เจาะลึก AI กับการเงินผ่านสายตาโปรแกรมเมอร์และผู้ใช้ | Techsauce

เจาะลึก AI กับการเงินผ่านสายตาโปรแกรมเมอร์และผู้ใช้

โลกการเงินกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไม่ได้เป็นแค่กระแส แต่เป็นพลังสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ตั้งแต่การจัดการสินทรัพย์ไปจนถึงการพัฒนาซอฟต์แวร์ 

บทความนี้จะพาคุณไปฟังทัศนะของ BlackRock ซึ่งเป็นผู้นำด้านการจัดการสินทรัพย์ระดับโลก และ GitHub แพลตฟอร์มที่นักพัฒนาทั่วโลกใช้ ในหัวข้อ Building tomorrow: Explaining the AI Tech Stack จากงาน Singapore FinTech Festival 2024  ซึ่งจะมาให้คำตอบว่า AI มีบทบาทอย่างไรในการสร้างอนาคตของโลกการเงิน

การเปลี่ยนแปลงที่ AI กำลังนำมาสู่อุตสาหกรรม

BlackRock: 

ในโลกที่ข้อมูลท่วมท้น ความเร็วและความแม่นยำคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ Kfir Godrich จาก BlackRock เผยว่า AI คืออาวุธลับที่ช่วยให้ BlackRock บริหารจัดการสินทรัพย์มูลค่ามหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

แพลตฟอร์มอย่าง Aladdin ซอฟต์แวร์สำหรับบริหารพอร์ตการลงทุน ที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนสามารถดูแลและจัดการการลงทุนในแต่ละวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็เป็นผลผลิตจากการนำ AI มาใช้ โดยออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะ 

นอกจากนี้ BlackRock ยังร่วมมือกับ Stanford ในการก่อตั้ง AI Labs เพื่อพัฒนา Machine Learning สำหรับการทำงานในหลายด้าน:

  • ประเมินความเสี่ยงแม่นยำขึ้น: AI ของ BlackRock สามารถประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่และประเมินความเสี่ยงของหลักทรัพย์ได้รวดเร็ว ช่วยลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดจากมนุษย์
  • จัดการ Cash Sales อย่างมีประสิทธิภาพ: AI ช่วยคาดการณ์ความต้องการเงินสดและจัดการคำสั่งซื้อ-ขาย ทำให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  • Smart Order Routing เลือกเส้นทางการซื้อ-ขายที่เหมาะสม: AI ช่วยเลือกตลาดที่เหมาะสมที่สุดในการส่งคำสั่งซื้อขาย โดยคำนึงถึงราคาที่ดีที่สุดและลดค่าใช้จ่าย ทำให้ผลตอบแทนของการลงทุนเพิ่มขึ้น

ในปัจจุบัน BlackRock กำลังสำรวจการนำ GenAI มาใช้ในการสร้างโมเดลการเงิน วิเคราะห์ข้อมูลตลาด ทำรายงาน และสื่อสารกับลูกค้า ช่วยเพิ่มความได้เปรียบในโลกธุรกิจ

GitHub:

GitHub ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับนักพัฒนา ได้พัฒนาให้มีความสามารถทางด้าน AI มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเปิดตัว GitHub Copilot ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยเขียนโค้ดที่ใช้การป้อนคำสั่งด้วย Natural Language หรือการที่ผู้ใช้สามารถพิมพ์คำสั่งในรูปแบบประโยคปกติ เช่น “เขียนฟังก์ชันในการตรวจสอบว่าข้อความเป็นพาลินโดรม” แล้ว Copilot จะสร้างโค้ดตามคำสั่งนั้นโดยอัตโนมัติ

จุดเด่นของ GitHub Copilot คือการทำให้การเขียนโค้ดเป็นเรื่องง่ายและเร็วขึ้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อาจไม่มีพื้นฐานที่แข็งแรงในด้านการเขียนโค้ด นี่เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นหรือนักพัฒนาที่ต้องการประหยัดเวลาในการทำงาน

GitHub Copilot ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากองค์กรและนักพัฒนาทั่วโลก เพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในหลายด้าน เช่น

  • ความเร็วในการทำงานเพิ่มขึ้น: นักพัฒนาที่ใช้ Copilot พบว่าพวกเขาทำงานเสร็จเร็วขึ้นถึง 55% เนื่องจาก Copilot ช่วยแนะนำโค้ดที่เหมาะสมตามบริบท ไม่ต้องเสียเวลานั่งพิมพ์หรือค้นหาวิธีการเขียนโค้ดเอง ซึ่งเป็นการลดเวลาที่ใช้ในขั้นตอนพื้นฐานได้มาก
  • ลดความซับซ้อนในกระบวนการเขียนโค้ด: Copilot ช่วยในการลดขั้นตอนที่ซ้ำซากหรือยุ่งยากในการเขียนโค้ด เช่น การเขียนโค้ดฟังก์ชันพื้นฐานต่างๆ ซึ่งช่วยให้โฟกัสไปที่ส่วนสำคัญของโปรเจกต์ได้มากขึ้น
  • เพิ่มความพึงพอใจในการทำงาน: ผลสำรวจระบุว่า 75% ของนักพัฒนาที่ใช้ Copilot เผยว่าการทำงานที่เคยต้องทำด้วยตัวเองกลายเป็นเรื่องง่ายและอัตโนมัติ ลดภาระงานซ้ำซ้อน และทำให้สามารถใช้เวลาที่เหลือไปกับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ได้

Shelley McKinley จาก GitHub เล่าว่า นักพัฒนาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนยุค AI โดยเครื่องมือ GitHub Copilot ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยเขียนโค้ดอัจฉริยะ เปรียบเสมือนผู้ช่วยที่คอยให้คำแนะนำ ช่วยให้นักพัฒนาทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สำคัญคือทำให้การเขียนโค้ดสนุกขึ้นและลดความเหนื่อยล้าในการทำงาน

GitHub ยังเผยตัวเลขที่น่าประทับใจ โครงการด้าน Generative AI หรือ GenAI บนแพลตฟอร์มนี้เติบโตขึ้นถึง 98% ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงการที่ AI กำลังถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในวงการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นการเขียนโค้ดแบบอัตโนมัติหรือการใช้ AI ช่วยสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่สะท้อนถึงพลังของ AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาศักยภาพของนักพัฒนา

ความท้าทายและความเสี่ยงในแวดวงการเงิน

ถึงแม้ว่าการนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมการเงินมีศักยภาพในการเพิ่มความรวดเร็วและลดข้อผิดพลาดจากมนุษย์ แต่ต้องเผชิญกับความท้าทายด้านความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย รวมถึงข้อกำหนดการกำกับดูแลที่เข้มงวด 

สถาบันการเงินต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่เข้มงวด เช่น EU AI Act ซึ่งเป็นกฎหมายในสหภาพยุโรปที่มุ่งควบคุมการใช้ AI ในงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การตัดสินใจเกี่ยวกับการเงินหรือการลงทุน เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้งาน AI มีความปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบ

ซึ่ง GitHub ก็มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนา AI ที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะในชุมชนโอเพนซอร์ส นอกจากนี้ GitHub ยังช่วยตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน AI อย่างเหมาะสม เพื่อส่งเสริมความมั่นใจทั้งในระดับองค์กรและสังคมโดยรวม

ข้อมูลจากงาน Singapore FinTech Festival 2024 ในหัวข้อ Building tomorrow: Explaining the AI Tech Stack

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

AI จะเป็น ‘ผู้กอบกู้’ หรือ ‘ผู้ทำลาย’ การ์ตูนญี่ปุ่น

เมื่อประตูสู่วัฒนธรรมและเสาหลักทางเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นอย่าง อนิเมะและมังงะกำลังถูก AI แทรกแซง อนาคตของวงการนี้จะเป็นยังไง ?...

Responsive image

เจาะลึกเทรนด์ Spatial Computing จุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับองค์กรยุคใหม่

Spatial Computing คือเทคโนโลยีที่ผสานโลกเสมือนจริงและโลกจริงเข้าด้วยกัน ซึ่งมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานขององค์กรในยุคดิจิทัล ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการฝึกอบรมและ...

Responsive image

ถอดกลยุทธ์ ‘ttb spark academy’ ปั้น Intern เพิ่มคนสายเทคและดาต้า Co-create การศึกษาคู่การทำงานจริง

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เห็น Pain Point ว่าประเทศไทยขาดกำลังคนด้านดิจิทัล (Digital Workforce) และธนาคารก็ต้องการคนเก่ง Tech & Data จึงจัดตั้ง ‘ttb spark academy’ เพื่อปั้น ...