K PLUS โฉมใหม่ มีอะไรใหม่ อะไรเปลี่ยน? พร้อม AI ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง | Techsauce

K PLUS โฉมใหม่ มีอะไรใหม่ อะไรเปลี่ยน? พร้อม AI ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง

เป็นที่จับตาสำหรับการประกาศพลิกโฉม ยกเครื่องใหม่ของแอปฯ K PLUS แอป Mobile Banking ที่ครองใจผู้ใช้งานหลายคน ซึ่งก่อนหน้านี้กสิกรไทยได้มีการเปิดตัว KADE หรือ AI ผู้ที่จะมาทำงานอยู่เบื้องหลังแอป K PLUS โดยจะสามารถเรียนรู้และประมวลผลพฤติกรรมของผู้ใช้งาน โดยหลังจากใช้เวลาหลายเดือนในการพลิกโฉมแอปใหม่ ตอนนี้ K PLUS พร้อมแล้วที่จะเปลี่ยน

โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เริ่มจากการเปลี่ยนหน้าตา LOGO ใหม่ พร้อมฟังก์ชันใหม่ และยังเพิ่ม K PLUS Market ที่จะเปลี่ยนแอปจาก Mobile Banking และเพิ่มการเป็น Lifestyle App อีกด้วย มาดูกันก่อนว่ามีอะไรเปลี่ยน อะไรใหม่บนแอปกันบ้าง

4 สิ่งเปลี่ยนบน K PLUS

  1. เปลี่ยนโลโก้ K PLUS ใหม่
  2. เปลี่ยน หน้าตา User Interface และจัดวางเมนูใหม่
  3. รวมปุ่มธุรกรรม (Banking) ไว้ในปุ่มเดียว เพื่อความสะดวกและใช้งานง่ายมากขึ้น
  4. เปลี่ยนรูปแบบ e-Slip ใหม่ เพิ่ม QR Code เป็นลายน้ำ สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็น e-Slip ของจริง โดย

ฟังก์ชันใหม่ของ K PLUS

1. หน้าแรก K PLUS Today แจ้งเตือนธุรกรรมการเงินที่สำคัญและบ่อยของลูกค้า และแนะนำโปรโมชัน ร้านค้าโปรด รวมไปถึงโปรส่วนลดต่างๆที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า

2. ปุ่มสแกนในการจ่ายเงินด้วย QR Code , ใช้สแกนเพื่อตรวจสอบ e-Slip ใหม่ ,  ใช้สำหรับการถอนเงินไม่ใช้บัตร ผ่านตู้ K-ATM

3. K PLUS Market : ช้อปออนไลน์กับสินค้าหรือบริการที่คัดสรรพิเศษในราคาพิเศษ โดยสามารถนำคะแนนสะสมบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทยมาแลกชำระเงิน โดยคะแนนสะสม 1000 คะแนน มีมูลค่า 100 บาท

4. ถอดเงินไม่ใช้บัตร

5. เพิ่มบัตรสมาชิก (Add Loyalty Card) เพิ่มบัตรสมาชิกที่ใช้ประจำ ไม่ต้องพกบัตร ไม่ต้องบอกเบอร์ ได้แก่บัตร PTT Blue Card , บัตร The 1 Card

6. ตั้งโอนเงินล่วงหน้า

7. ใช้งานผ่าน wi-fi ได้ทุกฟังก์ชัน ทุกเวลา

โดยสรุปแล้ว KPLUS โฉมใหม่ครั้งนี้มีการแก้ไขจุดอ่อนต่างๆ เช่นเรื่องการปลอมแปลง Slip ในขณะเดียวกันก็เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่เพื่อเปลี่ยนรูปแบบจาก Mobile Banking เป็น Lifestyle App โดยต้องการเพิ่มการใช้งานด้าน Lifestyle โดยเฉพาะการเพิ่ม K PLUS Market ที่ผนวกการซื้อสินค้าและบริการเข้ามาในแอป และมีตัวเลขที่กสิกรไทยตั้งเป้าไว้ว่า ต้องการให้เพิ่มการใช้งานด้าน Life Style ให้เพิ่มขึ้น 10% จากเดิมที่มีการใช้งานเพียง 1%  ต้องจับตาดูกันต่อว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ผู้บริโภคจะเปลี่ยนตามไปในทิศทางทางใด

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน เป็นไปได้จริงด้วย AI ส่องโอกาสและความท้าทายที่ต้องรับมือ

กระแสการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ แต่การจะก้าวไปสู่การทำงานรูปแบบใหม่นี้ได้จริง จำเป็นต้องมีปัจจัยสนับสนุนที่แข็งแกร่ง และหนึ่งในป...

Responsive image

กระทราง DOGE ใต้การดูแลของอีลอน มัสก์ ปลดพนักงานสำนักงานนิวเคลียร์สหรัฐฯ นับ 300 ชีวิต สั่นคลอนความมั่นคงชาติ

เจ้าหน้าที่กว่า 300 คนที่สำนักงานบริหารความมั่นคงนิวเคลียร์แห่งชาติ (NNSA) ถูกปลดออกจากงาน อันเป็นส่วนหนึ่งของการปลดพนักงานของกระทรวงพลังงาน จากการสนับสนุนของ DOGE โดยไม่ทันคิดให้ร...

Responsive image

อดีต CTO OpenAI เปิดตัว Thinking Machines Lab สตาร์ทอัพ AI แห่งใหม่

Mira Murati อดีต Chief Technology Officer (CTO) จาก OpenAI เปิดตัวสตาร์ทอัพใหม่ ชื่อว่า "Thinking Machines Lab" ซึ่งแน่นอนว่าจุดโฟกัสหลักยังคงอยู่ที่ AI...