เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (11 เมษายน) Eric Adams นายกเทศมนตรีรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการนำ ‘Digidog’ หุ่นยนต์สี่ขากลับมาช่วยงานกรมตำรวจนิวยอร์ก (NYPD)
Digidog หรือที่รู้จักกันในชื่อ Spot เป็นหุ่นยนต์ควบคุมระยะไกลที่ผลิตโดยบริษัท Boston Dynamics บริษัทภายใต้เครือ Hyundai Motor Group ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานในสถานการณ์ที่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ เช่น ตรวจสอบพื้นที่อันตราย พื้นที่ก่อสร้าง บริษัทยังกล่าวว่ามันสามารถทำงานเพื่อดูแลความปลอดภัยในที่สาธารณะได้ด้วย
ก่อนหน้านี้กรมตำรวจนิวยอร์กเคยพยายามเอาเจ้า Digidog มาใช้แล้วตั้งแต่ปี 2020 แต่ถูกนักวิจารณ์ออกมาต่อต้าน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเฝ้าระวังและการใช้อาวุธของตำรวจ อีกทั้งถูกมองว่าเป็นการใช้งบประมาณโดยสิ้นเปลือง ทำให้กรมตำรวจฯ ยกเลิกสัญญากับทาง Boston Dynamics ไป ณ ขณะนั้น
Surveillance Technology Oversight Project (STOP) กลุ่มที่สนับสนุนการต่อต้านการใช้การเฝ้าระวังระดับท้องถิ่นและระดับรัฐ ได้ออกมาประณามนายกเทศมนตรีฯ กับการนำ Digidog กลับมาใช้งาน ว่าสิ้นเปลืองงบ รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของประชาชน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ของเมืองนิวยอร์กกล่าวว่า กรมตำรวจฯ จะซื้อหุ่นยนต์สุนัขสองตัวในราคารวม 750,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 25,680,000 บาท) และจะใช้เฉพาะในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น การขู่วางระเบิด
นอกจากการใช้ Digidog แล้ว Eric Adams นายกเทศมนตรีฯ และกรมตำรวจนิวยอร์กยังประกาศว่าจะทดสอบใช้เทคโนโลยีชนิดอื่น ๆ อีก 2 ชนิดที่เชื่อกันว่าน่ากลัวพอๆ กัน นั่นก็คือ StarChase's Guardian HX ซึ่งเป็นเครื่องยิงที่ติดตามแบบ GPS เอาไว้ติดตามยานพาหนะที่ตำรวจขกำลังไล่ล่า และ K5 ASR เป็นหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยอัตโนมัติ โดยระบุว่าจะเอามาใช้เพื่อหาข่าวกรอง ซึ่งย้ำชัดเจนว่าทั้ง Digidog และ K5 ASR จะไม่มีการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า
ซึ่งในแถบเอเชียเองก็มีการนำสุนัขหุ่นยนต์มาใช้ในกรมตำรวจเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น สิงคโปร์ที่ในปี 2020 ช่วงที่โควิด-19 ระบาด ก็นำสุนัขหุ่นยนต์มาใช้ในการสอดส่องและเตือนผู้คนให้รักษาระยะห่าง เช่นกันที่ประเทศจีน เมืองเซี้ยงไฮ้ ก็มีการนำสุนัขหุ่นยนต์มาประชาสัมพันธ์ถึงความอันตรายของ ไวรัสโควิด-19
อ้างอิง : Theverge
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด