Techsauce ได้มีโอกาสรับเชิญให้ไปเยี่ยมชมสำนักงานแห่งใหม่ของ Shopee ถึงสิงคโปร์ พร้อมฟังการแถลงภาพรวมของ Shopee และแนวทางการพัฒนาในอนาคต
Chris Feng ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Shopee กล่าวว่า “ภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี ‘Shopee’ ได้ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งแอปพลิเคชันช้อปปิ้งอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ซึ่งนี่จะเป็นภาพสะท้อนการพัฒนาต่อของ Shopee รวมถึงสำนักงานใหม่ที่จะนำพาองค์กรสู่ความสำเร็จในระยะยาว โดยที่ผ่านมาการเติบโตของการสั่งสินค้าสูงขึ้นถึง 93.3% และมียอดสั่งซื้อในอินโดนีเซียสูงถึง 1.2 ล้านรายการต่อวัน
โดยแคมเปญ 11. 11 Big Sale แคมเปญแห่งการช้อปปิ้งออนไลน์ช่วงปลายปีของ Shopee จะเปิดตัวพร้อมกันใน 7 ประเทศและจะจัดยาวต่อเนื่องไปจนถึงวันดีเดย์ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้
"เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ก้าวสู่ศักราชใหม่แห่งประวัติศาสตร์ของช้อปปี้เราได้เตรียมกลยุทธ์และแผนการทางธุรกิจที่ชัดเจนเพื่อขับเคลื่อนช้อปปี้และตลาดอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้ให้สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องและเราจะพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีที่สุดผ่านการสร้างปฏิสัมพันธ์และเชื่อมต่อผู้ใช้งานเข้าไว้ด้วยกันในรูปแบบโซเชียล” Chris Feng กล่าวทิ้งท้าย
ในงานครั้งนี้ได้มีคุณ Dong Hyun Associate Director eAPAC จาก P&G และ Visna Lim Chief Digital Officer APAC จาก L’ORÉAL PARIS มาพูดถึงประสบการณ์และสิ่งที่ได้รับผ่านการเป็นผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม Shopee
ทั้งสองท่านได้พูดถึงการเติบโตของ E-commerce ในภูมิภาคเอเชียว่ากำลังขยายขึ้นอย่างรวดเร็ว "การนำเอาผลิตภัณฑ์ของตัวเองขึ้นไปอยู่บนแพลตฟอร์มได้จึงถือว่าเป็นทิศทางที่ดี โดยเฉพาะในเวียดนามและไทยก็จัดว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจอย่างมาก" คุณ Visna Lim กล่าวเสริม
"การเข้าสู่แพลตฟอร์มของ Shopee ทำให้เราได้ค้นพบพฤติกรรมใหม่ๆ ของผู้ซื้อที่น่าสนใจ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ ที่เรายังไม่เคยมี"
คุณ Dong Hyun ยังกล่าวต่อว่า "การมีแพลตฟอร์ม Online ช่วยทำให้เราวางสินค้าได้มากขึ้น จากการค้าขายแบบ Offline ที่เราสามารถวางสินค้าได้เพียงจำนวนจำกัด พร้อม Data ที่เราได้รับยังสามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อสร้างกลยุทธ์แบบ Real time ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงจุด พร้อมสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว"
"อีกหนึ่งปัญหาที่เราค้นพบคือการที่ลูกค้าไม่สามารถทดลองสินค้าได้ก่อนการสั่งซื้อ นี่นำมาซึ่งนวัตกรรมใหม่ที่ทาง P&G และ L’ORÉAL PARIS ได้ทำงานร่วมกับทาง Shopee อย่างการสร้าง Mom Club และการทดลองเครื่องสำอางผ่านแอปฯ ด้วยการถ่ายภาพตนเองและทดลองเครื่องสำอางกับใบหน้า"
"การทำงานร่วมกัน นำพามาซึ่ง Omni Channel ที่ผ่านมาเราอาจมองว่านี่เป็นคำสวยหรู แต่เมื่อได้ขายสินค้า Online กับ Shopee คำนี้กลายเป็นคำประจำที่ทีมงานต่างให้ความสำคัญ เรียกได้ว่าเปลี่ยนจากเทรนด์มาสู่การปฏิบัติงานจริง ความเป็น Personalize เป็นการสร้างแบรนด์ที่เฉพาะตัวมากขึ้น"
Terence Pang ประธานฝ่ายปฏิบัติการ Shopee เผยว่า "ที่ผ่านมาตลาดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อการช้อปปิ้งออนไลน์ค่อนข้างเข้มข้น เราพยายามจะสร้างแคมเปญใหม่ๆ ให้กับลูกค้าเสมอ เพื่อตอบรับกับความต้องการที่เปลี่ยนไป จากเมื่อ 2 ปีก่อนที่ผู้บริโภคจะมองหาเรื่องของราคา แต่ปัจจุบันกับให้ความสำคัญในเรื่องของปฏิสัมพันธ์ โดยเฉพาะผู้ใช้งานในไทยที่นิยมแชทเพื่อสอบถามคุณภาพ การใช้งานของสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ ในขั้นต่อไป Shopee มุ่งเน้นที่จะสร้างความเชื่อมต่อให้มากขึ้นทั้งกับผู้ซื้อ-ผู้ขาย และผู้ขาย-ผู้ขาย และจะพยายามทำให้แอปฯ ของเราตอบโจทย์ผู้ใช้งานอยู่เสมอ"
สำนักงานแห่งใหม่ของ Shopee มีการปรับให้สอดคล้องกับแผนลงทุนระยะยาวเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ E-commerce ของภูมิภาค โดยสำนักงานใหญ่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 244,000 ตารางฟุตและจะเป็นฮับสำคัญด้านนวัตกรรม เพื่อการต่อยอดธุรกิจในอีก 7 ประเทศ
สำนักงานใหม่นี้รองรับพนักงานกว่า 3,000 คน และรวบรวมพนักงานไว้กว่า 27 ประเทศ ภายใต้แนวคิดความเชื่อมโยง (Connectivity) ความร่วมมือ (Collaboration) และความเป็นหนึ่งเดียวกัน (Community)
ภายในอาคารมีบริษัทในเครือที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่หลายราย อาทิ Airpay พร้อมออกแบบให้มีความร่วมสมัยใช้งานได้อย่างเหมาะสม เพิ่มความผ่อนคลายให้กับพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส ห้องนวดและสปา รวมไปถึงห้องงีบหลับ และลานกิจกรรมภายนอกตัวอาคาร
โดยการออกแบบทั้งหมดไม่มีการปิดกั้นแผนกต่างๆ เพื่อสร้างความรู้สึกของการทำงานร่วมกันอย่างเปิดกว้างและง่ายต่อการติดต่อสื่อสาร เพื่อสื่อถึงความเป็น Shopee ในการเชื่อมต่อผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม อีกทั้งให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นผ่านการทำงานของพนักงานที่สามารถทำงานได้ทุกที่ในสำนักงาน พร้อมเลือกชั่วโมงพักผ่อนได้ตามความสะดวก
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด