ก.ล.ต. เตรียมออกเกณฑ์เปิดทางให้ SMEs และ Startup ระดมทุนในวงกว้างได้

ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกหลักเกณฑ์เพื่อรองรับการระดมทุนในวงกว้างของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SMEs และ Startup เพื่อช่วยเพิ่มทางเลือกให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุนได้ตามความเหมาะสม ขณะที่ดูแลผู้ลงทุนให้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่เพียงพอ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่า ในปัจจุบัน SMEs ยังไม่สามารถระดมทุนจากผู้ลงทุนในวงกว้างและนำกิจการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ เนื่องจากกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอาจไม่เอื้ออำนวยและต้นทุนในการระดมทุนค่อนข้างสูง

ดังนั้นเพื่อส่งเสริมให้ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ตามเป้าหมายของแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่กำหนดการเพิ่มสัดส่วนเอสเอ็มอี ต่อ GDP เป็นร้อยละ 60 ภายในปี 2580 ก.ล.ต. จึงจะเปิดช่องทางให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพสามารถระดมทุนในวงกว้าง (Public Offering: PO) ได้ ขณะเดียวกันยังดูแลให้ผู้ลงทุนได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม

ก.ล.ต. กำหนดแนวทางให้ SMEs และ Startup ที่เป็นบริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนจำกัด ซึ่งมีผลการดำเนินการมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง (proven track record) หรือมีมูลค่ากิจการระดับหนึ่งแล้ว เช่น  SMEs ขนาดกลางตามนิยามของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และ SMEs ที่อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ สามารถระดมทุนจากบุคคลในวงกว้างและนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดรอง* ได้โดยไม่ต้องยื่นคำขออนุญาต แต่ต้องยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อ ก.ล.ต. และจัดทำหนังสือชี้ชวนให้แก่ผู้ลงทุนเพื่อให้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน รวมทั้งต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังนี้ 

1. เปิดเผยข้อมูลของกิจการและงบการเงินตามที่กำหนด โดยงบการเงินจะต้องผ่านการสอบทานหรือตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีที่ผ่านการตรวจคุณภาพจาก ก.ล.ต. ซึ่งมีอยู่ 29 แห่งในปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563)

2. ผู้ลงทุนต้องมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้ 

  1. ผู้ลงทุนสถาบัน กิจการเงินร่วมลงทุน นิติบุคคลร่วมลงทุน ผู้ลงทุนที่มีลักษณะเฉพาะ (angel investor)
  2. กรรมการและพนักงานของ SMEs และ Startup หรือบริษัทในเครือ
  3. ผู้ลงทุนที่มีประกาศนียบัตรวิชาชีพที่แสดงถึงความรู้ด้านการเงินและการลงทุน (professional license) 
  4. ผู้ลงทุนทั่วไปที่มีความรู้และประสบการณ์การลงทุนในหุ้นโดยจะต้องมีเงินลงทุนโดยตรงในหุ้นเฉลี่ยตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไปในรอบระยะเวลา 12 เดือนล่าสุด และการซื้อขายหุ้นเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพต้องทำผ่านตัวกลางที่ปฏิบัติตามกระบวนการขายผลิตภัณฑ์ (sales conduct) เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ประเภทเสี่ยงสูงและซับซ้อน รวมทั้งผู้ลงทุนต้องผ่านแบบทดสอบความรู้ (knowledge test) เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ลงทุนทราบถึงความเสี่ยงจากการลงทุน

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=602 ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail: [email protected] หรือ [email protected] หรือ [email protected] จนถึงวันที่ 13 มีนาคม 2563

หมายเหตุ : * ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างหารือเรื่องรูปแบบการจัดตั้งตลาดรองเพื่อรองรับการจดทะเบียนของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

อ้างอิง ก.ล.ต.

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เปิดเทรนด์ Garmin 2025 วิ่งยังยืนหนึ่ง ส่วนคนไทยหันมานั่งสมาธิ เดินเฉลี่ยวันละ 7,120 ก้าว

Garmin เปิดเผยข้อมูลจากรายงาน Garmin Connect Data Report 2025 ซึ่งรวบรวมสถิติการใช้งานจริงจากผู้ใช้ทั่วโลก แสดงให้เห็นภาพรวมกิจกรรมฟิตเนสที่เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดย...

Responsive image

Gemini 3 Flash ฉลาดแต่ไม่ซื่อสัตย์ ปัญหาใหญ่คือเน้นตอบให้ได้ มากกว่าตอบให้ถูก

Gemini 3 Flash โมเดล AI รุ่นล่าสุดจาก Google ถูกจับตาหนัก หลังผลทดสอบชี้ว่า แม้จะฉลาดและแม่นยำสูงเมื่อรู้จริง แต่ในกรณีที่ไม่รู้คำตอบ โมเดลกลับมีโอกาสสร้างคำตอบสมมติสูงถึง 91%...

Responsive image

วิจัยเผย 'การเล่นเกม' ช่วยลดอายุสมองได้ 4 ปี เพิ่มสมาธิ เรียนรู้เร็วขึ้น ชะลอความเสื่อมได้แค่เล่นให้ถูกวิธี

มีนักวิจัยหลายคนพบว่า เกมอาจไม่ใช่ผู้ร้ายอย่างที่คิดและในบางกรณียังช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองได้ด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้หมายความว่า “ยิ่งเล่นเกมเยอะยิ่งดี” ผู้เชี่ยวชาญย้ำตรงกันว่าประโยชน...