Pay Solutions ผู้ให้บริการระบบชำระเงินออนไลน์แห่งแรกของประเทศไทย นำโดย ป้อม - ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพย์โซลูชั่น จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ธุรกิจออนไลน์เข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดและระบบเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน หลายธุรกิจต้องปรับตัวเข้าสู่รูปแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหารออนไลน์ หรือการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และหากจำเป็นต้องมีการชำระเงิน สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ช่องทางการชำระเงิน ที่ต้องพัฒนารูปแบบให้มีความหลากหลายเหมาะกับลูกค้า เช่น การชำระบัตรเดบิต บัตรเครดิต Mobile Banking หรือ Payment Gateway ที่ทำให้การชำระเงินสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
จากข้อมูลการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ของธนาคารแห่งประเทศไทย จะเห็นได้ว่าในปี 2562-2564 การชำระเงินผ่านพร้อมเพย์มีการเติบโตมากถึง 219% โมบายล์แบงกิ้ง 157% และจากฐานข้อมูลของเพย์ โซลูชั่น พฤติกรรมการจับจ่ายของคนในโลกออนไลน์ในช่วงโควิด มีการชะลอการจ่ายเงินสด และหันมาจ่ายในรูปแบบผ่อนชำระ มากขึ้นถึง 84 %
สำหรับปีนี้ Pay Solutions เป็นหนึ่งผู้ให้บริการที่เป็นตัวกลางของการชำระเงินกับระบบ Online Payment รองรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจองค์กร ผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงร้านค้าออนไลน์ในหลากหลายธุรกิจ โดยมีการเติบโตกว่า 40% หรือคิดเป็น 1,650 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ที่มาจากร้านค้าในระบบทั้งที่เป็นกลุ่มลูกค้าองค์กรและลูกค้า SMEs และในปีนี้ วางแผนเดินหน้าตอกย้ำความแข็งแกร่ง สร้างความแตกต่างเพื่อตอบสนองลูกค้า และหวังกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างนวัตกรรมให้ธุรกิจดิจิทัลของไทยต่อไปในอนาคต
ปัจจุบัน Pay Solutions เห็นถึงความสำคัญของเเนวโน้มสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ คริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งเราในฐานะผู้นำและเป็น “ผู้ให้บริการรายแรก” ของไทยที่เปิดให้บริการรับชำระเงินคริปโท “Crypto Payment” ให้กับธุรกิจต่างๆ โดยเป็นการชำระเงินรูปแบบใหม่และได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งเพิ่งมีการเปิดทดสอบการให้บริการ โดยความร่วมมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการแพลตฟอร์มในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล รองรับการชำระได้มากกว่า 350 สกุลเงิน โดยผู้จ่ายสามารถจ่ายผ่านระบบกระเป๋าคริปโท Metamask ผ่านระบบเครือข่าย Blockchain ของ Binance Smart Chain (BSC) ที่เป็นที่นิยมกันทั่วโลก
คุณภาวุธ กล่าวอีกว่า สำหรับ Crypto Payment ยังอยู่ในช่วงทดลองให้บริการ เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยยังไม่มีนโยบายสนับสนุนให้นำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ ดังนั้นจึงเปิดทดสอบให้กับร้านค้าและธุรกิจในวงจำกัด มีเกณฑ์การตรวจสอบตามนโยบายรู้จักร้านค้า (Know Your Merchant: KYM) เพื่อป้องกันความเสี่ยงอย่างรัดกุม
"เราทราบดีว่าทางภาครัฐ โดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทยมีความกังวลไม่ต้องการให้นำคริปโทมาใช้ชำระค่าสินค้า แต่เราเห็นโอกาสของนวัตกรรม เราเห็นเทรนด์ของทั่วโลกที่คริปโทกำลังเข้ามามีบทบาทในการเป็นสกุลเงินชำระสินค้า ดังนั้นเราจึงได้ทำความเข้าใจในข้อกังวลดังกล่าวและพบว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีความกังวลอยู่ 2 เรื่องหลักๆ คือ ความผันผวนของราคา และ การฟอกเงิน เพราะที่มาที่ไปของเงินคริปโทที่ทางการไม่สามารถตรวจสอบที่มาได้ ฉะนั้นเขาเลยค่อนข้างจะกลัวว่าหากเอาคริปโทไปซื้อสินค้าราคาแพง มันสามารถฟอกเงินได้ ดังนั้นบริการของ Pay Solutions จึงป้องกันความเสี่ยงไว้ดังนี้
ในการซื้อสินค้าและบริการบางรายการหากสงสัย เราจะขอสงวนสิทธิ์ ในการยืนยัน ให้ลูกค้ายืนยันตัวตนก่อนว่าเขาเป็นใคร สำหรับต่างชาติเราจะมีการตรวจสอบ โดยใช้ eKYC และมีระบบ Face recognition ใน Creden ดังนั้นลูกค้าจะสามารถยืนยันตัวตนผ่านระบบ โดยอาจจะใช้บัตร ประชาชนท้องถิ่นของเขา ใช้พาสปอร์ตยืนยันตัวตน นอกจากนี้จะมีการเชื่อมต่อกับระบบ National Digital ID (NDID) ของที่ภาครัฐทำอยู่แล้ว อีกทั้ง Pay Solution เราเป็นผู้ถือหุ้นใน NDID ด้วยเช่น ดังนั้นเทคโนโลยีทุกอย่างของเราพร้อม"
นอกจากบริการ Crypto Payment แล้ว Pay Solutions มีอีกหนึ่งบริการชำระเงินออนไลน์รูปแบบใหม่ที่จะเปิดตัวให้กับกลุ่มลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะ ซึ่งได้มีการร่วมมือกับพันธมิตรสถาบันการเงินชั้นนำ และเครือข่ายชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก มีจุดเด่นอยู่ที่การเพิ่มสภาพคล่องของกระแสเงินสดให้บริษัทด้วยศักยภาพของบัตรเครดิต ตั้งเป้าพัฒนาบริการเพื่อสนับสนุนธุรกิจของไทยและสร้างนวัตกรรมใหม่ของบริการชำระเงินออนไลน์
ในอนาคต Pay Solutions จะมีการพัฒนาบริการระบบการชำระเงินออนไลน์ใหม่ๆ โดยเน้นเชื่อมโยงทุกบริการด้านดิจิทัลที่มีอยู่ประมาณ 40 บริษัทมาบูรณาการ พร้อมผลักดันเข้าสู่อุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดการใช้งานจริง และเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการในแต่ละภาคส่วนต่างๆ โดยพัฒนาต่อยอดจากฟีเจอร์เดิมที่ให้บริการอยู่แล้ว
อาทิ ระบบจดจำบัตรเครดิต (Tokenizer), API ระบบตัดบัตรอัตโนมัติ (Recurring), Secure payment link, E-Tax invoice, e-Wallet และ Reseller module รวมถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของระบบจัดการ Back-office System, E-Tax invoice report, Fraud monitoring system, System on cloud service เชื่อมต่อ E-Commerce ให้ครอบคลุมตั้งแต่เว็บไซต์ ระบบจัดการร้านค้า ระบบรับชำระเงิน ระบบคลังสินค้า ระบบโลจิสติกส์ Big Data โฆษณาดิจิทัล และระบบปฏิบัติการ เช่น ระบบเอกสาร ระบบบัญชี และระบบงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลตลอดจนการพัฒนาในส่วนของการร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนาบริการให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด