เป้าหมายของเราในปีนี้ คือการยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค
นี่คือคำกล่าวเปิดของ ดาเรน เทย์ รองประธานและหัวหน้าฝ่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าดิจิทัล ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย จาก Samsung ในงานสัมนาเทคโนโลยี “Southeast Asia Tech Seminar 2025” ซึ่งจัดขึ้น ณ Business Experience Studio กรุงเทพมหานคร
งานนี้ไม่ใช่แค่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่คือการประกาศวิสัยทัศน์ครั้งสำคัญในการสร้าง "AI Home" หรือบ้านอัจฉริยะที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การเชื่อมต่อ แต่ก้าวไปสู่การคิดและเข้าใจผู้ใช้งาน
บทความนี้ Techsauce จะพาไปสรุปนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่น่าสนใจซึ่งถูกนำเสนอภายในงาน
หัวใจของ Ecosystem นี้คือ หน้าจอ AI Home ซึ่งถูกนำไปติดตั้งบนเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายรุ่น ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางควบคุมอัจฉริยะ ผู้ใช้สามารถมองเห็น และควบคุมอุปกรณ์ทุกชิ้นในบ้านผ่าน Map View ได้จากหน้าจอเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิดไฟ หรือตรวจสอบสถานะเครื่องซักผ้า
ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ การอัปเกรดผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Voice ID ซึ่งสามารถจดจำเสียงของผู้ใช้งานแต่ละคนได้ ในเดโมการใช้งาน เมื่อผู้ใช้งานถามว่า "โทรศัพท์ของฉันอยู่ไหน?" Bixby ไม่เพียงแค่สั่งให้โทรศัพท์ส่งเสียง แต่ยังระบุได้ว่าเป็นโทรศัพท์ของใคร และยังสามารถเชื่อมต่อกับปฏิทินส่วนตัวหรือแกลเลอรีรูปภาพของผู้ใช้คนนั้นๆ ได้อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ทำงานภายใต้เกราะป้องกันความปลอดภัยที่แข็งแกร่งอย่าง Samsung Knox ที่ติดตั้งมาในเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นที่เชื่อมต่อ Wi-Fi.
ภายในงาน ซัมซุงได้สาธิตการทำงานของผลิตภัณฑ์เรือธงรุ่นใหม่ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างเต็มรูปแบบ เช่น
ตู้เย็น Side-by-Side รุ่นใหม่มาพร้อมฟังก์ชัน Wide Auto Open Door ที่ให้เราใช้หลังมือหรือนิ้วแตะเบาๆ ที่เซ็นเซอร์ แล้วประตูจะเปิดออกเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งเบื้องหลังความเรียบง่ายนี้ คือเทคโนโลยีที่ซัมซุงจดสิทธิบัตรไว้ถึง 22 ฉบับ
นอกจากนี้ยังมี AI Energy Mode ที่ใช้ AI เรียนรู้พฤติกรรมการเปิด-ปิดประตูและสภาพแวดล้อม เพื่อควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์ให้ประหยัดพลังงานสูงสุดถึง 10%.
นี่เป็นครั้งแรกที่เทคโนโลยี AI Wash ถูกนำมาใส่ในเครื่องซักผ้าฝาบน โดยเครื่องจะใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับอัตราการดูดซับน้ำของผ้าแต่ละชนิด เพื่อแยกแยะว่าเป็นผ้าธรรมดา, ผ้าขนหนู หรือผ้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
จากนั้นจึงปรับรูปแบบการซักให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดความเสียหายของเนื้อผ้าได้ถึง 25% พร้อมด้วยเทคโนโลยี AI VRT+ ที่ใช้ AI ปรับความเร็วในการปั่นเพื่อหลีกเลี่ยงการสั่นสะเทือนรุนแรง ช่วยลดเสียงรบกวนได้ถึง 40%.
นอกจากเทคโนโลยี WindFree ที่เป็นจุดแข็ง (การทำความเย็นของแอร์โดยแทบไม่รู้สึกถึงแรงลม) ซัมซุงได้เพิ่มโหมด AI Fast & Comfort Cooling ที่ใช้ AI วิเคราะห์สภาพแวดล้อมในห้อง เพื่อปรับอุณหภูมิและความชื้นให้อยู่ในระดับที่สบายที่สุด พร้อมประหยัดพลังงานได้ถึง 30%
และยังมีโหมด ‘Good Sleep’ ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Galaxy Watch หรือ Galaxy Ring เพื่อปรับการทำงานของแอร์ให้สอดคล้องกับวงจรการนอนของเราโดยอัตโนมัติ โดยใช้การตรวจจับค่าหลายอย่างที่วัดจาก Galaxy Watch หรือ Galaxy Ring เช่น ค่าอุณหภูมิร่างกาย เพื่อปรับการทำงานของแอร์ให้สอดคล้องกับร่างกายแบบอัตโนมัติ
Bespoke AI Jet Ultra คือเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยมอเตอร์ HexaJet ที่ออกแบบใหม่ให้มีน้ำหนักเบาเพียง 148 กรัม แต่สร้างแรงดูดได้สูงสุดถึง 400 วัตต์
มาพร้อม AI Cleaning Mode 2.0 ที่สามารถจำแนกประเภทพื้นผิวได้ เช่น เมื่อเจอพรมจะเพิ่มแรงดูด หรือเมื่อเจอมุมห้องก็จะเพิ่มพลังดูดเช่นกัน ส่วนหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ก็ฉลาดขึ้นจนสามารถตรวจจับของเหลวใสๆ ที่ปกติแล้วหุ่นยนต์ทั่วไปมองไม่เห็นได้ ด้วยการใช้ทั้งกล้อง RGB และเซ็นเซอร์อินฟราเรดทำงานร่วมกัน
วิสัยทัศน์ AI Home ของซัมซุงในปีนี้ แสดงให้เห็นถึงย่างก้าวที่สำคัญ จากยุคของ Smart Home ที่ทำได้แค่เชื่อมต่อไปสู่ยุคของ AI Home ที่สามารถ "คิด วิเคราะห์ และเข้าใจ" เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย, ประหยัด และปลอดภัยอย่างแท้จริง
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด