บริษัท e-commerce ของเวียดนามอย่าง Sendo ได้ทำการระดมทุนรอบ Series C ไปกว่า 61 ล้านดอลลาร์ จากผู้ถือหุ้นเดิมรวมถึงนักลงทุนหน้าใหม่อย่าง EV Growth ของอินโดนีเซียและธนาคารกสิกรไทย
นอกจากนี้ยังรวมนักลงทุนหน้าเดิมที่ยังคงกลับมาสนับสนุน อาทิ SBI Group, BEENOS, SoftBank Ventures Asia, Daiwa PI Partners และ Digital Garage ซึ่งทั้งหมดนี้เคยสนับสนุนในรอบ Series B เป็นมูลค่ากว่า 51 ล้านดอลลาร์ในปี 2018
CEO Tran Hai Linh กล่าวว่า จะมีการนำเงินมาเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีอย่าง AI และ machine learning ในการทำงานเพื่อปรับปรุงการช่องทางการซื้อขายของผู้บริโภค
“ในขณะเดียวกันเราได้บรรลุเป้าหมายในด้านยอดขายประจำปี เพราะสูงกว่าที่คาดไว้ถึง 1 พันล้านดอลลาร์ แต่ถึงอย่างไรเราก็ยังมุ่งมั่นที่จะให้มียอดขายสูงอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งเราเชื่อว่าผลนี้ต้องมาจากการประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ดีของลูกค้า”
“จุดแข็งของ Sendo คือความสามารถในการสร้างพันธมิตรภายใน Ecosystem ที่ทำให้เกิด ความเท่าเทียมสำหรับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น พ่อค้า บริษัทขนส่ง บริษัทโฆษณาและสถาบันการเงิน” Daniel Kang หุ้นส่วนอาวุโสและกรรมการผู้จัดการของ SoftBank Ventures Asia กล่าว
หลังจากแยกตัวออกจาก FPT Corporation บริการด้านไอทีที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม Sendo ได้มุ่งเป้าไปในเมืองที่ยังไม่ได้มีการเปิดตลาดมากนัก ซึ่งมีปริมาณลูกค้ากว่า 70 ล้านคน
บริษัทอ้างว่า การขยายบริการนี้ต้องดึงดูดผู้ขายมากกว่า 500,000 รายด้วยจำนวนสินค้าขนาดย่อย 17 ล้านรายการที่อยู่ในแพลตฟอร์ม รวมถึงลูกค้ามากกว่า 12 ล้านราย และยังเป็นตลาดแรกในเวียดนามที่ได้รับใบอนุญาต e-wallet ในชื่อบริการชำระเงินที่เรียกว่า Senpay ซึ่งปัจจุบันครองอันดับสามในแง่ของมูลค่าการทำธุรกรรมทั่วประเทศ
รายงานโดย iPrice ระบุว่าไตรมาสที่สามของปี 2019 แสดงให้เห็นว่า Sendo แซงหน้าคู่แข่งอย่าง Tiki ในการเป็นแอปฯ ที่มียอดดาวน์โหลดมากที่สุดเป็นอันดับสองและเว็บไซต์ e-commerce ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดเป็นอันดับสองในเวียดนาม ในขณะที่ Shopee ขึ้นแท่นผู้นำในประเทศ
ตามรายงานของ iPrice Tiki มียอดการใช้งานเว็บและแอปฯ ในไตรมาสที่สามนั้นมีการเติบโตมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบปีต่อปีและยังชี้ไปที่รายงานของ Nielsen ที่กล่าวว่าได้คะแนนสูงสุดจากคะแนน (NPS) หรือ ตัวบ่งชี้ความน่าจะเป็นของผู้ใช้ที่แนะนำแพลตฟอร์มให้ผู้อื่น ในช่วงเดือนกันยายน
Tiki ซึ่งเหมือนกับ Sendo ที่เลือกที่จะดำเนินงานเฉพาะในเวียดนามเท่านั้น จัดเป็นคู่แข่งที่มีเงินทุนหนาเนื่องด้วยมีการระดมทุนจาก Northstar Group และนักลงทุนอื่นๆ ประมาณ 75 ล้านดอลลาร์ และเชื่อกันว่ารอบนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านดอลลาร์
เวียดนามและอินโดนีเซียเป็นหนึ่งในสองผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในด้านตลาดผู้ใช้อินเทอร์เน็ตซึ่งเติบโตเกินกว่า 40% ต่อปีตามรายงานของ e-Conomy SEA 2019 โดย Google, Temasek Holdings และ Bain ซึ่งมาจากผลของแรงขับเคลื่อนจากการเติบโตของตลาด e-commerce และเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตของประเทศที่อาจจะแตะ 12 พันล้านดอลลาร์ในปี 2019 โดยมีมูลค่าสินค้าขั้นต้นคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 5% ของ GDP ประเทศตามรายงาน
ที่มา: Deal Street Asia
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด