ผ่าตัดสมองถือเป็นทักษะที่ต้องใช้ความสามารถและความละเอียดอย่างสูงสุด ถ้าพลาดไปแม้แต่นิดเดียว แน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อคนไข้ทันที แทบจะเรียกว่าห้ามผิดพลาดกันเลยทีเดียว นักวิจัยจาก University of Utah กำลังมองหาการลดความผิดพลาดดังกล่าว เลยมีการพัฒนาหุ่นยนต์ขึ้นมาเพื่อช่วยลดระยะเวลาการผ่าตัดให้เร็วขึ้นจากเดิม 2 ชั่วโมง กลายเป็นเหลือเพียงแค่ 2 นาทีครึ่งเท่านั้น

นักวิจัยได้ออกมาเผยแพร่งานวิจัยนี้ที่ Neurosurgical Focus โดยเป็นช่วงการทดสอบอยู่ว่าหุ่นยนต์มีความสามารถในการผ่าตัดสิ่งที่มีความซับซ้อนอย่างสมองมนุษย์ได้

หุ่นยนต์จะได้รับข้อมูลที่ป้อนเข้ามาจาก CT scans ที่แสดงว่าบริเวณไหนมีส่วนของเส้นประสาท หรือ หลอดเลือดที่ต้องหลีกเลี่ยง ก่อนเจาะเข้าไปในกะโหลกศีรษะ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการผิดพลาดจากการผ่าตัดด้วยมนุษย์โดยตรง

แม้ราคาประมาณการช่วงแรกนั้นสูงถึง 100,000 เหรียญสหรัฐฯ แต่ในระยะยาวเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้ประหยัดเงินในการผ่าตัดแต่ละครั้ง อีกเรื่องคือการที่ต้องวางยาสลบเพื่อต้องผ่าตัดนานๆ นั้นไม่เป็นผลดีกับคนไข้แน่ การย่นระยะเวลาดังกล่าวก็ช่วยลดปัญหาข้างเคียงเหล่านี้อีกด้วย

ในหลายๆ ภาคธุรกิจการนำเอาหุ่นยนต์มาใช้นั้น เห็นได้มากมาย โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรง รวมถึงงานโอเปอเรชั่นหลายๆ อย่างที่เริ่มเห็นหุ่นยนต์มากขึ้นอย่าง ทำพิซซ่า การชงกาแฟ การปิ้งแฮมเบอร์เกอร์... แต่สำหรับโลกของผู้เชี่ยวชาญ หุ่นยนต์ในวงการแพทย์สายผ่าตัดถือว่าค่อยเป็นค่อยไปตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเพราะต้องอาศัยความละเอียด และทักษะเฉพาะทางมากๆ ที่ผ่านมาสามารถใส่ screw ในกระดูก หรือช่วยในการผ่าตัดสะโพก แต่นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่นำเอาหุ่นยนต์มาใช้ในการผ่าตัดกะโหลกศีรษะกันเลยทีเดียว

จริงอยู่ที่อาจจะมีผู้ป่วยบางคนที่กังวลกับเทคโนโลยีดังกล่าว แต่สำหรับหุ่นยนต์ที่กำลังศึกษานี้ เขาว่ามีความแม่นยำและทำงานได้ดีกว่าในสิ่งที่บางครั้งมนุษย์อาจยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำไป นับเป็นข่าวดีสำหรับวงการแพทย์ แม้เทคโนโลยีล้ำแค่ไหน แต่แน่นอนเราขอสุขภาพแข็งแรงก่อน ยังไม่อยากมีประสบการณ์แบบนี้...จริงไหม

อ้างอิง CNN Tech