ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (“SCB”) รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ว่า ธนาคารได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นซึ่งมีผลผูกพันเพื่อการขายหุ้นที่ธนาคารถืออยู่ทั้งหมดในบริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (“SCB Life”) ให้แก่กลุ่มเอฟดับบลิวดี (FWD Group Financial Services Pte. Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำทางด้านประกันชีวิตในเอเชีย โดยภายหลังการซื้อขายหุ้นดังกล่าวแล้วเสร็จ ธนาคารและ SCB Life จะเข้าทำสัญญาจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านธนาคารระยะยาว โดยการเข้าทำรายการครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือด้านประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์
ในความร่วมมือครั้งนี้ ธนาคารจะเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตของเอฟดับบลิวดี ให้แก่ลูกค้าของธนาคารผ่านช่องทางจัดจำหน่ายต่าง ๆ ของธนาคารเป็นเวลา 15 ปี โดยภายใต้ข้อกำหนดของสัญญา ธนาคารจะได้รับค่าตอบแทนทั้งหมดเป็นจำนวน 9.27 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ธนาคารจะยังได้รับค่าตอบแทนสำหรับการขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตตลอดช่วงระยะเวลาความร่วมมือเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านธนาคาร
การเป็นพันธมิตรประกันชีวิตครั้งนี้ถือเป็นการผนึกกำลังระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่และมีช่องทางจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม กับบริษัทเอฟดับบลิวดีซึ่งมีความสามารถที่โดดเด่นทั้งด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและการออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่สร้างสรรค์และตรงใจลูกค้า โดยทั้งสองฝ่ายพร้อมร่วมมือเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และประสบการณ์บริการที่ดีที่สุด เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า อีกทั้งการลงนามความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นเพื่อบรรลุเป้าหมายของธนาคารในการเป็น “ธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด” หรือ The Most Admired Bank ต่อลูกค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้น องค์กรกำกับดูแล และสังคมไทย โดยการทำสัญญาข้างต้นคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2562 ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้น อาทิ การได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องและการได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของธนาคาร โดยภายหลังการทำรายการแล้วเสร็จ ลูกค้าที่ถือครองกรมธรรม์ของ SCB Life จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ลูกค้าจะยังคงได้รับผลประโยชน์ ความคุ้มครอง รวมถึงบริการอย่างต่อเนื่องดังที่กำหนดในกรมธรรม์ อีกทั้งกรมธรรม์ของ SCB Life จะได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องโดย FWD
คุณอาทิตย์ นันทวิทยา CEO ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่า “ธุรกิจประกันชีวิตเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อธนาคารในระยะยาว โดยความร่วมมือกับ FWD จะเป็นการรวบรวมเอาจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายมาสร้างมูลค่าให้กับลูกค้า ผู้ถือหุ้น พนักงานและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ FWD ถือเป็นบริษัทชั้นนำด้านประกันชีวิตในภูมิภาค ที่มีความสามารถในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจง่ายและตรงกับความต้องการของลูกค้า มีความสามารถโดดเด่นด้านเทคโนโลยี รวมถึงมีทีมบริหารที่มีประสบการณ์สูง ซึ่งสิ่งสำคัญในการเป็นพันธมิตรร่วมกันในครั้งนี้ ทั้งธนาคารและ FWD มุ่งมั่นที่จะสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย โดยยึดมั่นถึงความต้องการของลูกค้ามาเป็นอันดับแรก นับว่าเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจในครั้งนี้”
ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวถึงเป้าหมายของความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ลูกค้าคือหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของเรา ดังนั้น เป้าหมายสำคัญของพันธมิตรธุรกิจในครั้งนี้คือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่สร้างสรรค์ ตอบโจทย์และครอบคลุมความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ ดร.อารักษ์ ยังได้เน้นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองฝ่ายในการพัฒนาดิจิทัลโซลูชั่น โดยจะต่อยอดการลงทุนในดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มความสามารถในการออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมถึงการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ให้แก่ลูกค้าในอนาคต
คุณ Huynh Thanh Phong (นายฮวิน ทัน ฟง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่ม FWD กล่าวว่า “ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นธนาคารชั้นนำในประเทศไทยที่มีประสบการณ์และความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง เรามุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตในธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย เรามั่นใจในความสามารถด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์รวมถึงการเข้าใจความต้องการของลูกค้าในไทยอย่างแท้จริง ด้วยความร่วมมือในครั้งนี้ กลุ่ม FWD และ SCB จะนำศักยภาพชั้นนำด้านประกันชีวิตและด้านดิจิทัลมาสร้างผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงินของลูกค้า”
นาย Huynh กล่าวเสริมว่า “เรามีประสบการณ์ด้านการเติบโตในธุรกิจประกันชีวิตในภูมิภาค รวมถึงการสร้างพันธมิตรเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านธนาคารที่มีประสิทธิผล ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตชั้นนำของ FWD โดยเรามุ่งมั่นที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของลูกค้า ทั้งนี้ เราเชื่อมั่นว่าธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตได้มาก และเรามุ่งมั่นที่จะสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าและผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง”
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด