แสนสิริ เผยแผนรุกธุรกิจครั้งสำคัญปี 2561 ก้าวสู่โรดแมพการดำเนินธุรกิจ “Tomorrow is Unfolded” ภายใต้กุญแจสำคัญ ได้แก่
- รุกกว้างตลาดต่างชาติ
- ผนึกกำลังพันธมิตรชั้นนำทั้งไทยและระดับโลก
- รุกพัฒนา Digital Transformation ในทุกด้านต่อยอดความสำเร็จ
- เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรด้วยวิธีการทำงานแบบ Agile เพื่อการเติบโตแบบก้าวกระโดด
- มุ่งผลักดันวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริงในทุกมิติ
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “จากการดำเนินงานตามแนวคิด Journey for Tomorrow ที่มุ่งเน้นการปฏิวัติองค์กรอย่างรอบด้านในปีที่ผ่านมา ทำให้ก้าวแรกของ Journey ของเราประสบความสำเร็จทั้งในด้านยอดขายและรายได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการรุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง และมีความพร้อมความแข็งแกร่งที่จะเติบโตต่อเนื่องในปี 2561”
ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้แสนสิริมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
- การลงทุนในต่างประเทศรวมมูลค่า 80 ล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 2,650 ล้านบาท ใน 6 บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ ได้แก่ The Standard, One Night, JustCo, Hostmaker, Monocle และ Farmshelf
- การพัฒนาด้าน Digital Transformation ใน 2 ด้าน คือ
- การเปิดตัว “สิริ เวนเจอร์ส” (SIRI VENTURES) บริษัทร่วมทุนกับธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อผลักดัน Property Technology อย่างเต็มรูปแบบ
- Siri LifeTech ที่มอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ครบครันและสะดวกสบายใน ทุกมิติ ได้แก่ Sansiri Home Service Application, AI Box, SAN:DEE Delivery Robot, Sansiri AI Box, Smart Move, Farmshelf และ Samitivej@Home
นายอุทัย กล่าวว่า
ในปี 2561 เราเห็นเทรนด์สำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยจะส่งสัญญาณที่ดีให้กับตลาดอสังหาฯ ผู้บริโภคมีไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไปให้ความสำคัญกับประสบการณ์แปลกใหม่ Sharing Economy Trend มีผลต่อการใช้ชีวิตต่างจากรูปแบบเดิมๆ และการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีจะก่อให้เกิดทั้งโอกาสใหม่ๆและการ Disruption ต่อหลายธุรกิจ ใครที่สามารถปรับตัว นำเสนอสิ่งที่โดนใจลูกค้าได้ก่อน และเป็นผู้กำหนด Trend จะเป็นผู้ชนะในการทำธุรกิจ
"เราเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะกระตุ้นการขยายตัวของตลาดและเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภค ดังนั้นในปีนี้เราจึงมุ่งนำเสนอโครงการรวมถึงการบริการที่หลากหลาย สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ ให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด และต่างประเทศ ที่สำคัญคือการสานต่อการเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศทั้งรายใหม่และเก่า" นายอุทัยกล่าวเสริม
แนวทางธุรกิจของแสนสิริปี 2561 : Tomorrow is Unfolded ที่น่าสนใจ
1. สานต่อ Digital Transformation Chapter 2
โดยมุ่งเน้น Digital Transformation 3 ด้าน ได้แก่
- มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและมองหานวัตกรรมที่นำมาต่อยอดได้สำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม
- มุ่งลงทุนต่อยอดโดยมีสิริ เวนเจอร์สเป็นหน่วยงานหลัก ด้วยแผนลงทุนระยะยาว 3 ปี งบประมาณทั้งสิ้น 1,500 ล้านบาท โดยจะเน้นงาน 3 ด้าน คือ การลงทุนในสตาร์ทอัพ ความร่วมมือในการผลักดันการสร้างระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพ ร่วมกับเครือข่ายนวัตกรรมระดับโลก อาทิ SOSA และ Plug and Play รวมไปถึงการพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมเพื่อพัฒนา Home Service Application ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและการใช้ชีวิตของลูกค้า
- ปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในองค์กร เพื่อให้การทำงานนั้นมีความคล่องตัวและก้าวเท่าทันยุคดิจิทัล
น้องแสนดี หรือ SAN:DEE Delivery Robot ส่งพัสดุภายในที่พักโครงการแสนสิริโดยการมุ่งเน้นทั้ง 3 ด้านนี้ จะทำให้เกิดผลงานที่เป็นรูปธรรม ได้แก่
- Product – นำเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง AI, IoT, Wearable และ Robot มาใช้สร้างนวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตที่สะดวกขึ้นสำหรับลูกบ้านแสนสิริ
- บริการ – ยกระดับการบริการลูกค้าเพื่อให้สะดวกสบาย รวดเร็วมากขึ้น ผ่าน Home Service Application 2.0 พร้อมฟังก์ชัน Thai Voice Command ที่พร้อมเปิดตัวให้ผู้พักอยู่ในโครงการทุกคนใช้ภายในไตรมาส 1 ปีนี้
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายในองค์กร – โดยการนำระบบ Salesforce เข้ามาใช้ เพื่อพัฒนาระบบการทำการตลาด รวมถึงระบบการบริการลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการนำระบบ Primavera ที่ช่วยควบคุมขั้นตอนการก่อสร้าง มาใช้ในองค์กรเป็นครั้งแรก
2. การเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคต
ผ่าน 3 แนวคิดใหญ่ ๆ ได้แก่
- การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เพื่อต่อยอดการพัฒนาโครงการและบริการในอนาคต
- การปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานแบบใหม่ที่สร้างแรงจูงใจให้บุคลากรพร้อมดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มาร่วมงานกับแสนสิริ หนึ่งในแนวคิดที่แสนสิริใช้ตอนนี้คือ Every Day is Friday ทำให้บุคลากรมีความสุขและมีความกระตือรือร้นในการทำงานในทุกๆ วัน นอกจากนี้ยังมีการนำวิธีการทำงานแบบ Agile way of working มาใช้ โดยเป็นรูปแบบการทำงานที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ลดขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยาก มีอิสระทุกการทำงาน และเปิดรับทุกความคิดสร้างสรรค์โดยเอาความต้องการลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญ
- การสร้างความมั่นคงในการทำงาน (Life-long Employability) มุ่งสร้างเสริมพัฒนาบุคลากรของแสนสิริให้มีคุณค่า มีความสามารถเติบโตไปสู่ความสำเร็จพร้อมกับองค์กรอีกด้วย นอกจากนี้แสนสิริมีแผนเปิดตัวโครงการ “New Generation of Young Designer” เพื่อเปิดรับเด็กรุ่นใหม่ที่พกพาไอเดียที่น่าสนใจมาผนวกกับความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของแสนสิริ เพื่อพัฒนาโครงการและบริการที่ตรงใจคนรุ่นใหม่ได้ดียิ่งขึ้น
3. เดินหน้าวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน (Sustainability)
แสนสิริมุ่งสร้างความยั่งยืนภายในองค์กรผ่าน 3 แกนหลัก ได้แก่
- Environment – อาทิ ลดการใช้กระดาษ (Paperless) ลดคาร์บอน ฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ผ่านการลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น เป็นต้น
- Social – ที่ผ่านมาแสนสิริได้ร่วมกับยูนิเซฟเพื่อพัฒนาสิทธิเด็กในประเทศไทยมานานกว่า 7 ปีแล้ว และยังจัดกิจกรรมสำหรับเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กในไซต์งานก่อสร้าง นอกจากนี้ยังเน้นการออกแบบโครงการต่างๆ ให้ทุกคนสามารถใช้งานได้เท่าเทียมกัน หรือที่เรียกว่า Universal Design
- Good Governance – ยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินงานอย่างโปร่งใส ถูกต้อง
นายอุทัยกล่าวปิดท้ายว่า
นับว่าปี 2561 นี้ เป็นอีกหนึ่งปีที่ท้าทายสำหรับแสนสิริ ด้วยทิศทางการรุกตลาดเต็มสปีด เรามั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน นอกจากนี้แสนสิริยังพร้อมเดินหน้าสร้างปรากฎการณ์ใหม่ๆ ให้แก่วงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ผ่านโครงการแนวใหม่ หรือ นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมถึงการสร้างชื่อให้แบรนด์แสนสิริกลายเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจับตามองในตลาดต่างประเทศอีกด้วย