OR เตรียมขายหุ้น IPO พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจในยุคที่ปั๊ม ต้องเป็นได้มากกว่าสถานีบริการน้ำมัน | Techsauce

OR เตรียมขายหุ้น IPO พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจในยุคที่ปั๊ม ต้องเป็นได้มากกว่าสถานีบริการน้ำมัน

บริษัท  ปตท.  น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR พร้อมเปิดโอกาสให้คนไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ไทยที่จะก้าวไปเป็นแบรนด์ระดับโลก พร้อมสร้างคุณค่าให้กับสังคมชุมชน ผ่านการดำเนินธุรกิจน้ำมัน ธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ  และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ด้วยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)  โดยคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “OR” ในต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 นี้ พร้อมเผยกลยุทธ์สร้างฐานทัพที่แข็งแกร่งให้แก่บริษัท เดินหน้าขยายธุรกิจในยุคที่ปั๊ม ต้องเป็นได้มากกว่าสถานีบริการน้ำมัน 


OR ประกาศแผนเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 2,610,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 22.5 ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายได้แล้วของบริษัทฯ ภายหลังที่มีการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้ (ในกรณีที่มีการเสนอขายหุ้นทั้งจำนวน โดยไม่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) โดยแบ่งเป็น หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 300,000,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเฉพาะกลุ่มซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของ ปตท. ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้นของ ปตท. (“ผู้ถือหุ้นของ ปตท. เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้น”) ทั้งนี้ ณ วันปิดการเสนอขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 2,610,000,000 หุ้น หากมีผู้จองซื้อหุ้นเป็นจำนวนมากกว่าหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายดังกล่าว บริษัทฯ อาจมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินให้แก่ผู้ลงทุนจำนวนไม่เกิน 390,000,000 หุ้น อีกทั้ง การจัดสรรหุ้นของ OR ในส่วนของผู้ลงทุนรายย่อยในครั้งนี้จะไม่มีการจัดสรรหุ้นผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

คุณจิราพร ขาวสวัสดิ์ รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ OR กล่าวว่า “เราเชื่อมั่นว่าช่วงเวลานี้ถือเป็นจังหวะเวลาอันเหมาะสมที่ OR พร้อมเดินหน้าสู่การเติบโตครั้งใหม่ ด้วยการเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากจุดแข็ง รากฐานทางธุรกิจและกลยุทธ์การเติบโตอันแข็งแกร่งของ OR เพื่อก้าวสู่ความเป็นแบรนด์ไทยชั้นนำระดับโลกอย่างแท้จริง กับแนวคิดธุรกิจ “Retailing Beyond Fuel” วันนี้ เราพร้อมเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาร่วมเป็นเจ้าของและต่อยอดสู่การเติบโตที่ไกลกว่าเดิม”

ธุรกิจของ OR

OR ดำเนินธุรกิจน้ำมัน และธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ (Non-Oil) อย่างผสมผสานกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบด้วยการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในตลาดค้าปลีกและตลาดพาณิชย์ ธุรกิจร้านกาแฟ ร้านอาหารและเครื่องดื่มอื่น ๆ ร้านสะดวกซื้อ และการบริหารจัดการพื้นที่เช่า มีแบรนด์ซึ่งเป็นที่นิยมและได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวาง เช่น “PTT Station” แบรนด์สถานีบริการน้ำมัน ที่มีสาขา 1,968 แห่งในประเทศไทย และ 329 แห่งในต่างประเทศ “Café Amazon” แบรนด์ร้านกาแฟชั้นนำของประเทศไทยที่มีจำนวน 3,168 ร้านในประเทศไทย และ 272 ร้านในต่างประเทศ  ศูนย์บริการยานยนต์ “FIT Auto” จำนวน 56 แห่งในประเทศไทย และ 4 แห่งในต่างประเทศ ร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ “7-Eleven” ในสถานีบริการ และแบรนด์ “Jiffy” จำนวนรวมกัน 1,960 ร้านในประเทศไทย และ 86 ร้านในต่างประเทศ เป็นต้น 

จุดแข็งของ OR

ด้วยจุดแข็งและปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง OR ในฐานะบริษัท Flagship ของ กลุ่ม ปตท. ด้านการดำเนินธุรกิจน้ำมันและธุรกิจค้าปลีก มีสถานีบริการน้ำมัน “PTT Station” ซึ่งเป็นที่ยอมรับในด้านความน่าเชื่อถือ คุณภาพ และความสะดวกครบครันในที่เดียว ความเป็นผู้นำในการจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทยด้วยส่วนแบ่งการตลาดประมาณร้อยละ 38.9 (เมื่อพิจารณาจากปริมาณการขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงของสถานีบริการในปี 2562 โดย Wood Mackenzie) การมีเครือข่ายระบบจัดเก็บและการกระจายผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย การเดินหน้าพัฒนาธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ (Non-Oil) ซึ่งส่งเสริมธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี และความมีศักยภาพในการเติบโตสูงทั้งในและต่างประเทศ มีรากฐานทางธุรกิจที่มั่นคงในประเทศกัมพูชา ฟิลิปปินส์ และ สปป.ลาว อีกทั้งยังมีความสามารถในการขยายธุรกิจสู่ประเทศอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีคณะผู้บริหารที่มากประสบการณ์ และให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) 

กลยุทธ์สร้างการเติบโตอีก 5 ปี(64-68)

สำหรับแผนสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจในอีก 5 ปีข้างหน้า (2564-2568) บริษัทจะใช้งบลงทุนรวมทั้งหมด 74,600 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้สำหรับ ธุรกิจน้ำมัน(Oil) 34.6% ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน(Non-Oil) 28.6% ธุรกิจต่างประเทศ 21.8% และธุรกิจอื่นๆ 15% โดยบริษัทฯยังคงเน้นลงทุนในธุรกิจน้ำมันเป็นหลักเนื่องจากมองว่าเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้และกระแสเงินสดได้ค่อนข้างสูง 

พร้อมกันนี้ยังได้วาง 6 กลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายธุรกิจ ประกอบด้วย 

1.รักษาความเป็นผู้นำทั้งตลาดค้าปลีกและตลาดพาณิชย์ในประเทศไทย 

2) มุ่งส่งเสริมการเติบโตของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ (Non-Oil) สร้างฐานรายได้และเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไร 

3) ต่อยอดความสำเร็จ ความชำนาญ เพื่อการขยายตัวสู่ระดับภูมิภาค และระดับโลก 

4) เสริมสร้างศักยภาพ ขยายโอกาสการเติบโตด้วยเทคโนโลยี และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Big Data Analytics) 

5) ลงทุนครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทาน บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี และ 

6) มุ่งสร้างคุณค่าและการมีส่วนร่วมต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ทั้งประเทศชาติ สังคมชุมชน ผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า และพนักงานอย่างสมดุล


ด้านคุณพิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารการเงิน โออาร์ กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้  เพื่อนำไปใช้ในการขยายเครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน การขยายธุรกิจสำหรับตลาดพาณิชย์ การลงทุนในคลังเก็บผลิตภัณฑ์และศูนย์กระจายสินค้า การขยายเครือข่ายร้านค้าปลีก การลงทุนในธุรกิจต่างประเทศ รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

โดยบริษัทตั้งเป้าขยายสถานีบริการน้ำมันปั๊ม PTT Station เพิ่มเป็น 2,500 สาขาภายในปี 2568 จากปัจจุบันมีทั้งหมด 1,968 สาขา พร้อมทั้งเปลี่ยนสถานีบริการน้ำมันเป็นศูนย์กลางค้าปลีกของชุมชน (Living Community) ซึ่งจะให้ความสำคัญในการให้บริการลูกค้าทุกรายไม่ใช่เพียงแค่ลูกค้าที่เข้ามาเติมน้ำมันเท่านั้น

นอกจากนี้บริษัทฯยังมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ ไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า(EV) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่บริษัทฯจะนำมาเสริมการเติบโตให้แก่ OR โดยปัจจุบันบริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาพฤติกรรมเชิงลึกของผู้ที่ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ด้วยการติดตั้งสถานีชาร์จไว้แล้วทั้งหมด 25 แห่งทั่วประเทศ และสร้างแอพพลิเคชั่นรองรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า หากได้ข้อมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็จะนำมาสร้างโมเดลในธุรกิจ(business model )และสร้างธุรกิจใหม่ขึ้นมารองรับไม่ว่าจะเป็น การผลิตแบตเตอรี่ ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ผลิตและขายเครื่องชาร์จ(EV Charger)  เพื่อติดตั้งในสถานีบริการน้ำมันของตนเองในอนาคต  





ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

SME ไทยรับมือกับความยั่งยืนอย่างไรดี ? รู้จัก UOB Sustainability Compass ตัวช่วย SMEs เริ่มต้นเส้นทางแห่งความยั่งยืน

ยุคนี้ธุรกิจต้องคำนึงถึงความยั่งยืน หรือ ESG (Environmental, Social, Governance) ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นสิ่งที่ลูกค้า คู่ค้า และนักลงทุน ก็ให้ความสำคัญ จากผลสำรวจ UOB Business Outl...

Responsive image

พบช่องโหว่ แว่นตา Meta + AI ส่องหน้าล้วงข้อมูลในพริบตา รู้หมดทั้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์

นักศึกษา 2 คนจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เปิดเผยว่า สามารถนำแว่นตาอัจฉริยะ Meta มาเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีค้นหาใบหน้า ซึ่งจะช่วยให้สามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของใครก็ได้ ทั้งชื่อ ที่อยู่ แ...

Responsive image

อินเดียลุยผลิตชิปตัวแรกในอีก 2 ปี Nvidia AMD และ Micron ร่วมขยายฐานลงทุนในประเทศ

อินเดียมุ่งสู่การเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมชิป โดยตั้งเป้าผลิตชิปตัวแรกของประเทศภายในอีก 2 ปี สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะผลักดันให้อินเดียกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตชิปแห่งให...