Omise ประกาศได้รับเงินลงทุนรอบใหม่จาก Nomura Holdings

Omise ประกาศได้รับเงินลงทุนรอบใหม่จาก Nomura Holdings

Omise Holdings ผู้นำด้านบริการการเงินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกาศรับเงินลงทุนครั้งใหม่ ไม่ระบุมูลค่า จาก Nomura Holdings กลุ่มธุรกิจภายใต้ Omise Holdings ประกอบไปด้วย Omise (Payment gateway), OmiseGO และ GO.Exchange เงินลงทุนที่ได้รับการสนับสนุนในครั้งนี้ มีแผนนำไปเพื่อต่อยอดและขยายธุรกิจในเครือทั้งหมด ทั้งในภาคอุตสาหกรรมการรับชำระเงิน, เทคโนโลยีบล็อคเชน และการแลกเปลี่ยนมูลค่าดิจิทัล“การที่องค์กรซึ่งมีบทบาทสำคัญในภาคอุตสาหกรรมการเงินซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลให้ความสนใจและสนับสนุนในบริการด้านการเงิน, โครงสร้างระบบการเงินที่เปิดกว้าง (open infrastructure) และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เรากำลังพัฒนาอยู่นั้น ถือเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับเรา ด้วยความเปลี่ยนแปลงด้านระเบียบและข้อกำหนดเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อคเชนที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน มีผลต่อภาคอุตสาหกรรมของเรา เราเองไม่อาจให้ปัจจัยเหล่านี้มายับยั้งการเติบโตของธุรกิจได้อย่างที่ผมได้เคยกล่าวไปแล้วว่า ในการขยายธุรกิจ เราเน้นความร่วมมือกับประเทศที่มีการกำหนดกรอบการทำงานและมาตรการไว้ชัดเจน มีความโปร่งใส และแน่นอนว่าทางรัฐบาลจะต้องมีวิสัยทัศน์ก้าวหน้าด้วย” คุณจุน ฮาเซกาวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม Omise Holdings กล่าว

Nomura เป็นหนึ่งในองค์กรเพียงไม่กี่แห่งที่ให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล (digital asset custody) และเริ่มให้ความสนใจ ศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อคเชน ปัจจุบันกลุ่ม Nomura ให้บริการทางด้านการเงิน มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเอเชีย และ เครือข่ายในอีกกว่า 30 ประเทศ ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลาย Nomuraให้บริการด้านการเงินและรับให้คำปรึกษาแก่ทั้งลูกค้าองค์กรและลูกค้าบุคคล

Omise Holdings เป็นผู้นำในการขับเคลื่อนนวัตกรรมทางการเงินของอนาคต ทางบริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้จากระบบนิเวศน์ทางการเงิน (financial ecosystem) ที่กำลังถูกพัฒนาขึ้น จึงตั้งใจที่จะวางโครงสร้างพื้นฐานให้มั่นคงเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต นอกจากนี้แล้ว บริษัทฯ ยังเห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของการแปลงทรัพย์สินเป็นมูลค่าดิจิทัล (asset tokenization) ซึ่งในตอนนี้ทางบริษัทฯ ก็มีความพร้อมแล้วที่จะรองรับผู้ประกอบการและองค์กรต่างๆ ที่สนใจธุรกิจนี้ ทาง Omise Holdings เห็นว่าระบบนิเวศน์ทางการเงิน (financial ecosystem) และบริการแลกเปลี่ยนมูลค่าที่บริษัทในเครือสามารถให้บริการได้นั้น จะนำมาซึ่งระบบการเงินที่ลดความเหลื่อมล้ำ และช่วยสร้างความเท่าเทียมอย่างทั่วถึง ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมและโลกของเราต้องการ

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Burnout ใครว่าเรื่องเล็ก พนักงานหมดไฟ 1 คน บริษัทจะเสียเงินเท่าไหร่?

ภาวะหมดไฟ หรือ Burnout Syndrome ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่คอยกัดกินสุขภาพกายและใจของเรา แต่มันคือ 'ระเบิดเวลา' ที่ถูกมองความและสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับหลายองค์กรทั...

Responsive image

Techsauce - สภาหอการค้าไทย - มหาวิทยาลัยหอการค้า จับมือเตรียมยกระดับภาคการศึกษาและธุรกิจไทย

Techsauce สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (Harbour.Space@UTCC) ลงนาม MOU ส่งเสริมองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพของเยาวชนและผู้ประกอบการไทย...

Responsive image

OpenAI เปิดตัว Responses API เร่งพัฒนา AI Agents ใช้จริงในโลกธุรกิจ

OpenAI ได้ประกาศเปิดตัวเครื่องมือใหม่ล่าสุดในชื่อ Responses API ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันการพัฒนา AI Agents หรือระบบอัตโนมัติที่สามารถปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง โดย...