บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ได้มีการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า คณะกรรมการ ปตท. ในการประชุม ครั้งที่ 12/2565 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 ได้มีมติอนุมัติงบการลงทุน 5 ปี (ปี 2566-2570) ของ ปตท. และบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้นร้อยละ 100 วงเงินรวม 100,227 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปตท. มีการลงทุนในธุรกิจหลัก (Core Businesses) เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศซึ่งคิดเป็นสัดส่วนของงบการลงทุน 5 ปี ประมาณร้อยละ55 โดยมีโครงการหลัก อาทิ โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 7
ทั้งนี้เพื่อทดแทนโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 1และโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 8 ซึ่งนำก๊าซธรรมชาติเหลว (“LNG”) มาแยกเป็น ผลิตภัณฑ์อีเทน และแอลพีจี รวมถึงถังเก็บผลิตภัณฑ์อีเทน และสถานีรับจ่ายเพื่อเพิ่มความสามารถในการนำเข้าผลิตภัณฑ์ อีเทน รวมทั้งโครงการท่อส่งก๊าซฯ บางปะกง - โรงไฟฟ้าพระนครใต้ และโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5
นอกจากนี้ ปตท. ยังได้จัดเตรียมงบลงทุนในอนาคต (Provisional Capital Expenditure) ในระยะ 5 ปี ข้างหน้าอีกจำนวน 302,168 ล้านบาท โดยหลักเพื่อการขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ ปตท. “Powering life with future energy and beyond” ที่มุ่งเน้นธุรกิจพลังงานสะอาดเพื่อไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
อาทิ การลงทุนในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าอย่างครบวงจรโดยขยายการลงทุนให้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ การลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์ และโครงสร้างพื้นฐาน โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงระบบเครือข่ายขนส่งทั้งหมดของประเทศ การลงทุนในธุรกิจ Life science (ธุรกิจยา Nutrition และอุปกรณ์ และการวินิจฉัยทางการแพทย์)
ทั้งนี้เพื่อการขับเคลื่อนธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน การลงทุนในด้านพลังงานหมุนเวียนเพื่อให้กลุ่ม ปตท. บรรลุเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ 12,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573 ตลอดจนการขยายการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นพลังงานเปลี่ยนผ่าน (Transition Fuel)โดยมุ่งเน้นในการขยายโครงข่ายท่อส่งก๊าซธรรมชาติ และการขยายการลงทุน ในธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลวอย่างครบวงจร (LNG Value Chain) ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
อ้างอิง SET
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด