบอร์อันดับหนึ่งของโลกผู้มีผู้ติดตามรวมกันกว่า 430 ล้านคน ก็กำลังจะถูกจารึกในบทบาทใหม่ที่ท้าทายกว่าเดิม เมื่อมีรายงานล่าสุดจาก Business Insider เผยว่า เขากำลังวางแผนที่จะกระโดดเข้าสู่อุตสาหกรรมโทรคมนาคม ด้วยการเปิดตัวบริษัทให้บริการโทรศัพท์มือถือของตัวเองภายในปีหน้า
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการขยายอาณาจักรทางธุรกิจของ MrBeast ครั้งสำคัญ หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับแบรนด์ช็อกโกแลต Feastables และธุรกิจอาหาร Lunchly โดยเอกสารนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน (Investor Deck) ที่รั่วไหลออกมา ระบุชัดเจนถึงแผนการจัดตั้ง "ผู้ให้บริการเครือข่ายเสมือน" หรือที่รู้จักกันในชื่อ Mobile Virtual Network Operator (MVNO)
โมเดลธุรกิจแบบ MVNO ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นกลยุทธ์อันชาญฉลาดที่เปิดโอกาสให้แบรนด์ต่างๆ สามารถให้บริการเครือข่ายมือถือได้โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนมหาศาลในการสร้างเสาสัญญาณและโครงข่ายพื้นฐานของตัวเอง หลักการทำงานของ MVNO คือการ "เช่า" หรือ "ซื้อ" สัญญาณและแบนด์วิดท์จากผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ (Mobile Network Operator - MNO) ที่มีอยู่แล้วในตลาด เช่น AT&T, T-Mobile หรือ Verizon ในสหรัฐอเมริกา จากนั้นจึงนำมาสร้างแบรนด์และแพ็กเกจค่าบริการของตัวเองเพื่อเสนอขายให้กับลูกค้าโดยตรง
การเลือกใช้โมเดลนี้ทำให้ MrBeast สามารถควบคุมการสร้างแบรนด์ การตลาด และกำหนดราคาที่แข่งขันได้ โดยอาศัยคุณภาพของสัญญาณที่แข็งแกร่งจากพันธมิตรเครือข่ายรายใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้เขาสามารถนำเสนอค่าบริการที่เข้าถึงง่ายและบริการที่ดีเพื่อดึงดูดฐานแฟนคลับมหาศาลของเขาให้มาเป็นลูกค้าได้
กลยุทธ์นี้เคยถูกใช้จนประสบความสำเร็จมาแล้วโดยคนดังอย่าง Ryan Reynolds นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังกับแบรนด์ Mint Mobile ที่ใช้เครือข่ายของ T-Mobile จนสามารถสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและท้ายที่สุดก็ถูก T-Mobile ซื้อกิจการไปในมูลค่าสูงถึง 1.35 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน่าสนใจว่า T-Mobile ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่เคยร่วมงานกับ MrBeast มาแล้วเช่นกัน
หลายคนอาจแปลกใจว่าเหตุใดคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในโลกจึงต้องหันมาจับธุรกิจอื่น แต่เมื่อมองลึกลงไปในตัวเลขทางการเงินก็จะพบคำตอบที่ชัดเจน รายงานจาก Bloomberg เมื่อปีที่แล้วเปิดเผยว่า แม้ธุรกิจสื่อของ MrBeast ซึ่งประกอบด้วยช่อง YouTube และรายการเรียลลิตี้โชว์บน Prime Video จะสร้างชื่อเสียงและอิทธิพลมหาศาล แต่ในแง่ของผลประกอบการกลับ "ขาดทุน" ไปเกือบ 80 ล้านดอลลาร์
ในทางตรงกันข้าม ธุรกิจเสริมอย่างแบรนด์ช็อกโกแลต Feastables กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยสร้างยอดขายได้ราว 250 ล้านดอลลาร์ และทำกำไรได้มากกว่า 20 ล้านดอลลาร์ ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าการพึ่งพารายได้จากธุรกิจสื่อเพียงอย่างเดียวนั้นมีความเสี่ยงสูง และการกระจายความเสี่ยงไปยังอุตสาหกรรมอื่นที่มีศักยภาพในการทำกำไรจึงเป็นทางรอดที่จำเป็น
การก้าวเข้าสู่ธุรกิจโทรคมนาคมจึงเป็นมากกว่าแค่การขยายแบรนด์ แต่เป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยพยุงและสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับ "Beast Industries" ทั้งหมด นอกจากนี้ เอกสารที่รั่วไหลยังระบุด้วยว่าทีมผู้บริหารกำลังพิจารณาที่จะขยายไปยังธุรกิจฟินเทคและเกมมือถือในอนาคตอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ต้องการสร้าง Ecosystem ทางธุรกิจที่ครบวงจรภายใต้แบรนด์ MrBeast
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ MrBeast จึงน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ว่าเขาจะสามารถใช้ฐานแฟนคลับอันเหนียวแน่นและอิทธิพลบนโลกออนไลน์มาสร้างแรงกระเพื่อมให้กับวงการโทรคมนาคมได้สำเร็จเหมือนที่ Ryan Reynolds เคยทำไว้กับ Mint Mobile ได้หรือไม่ และนี่อาจเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าพลังของครีเอเตอร์ในยุคดิจิทัลนั้นไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง
ที่มา: TechCrunch
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด