ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย เปิดการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ (12 มีนาคม 2563) ปรับตัวลดลงกว่า 125.05 จุด หรือคิดเป็น 10% มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 61,326.06 ล้านบาท ส่งผลให้ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสั่งหยุดการซื้อขายชั่วคราว (Circuit Breaker)โดยเป็นไปตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ ที่ระบุว่า จะสั่งพักการซื้อขายชั่วคราวเป็นเวลา 30 นาที หากตลาดหุ้นมีความผันผวน และปรับตัวลดลงกว่า 10% ของค่าดัชนีปิดในวันทำการก่อนหน้า โดยปิดอยู่ที่ 1,249.89 จุด
ขณะที่ด้านปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยร่วงหนัก เป็นผลกระทบจากโรคระบาดไวรัส COVID-19 หลังจากที่เมื่อคืนนี้ (11 มีนาคม 2563) องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้มีการประกาศให้กลายเป็นโรคระบาดหนักทั่วโลก หรือ Pandemic สร้างความวิตกกังวลให้ต่อเศรษฐกิจทั่วโลก จากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้ส่งผลให้ดัชนีดาวน์โจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงกว่า 1200 จุดทันที
สำหรับการสั่งหยุดซื้อขายชั่วคราว (Circuit Breaker) ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย โดย 3 ครั้งก่อนหน้า เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2549 เป็นครั้งแรก จากเหตุการณ์สกัดการเก็งกำไรค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2551 จากเหตุการณ์วิกฤติการเงินโลก หรือ Hamburger Crisis และครั้งที่ 3 เกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันต่อมา ในวันที่ 27 ตุลาคม 2551 จากความวิตกกังวลของนักลงทุนในเหตุการณ์เดียวกันกับครั้งที่ 2
อย่างไรก็หากสถานการณ์ของดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงร่วงต่อเนื่องหลังจากที่มีการสั่งพักการซื้อขายในครั้งแรกแล้ว การสั่งพักการซื้อขายครั้งที่ 2 จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อดัชนีตลาดหุ้นร่วงลงมาไปถึง 20% (ลดลงอีก 10%) ของค่าดัชนีปิดในวันทำการก่อนหน้าตลาดหลักทรัพย์จะพักการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งหมดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง และหลังจากการทำงานครั้งที่ 2 ของ Circuit Breaker แล้วตลาดหลักทรัพย์จะเปิดให้ทำการซื้อขายต่อไป จนถึงเวลาปิดทำการตามปกติโดยไม่มีการหยุดพักการซื้อขายอีก
ขอบคุณข้อมูลจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด