อว. เปิดตัว งานวิทย์ NST fair Science Carnival Bangkok 2565 พร้อม 5 โซนไฮไลท์ในงาน | Techsauce

อว. เปิดตัว งานวิทย์ NST fair Science Carnival Bangkok 2565 พร้อม 5 โซนไฮไลท์ในงาน

เดือนสิงหาคมของปีนี้ กรุงเทพฯ ถูกเนรมิตให้กลายเป็นห้องเรียนวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่เพื่อขยายพื้นที่การเรียนรู้แบบไร้ขีดจํากัดโดยไม่จํากัดรูปแบบ ขานรับเดือนแห่งวิทยาศาสตร์ โดยหนึ่งในนั้นคืองาน NST Fair Science Carnival Bangkok ซึ่งจัดขึ้นโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ภายใต้แนวคิด “วิทย์ปลุกชีวิต - Science Alive” ที่มาพร้อมคอนเซปต์ “ศิลปะ วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมเพื่อสังคมที่ยั่งยืน (Art-Science-Innovation for Sustainable Society)” 

อว. เปิดตัว งานวิทย์ NST fair Science Carnival Bangkok 2565 พร้อมสำรวจ 5 โซนไฮไลท์ในงาน

งานจัดแสดงจะเป็นการนําเสนอในรูปแบบ Immersive Experience ให้ทุกคนได้รับประสบการณ์และความคิดสร้างสรรค์ในทุกกิจกรรม พร้อมปลุกชีวิต สร้างสีสันกับอิเล็กทรอนิคพาเหรด ตั้งกล้องมองดาวใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้สนุกกับทุกความเป็นไปได้ในการนําวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมไปใช้เป็นแนวทางในการดําเนินชีวิตและพัฒนาอาชีพสู่การเป็นนักเทคโนโลยีและนวัตกรรมรุ่นใหม่ในอนาคต บริเวณศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ชั้น G และชั้น 5 ทั้งในพื้นที่ร่มและพื้นที่กลางแจ้งด้วยกัน

วิทยาศาสตร์ไทยไม่แพ้ใคร ถ้าทำให้เป็นเรื่องสนุกและใกล้ตัว

โดยเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 สิงหาคม 2565 ได้มีการเปิดตัวงานอย่างเป็นทางการ ภายในพิธี ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.)  ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผอ.อพวช. ได้ให้เกียรติมาร่วมเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมกล่าวแสดงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่จะเป็นแรงผลักดันการพัฒนาประเทศชาติต่อไป 

โดย ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์  กล่าวว่า วันที่ 18 สิงหาคมของทุกปีเป็น “วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ” ที่เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช รัชกาลที่ 4 “พระราชบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” ที่เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2411 ทรงคํานวณการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงครั้งแรกในไทยไว้ล่วงหน้าได้ 2 ปี อย่างแม่นยํา สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของรัชกาลที่ 4 ทําให้ต่างชาติรู้จักสยามในนามประเทศที่มีอารยะ

“ทุกวันนี้วิทยาศาสตร์ของไทยไม่แพ้ใคร มีนักวิทยาศาสตร์ไทยหลายคนที่ทํางานให้กับหน่วยงานระดับโลก แสดงถึงศักยภาพคนไทยได้ดี วิทยาศาสตร์ของไทยเป็นศาสตร์ที่มีมาแต่โบราณ บรรพบุรุษไทยถือเป็นนักวิทยาศาสตร์อยู่ในตัว เห็นได้จากการสร้างโบราณสถาน หรือวัดวาอาราม ล้วนนําองค์ความรู้พื้นฐานวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ทั้งสิ้น วิทยาศาสตร์จึงไม่ใช่เรื่องใหม่สําหรับคนไทย แต่มีการต่อยอดจากอดีตจนถึงปัจจุบันสู่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ซึ่งเราจะได้สัมผัสเรียนรู้ผ่านมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ในปีนี้” ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก กล่าว

ทางด้าน ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า อว. มุ่งเน้นขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เป็นมาตรฐานระดับสากล เน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากรและพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี นวัตกรรม ผ่านการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติเพื่อเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 ได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อการปรับเปลี่ยนประเทศไปสู่โครงสร้างเศรษฐกิจ และสังคมนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ด้าน ศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อํานวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า งาน “NST Fair Science Carnival Bangkok” เป็นการยกคาราวานความสนุกทางวิทยาศาสตร์มาไว้ใจกลางเมืองเพื่อให้คนเมืองเรียนรู้ได้สะดวก ใส่แนวคิด Immersive Experience สร้างประสบการณ์ร่วมกัน สะท้อนให้เห็นว่าวิทย์เป็นเรื่องใกล้ตัว ใครก็เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้ ทั้งยังสอดคล้องไปกับนโยบายของกรุงเทพมหานครที่ต้องการ “เปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็นห้องเรียนวิทยาศาสตร์สําหรับทุกคน ทําให้วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่สนุกและเข้าถึงได้ให้กับเยาวชน ครอบครัวและประชาชนในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร” 

สำรวจ 5 โซนไฮไลท์ในงาน Science Carnival

การจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมภายในงาน มีสิ่งที่น่าสนใจ และกิจกรรมไฮไลท์ต่างๆ บนพื้นที่กว่า 1,600 ตารางเมตร ทั้งในพื้นที่อาคาร และพื้นที่กลางแจ้ง ดังนี้

1.เขาวงกตปลุกประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในนิทรรศการ SCIENCE ALIVE “วิทย์ปลุกชีวิต” ที่จัดในรูปแบบ Interactive Art & Science เข้าสู่เขาวงกตที่จะพาไปพบกับคําตอบในรูปแบบ IMMERSIVE EXPERIENCE ให้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ผสมผสานกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม  

โดยจุดแรกคือ ALIVE Sound นิทรรศการที่ให้ทุกคนสัมผัสและจับอารมณ์ตัวเองเพื่อทดสองว่ามี 13 เสียงบนโลกนี้ที่ส่งผลกับอารมณ์ของคน โดยแต่ละเสียงจะมีลูกเล่นเป็นเส้น LED ที่สัมพันธ์ไปกับเสียงที่เกิดขึ้น 

ห้องต่อไปคือ ALIVE Scent มีกลิ่นทะเลและกลิ่นป่า ซึ่งเป็นกลิ่นที่นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า สามารถปลุกประสาทการรับรู้กลิ่นให้ตื่นขึ้นได้อีกครั้ง 

ถัดไปจะเป็นการสร้างความท้าทาย สัมผัสการมองเห็นที่ห้อง ALIVE Sight ผ่านภาพ Visual ที่ได้ศิลปิน NFT มาออกแบบ เหมาะสำหรับการถ่ายรูปทําคอนเทนต์ 

จุดถัดไปคือ ALIVE Touch ที่มีกิมมิกคือบอลลูนไลท์ติ้งตลอดทางเดินเพื่อหลบหลีก ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงของแต่งห้องธรรมดา เมื่อเดินชนบอลลูน ไฟภายในห้องก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย 

สุดท้ายคือ ALIVE Taste บทสรุปของทุกประสาทสัมผัสถูกรวมไว้ที่ ALIVE Candy Bar เป็นการให้โหวตโซนที่ชอบ เพื่อรับคูปองที่สามารถแลกของหวานภายในงานได้

2.สํารวจ ‘Innovation for Life’ นวัตกรรมปลุกชีวิต สำรวจความใกล้ตัวของวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมแห่งอนาคต ภายใต้โซนย่อย 4 โซน ได้แก่ Home, Lifestyle, Trend และ Future ซึ่งมีนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องมาจัดแสดงจากเหล่าพันธมิตร  อาทิ 

o ด้านสุขภาพ ตรวจสุขภาพจิตด้วยโปรแกรมและ VR จาก Me Hug และ Agnos ซึ่งเป็นระบบ AI วิเคราะห์โรคด้วยตัวเอง ผลงานจาก Youth startup Fund (YSF)

o ด้าน Entertainment พบกับหุ่นยนต์พนักงานต้อนรับ The Walkie! โดยทีมชมรมนักประดิษฐ์วิศวกรรม (EIC Chula) และ หุ่นยนต์ฝึกปิงปองอัจฉริยะ Pong Bot จาก True

o ด้าน Shopping พบกับ InnoMall ร้านขายสินค้านวัตกรรมออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Shopee โดย NIA และพลาดไม่ได้กับผลงานนวัตกรรมด้าน BCG (Bio - Circular - Green Economy) จากเวที U2T Hackathon 2021 รวมไปถึงสุดยอดนวัตกรรมจากโครงการพัฒนาเครือข่ายและศักยภาพผู้บริหารระดับสูง WINS (WISE-Innovation-Network-Serving Society) ที่นำคนรุ่นใหม่มาพบกับผู้บริหารระดับสูง สร้างสรรค์และพัฒนาอนาคตร่วมกัน

3.ส่องสตูดิโอนักประดิษฐ์โซน Makers Science & Challenges สตูดิโอที่ให้นักประดิษฐ์โชว์และแชร์ผลงาน มีการเปิดพื้นที่ให้ลองสร้างสรรค์ผลงานไปพร้อมกับเหล่า Maker และในวันที่ 21 สิงหาคม 2565 เวลา 18.00 -19.00 น. ร่วมสนุกและส่งเสียงเชียร์กับการแข่งหุ่นยนต์ Hebocon สิ่งประดิษฐ์จากขยะ

4.ลานกิจกรรม Chill & Shop ที่ Future Food Market จุดโชว์ ‘อาหารทางเลือก’ เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน อาทิ Superfood ผงโปรตีนธรรมชาติจิ้งหรีดขาว จากร้าน Bounce Burger by The Bricket 

5.“มาตี้” มาสคอตขนาดใหญ่หน้าสามย่านมิดรทาวน์ มาสคอตที่สร้างขึ้นมาเป็น GIANT PROJECTION MAPPING LANDMARK ที่บอกเล่าเรื่องราวความน่าสนใจของวิทยาศาสตร์ภายในงาน ผ่านลวดลายกราฟิกและผลงานศิลปะ NFT ในทุกวันเสาร์-อาทิตย์ 1 ทุ่มตรง พร้อมกับขบวน Electric Parade หรือพาเหรดมนุษย์ไฟนีออน

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การแสดงดนตรี MUSIC SYNCONISE โดย ศิลปิน NFT และนักเรียนนักศึกษา หรือมุมมองใหม่ๆ จากวิทยากรกิตติมศักดิ์ ในวันที่ 20 - 21 สิงหาคม 2565 และร่วมฟังความรู้และประสบการณ์ด้านวิทยาศาสตร์จากผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ณ เวทีกิจกรรม และพิเศษสุดกับกิจกรรมดูดาวกับ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) ในวันที่ 20 สิงหาคม 2565 ณ บริเวณสวนลอยฟ้า ชั้น 5

มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจําปี 2565 “NST Fair Science Carnival Bangkok” มีขึ้นตั้งแต่ วันที่ 17 - 21 สิงหาคม 2565 ณ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ บริเวณชั้น G และชั้น 5 เวลา 10.00 - 22.00น. (พื้นที่ในร่ม) และ เวลา 15.00 - 22.00 น. (พื้นที่กลางแจ้ง) สําหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook : NSTFair Thailand หรือ www.thailandnstfair.com สอบถามเพิ่มเติมโทร. 02-577-9960

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

KKP คาดอสังหาฯ ไทยปี 2567 หดตัว บ้านใหม่เสี่ยงค้างสต๊อกสูงสุดใน 8 ปี หวังมาตรการใหม่ช่วยกระตุ้น

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร เผย ตลาดอสังหาฯ ไทยปี 2567 ยังเผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจชะลอตัว โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดชะลอตัวได้แก่ หนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90%...

Responsive image

อีคอมเมิร์ซจีนเร่งบุกตลาดต่างประเทศ รับมือเศรษฐกิจซบเซา ผ่านแคมเปญ Singles Day

หลังจากเทศกาลช้อปปิ้งวันคนโสดปีที่แล้วที่ซบเซาที่สุดในประวัติศาสตร์ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีนจึงตระหนักว่าการขยายตลาดไปต่างประเทศเป็นสิ่งจำเป็น...

Responsive image

Pink Tech ไทย กำลังมา! ศูนย์ AI มธ. ชี้ กรุงเทพฯ จ่อขึ้นแท่นศูนย์กลางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

รายงานล่าสุด "Unlocking the Power of Pink Tech in Thailand" โดยศูนย์ AI มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ Canvas Ventures International (CVI) เผยให้เห็นศักยภาพอันมหาศาลของประเทศไทยในกา...