Siriraj x MIT Hacking Medicine จัด Hackathon ปี 2 ใช้ AI แก้ปัญหา 'โรคเรื้อรัง' และ 'สุขภาพจิต'

อีกกิจกรรม Hackathon ที่จัดขึ้นต่อเนื่องและเชื่อว่าจะสร้างผลกระทบเชิงบวกให้วงการแพทย์ได้ในระดับภูมิภาคและระดับโลก คือ 'Siriraj x MIT Hacking Medicine 2025' ปี 2 เพราะเป็น Healthcare Innovation Hackathon ที่ร่วมจัดโดยสถาบันการแพทย์ชั้นนำของไทย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และ MIT Hacking Medicine จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT) ประเทศสหรัฐอเมริกา 

ศ. นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

โดย 'Siriraj x MIT Hacking Medicine 2025' เป็นเวทีการแข่งขันระดมไอเดียค้นหาสุดยอดนวัตกรรมโซลูชันอย่างยั่งยืนด้านการรักษาและบริการสุขภาพระดับนานาชาติ ซึ่งมีการจัดตั้งความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะเวลา 3 ปีร่วมด้วย เพื่อวางรากฐานให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมด้านสุขภาพของภูมิภาคอาเซียน 

ดร. พงษ์ศักดิ์ ฮุ่นตระกูล และภริยา คุณนนทนา ธนบัตรชัย ผู้ก่อตั้ง มูลนิธิ PNF ผู้แทนจาก  MIT Alumni Association, ศ. ดร. นพ.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช, ศ. นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, ศ. พญ.ธนัญญา บุณยศิรินันท์ รองคณบดีฝ่ายนวัตกรรมความเป็นเลิศ และคุณค่าองค์กร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, คุณปริวรรต วงษ์สำราญ รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ, คุณนาเดีย สุทธิกุลพานิช รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), ดร. อรรจน์ภรณ์ คุณเลิศกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการมืออาชีพ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ Intersystems

รายละเอียดเกี่ยวกับ Siriraj x MIT Hacking Medicine 2025 

Siriraj x MIT Hacking Medicine ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นกลไกเร่งการเปลี่ยนแปลงด้าน Healthcare โดยผสานความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความคิดสร้างสรรค์เข้ากับการลงมือปฏิบัติ ซึ่งความร่วมมือนี้อาศัยประสบการณ์จริงจาก MIT ในการจัด Hackathon และความสำเร็จของงาน Siriraj x MIT Hacking Medicine 2024 มาเป็นแรงผลักดันให้แผนความร่วมมือขยายต่อไปถึงปี 2027 

สำหรับแรงบันดาลใจในการจัด Hackathon ด้านสุขภาพในปีนี้ มาจากเทรนด์และศักยภาพอันมหาศาลของ ปัญญาประดิษฐ์แบบสร้างสรรค์ (Generative AI) โดยรายละเอียดการแข่งขัน มีดังนี้

• งาน Hackaton จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ : วันที่ 31 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 โดยกิจกรรมที่รวมถึงงานประชุมจะจัดขึ้น 5 วัน ประกอบไปด้วย 
  • Hackathon เข้มข้น (31 ต.ค. – 2 พ.ย.) ทีมข้ามสายงานพัฒนาแนวทางจัดการโรคเรื้อรังและสุขภาพจิต
  • Showcase และ Networking (2 พ.ย.) ทีมชนะนำเสนอผลงานต่อผู้เชี่ยวชาญ พร้อมโอกาสสร้างเครือข่ายในวันที่ 3 พ.ย.
  • ประชุมนวัตกรรมสุขภาพนานาชาติ (4 พ.ย.) ปาฐกถาและเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก นักลงทุน และผู้ปฏิบัติการ พร้อมกิจกรรมแบบมีส่วนร่วม
    
    
• ธีมงานคืออะไร : 'AI Today, Transforming Tomorrow’s Healthcare' มุ่งเน้นการนำ AI ไปใช้ในการปฏิรูปการดูแลผู้ป่วย เพิ่มประสิทธิภาพระบบสุขภาพสาธารณะ และลดความเหลื่อมล้ำในบริการ AI มีศักยภาพในการแก้ปัญหาเชิงระบบในภาคสาธารณสุขได้ในเชิงลึก โดยเน้นใช้ศักยภาพของ AI ในการตอบโจทย์ความท้าทายที่ผู้ป่วย บุคลากรการแพทย์ และระบบสุขภาพต้องเผชิญ 
  
  
• 2 ประเด็นที่เปิดรับ : โรคเรื้อรัง (Chronic Disease) และ สุขภาพจิต (Mental Health) 
  
  
• ใครเข้าร่วมได้บ้าง : เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมจากหลากหลายสาขาวิชา มารวมทีมและทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญด้านสุขภาพและการแพทย์ เพื่อให้เกิด 'ความร่วมมือข้ามสาขาวิชา'
  
  

•  สิ่งที่ผู้เข้าอบรมจะได้รับ :
  • โอกาสเข้าถึงบริบทของโรงพยาบาลจริงเพื่อเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้ง
  • ทรัพยากรทางเทคนิคเพื่อสร้างต้นแบบ (prototype) และทดลองแนวคิดอย่างต่อเนื่องกิจกรรมกลุ่มเชิงโครงสร้างเพื่อเร่งกระบวนการเรียนรู้และพัฒนา
  • การให้คำปรึกษา (mentorship) เพื่อเตรียมความพร้อมให้นวัตกรรมสามารถเข้าสู่ตลาด หรือถูกนำไปใช้จริงภายในองค์กร
  • ผู้เรียน/ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าร่วม Hackathon และงานประชุม ผ่านกิจกรรมเชิงโต้ตอบในแต่ละช่วงของงาน ซึ่งจะช่วยให้แนวคิดได้รับการปรับแต่งและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงท้ายของหลักสูตรที่มุ่งเน้นการขัดเกลาโครงการให้พร้อมใช้งาน
    
    
• สำหรับผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าแข่งขัน : จะได้รับ 'Golden Ticket' เพื่อเข้าร่วม MIT Grand Hack 2026 ที่เมืองบอสตัน พร้อมรับคำปรึกษาและโอกาสในการรับทุนสนับสนุน
  
  
• เปิดรับความร่วมมือและสปอนเซอร์เพิ่มเติม : Siriraj x MIT Hacking Medicine ยินดีเปิดรับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน อาทิ มหาวิทยาลัย รัฐบาล องค์กรธุรกิจ ผู้ประกอบการ หรือผู้สนใจการปฏิรูปด้านสุขภาพ

Siriraj x MIT Hacking Medicine 2025 จะจัดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์และเชื่อมต่อกับงานประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ นักเทคโนโลยี นักออกแบบ นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และนักลงทุน ทั้งในรูปแบบเสวนาใหญ่ เวทีสำหรับการพูดคุย และกิจกรรมแบบมีปฏิสัมพันธ์หรือเวิร์กช็อปกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งนักวิจัยจากศิริราชจะร่วมแลกเปลี่ยนเชิงลึกกับภาคอุตสาหกรรม กับนักศึกษา เพื่อร่วมกันพัฒนาแนวทางแก้ไขที่น่าสนใจต่อความท้าทายด้านสุขภาพเป็นวงกว้าง

 2 ผู้เข้าแข่งขันใน Siriraj x MIT Hacking Medicine 2024 มาถ่ายทอดประสบการณ์การเข้าร่วมงาน Hackathon และได้รับ Golden Ticket ในงานแถลงข่าวเปิดตัว Siriraj x MIT Hacking Medicine 2025 

ศ. นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของภูมิทัศน์นวัตกรรมสุขภาพในประเทศไทย เราไม่ได้เพียงแค่จัด Hackathon แต่เรากำลังสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ที่จะเปลี่ยนไอเดียที่มีศักยภาพให้กลายเป็นโซลูชันที่พร้อมออกสู่ตลาด และมีผลกระทบในระดับโลก”

งานนี้ ศิริราช กับ MIT Hacking Medicine มุ่งทำให้เกิด 'Hackathon นวัตกรรมสุขภาพ' ขึ้นแท่นระดับอาเซียน โดยเปิดให้ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมปั้นสตาร์ทอัพไทยสู่ตลาดโลก ผ่าน Siriraj x MIT Hacking Medicine 2025 โดยใช้เทคโนโลยี AI เป็นตัวขับเคลื่อน 

ส่วน MIT จะนำประสบการณ์จากทั้งในมหาวิทยาลัยและจากพื้นที่รอบบอสตัน ซึ่งเป็นศูนย์กลางบ่มเพาะนวัตกรรมสุขภาพระดับโลก มาสร้าง 'โมเดลการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ' ร่วมกับประเทศไทย โดยมีศิริราชเป็นฐานของบริบททางคลินิก ทำหน้าที่เป็น 'สนามทดลอง' สำหรับวิศวกร ผู้ประกอบการ นักวิทยาศาสตร์ แพทย์ นักธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในการทดสอบ ตรวจสอบความถูกต้อง และผลักดันนวัตกรรมให้เกิดผลกระทบทางสังคมที่มีความหมาย

(ขวา) ศ. ดร. นพ.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช 

ศ. ดร. นพ.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช กล่าวถึง Siriraj x MIT Hacking Medicine ว่า ไม่ใช่แค่เวทีแข่งขันทางวิชาการ แต่คือจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ด้านธุรกิจสุขภาพ 

"เรากำลังสร้างเวทีระยะยาวที่จะผลักดันธุรกิจสุขภาพอย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาค ทีมที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับคำปรึกษา ทุนการศึกษาสำหรับเข้าโครงการ HEALTHI Lab โอกาสในการเชื่อมโยงกับภาคเอกชน นักลงทุน และแหล่งทุนเพื่อขยายผลไปสู่ตลาดจริง”

อย่างไรก็ดี กิจกรรม Hackathon นี้ยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรมสุขภาพระหว่างประเทศ โดยอาศัยพลังจากมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีสุขภาพ อุตสาหกรรมยา ระบบบริการสุขภาพ สตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการ และองค์กรภาครัฐ-เอกชน โดย Siriraj x MIT Hacking Medicine ยังสนับสนุนโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green) ของประเทศไทย โดยเฉพาะในด้าน BioHealth และ Digital Health

HEALTHI Lab หลักสูตรใหม่ เปลี่ยนไอเดียเป็นผลิตภัณฑ์ แนวปฏิบัติ และบริการ

นอกเหนือจากการนำผลงานนวัตกรรมเข้าสู่ตลาด ซึ่งเป็นความท้าทายสำหรับผู้สร้างสรรค์ด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญจาก MIT ยังร่วมกับพันธมิตรในประเทศไทยเปิดตัว หลักสูตรอบรมผู้บริหารแบบเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ (Action Learning Executive Course) ซึ่งออกแบบมาเพื่อพัฒนา ผู้ประกอบการ (entrepreneurs) รวมถึง ผู้สร้างนวัตกรรมภายในองค์กร (intrapreneurs) และ ผู้นำด้านนวัตกรรมในภาคธุรกิจ (corporate innovation leaders) ให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ แนวปฏิบัติ และบริการที่ตอบโจทย์ได้จริง โดยหลักสูตรใหม่นี้ใช้ชื่อเบื้องต้นว่า HEALTHI Lab (Healthcare Entrepreneurial Action Learning for Thailand Innovation) และจะเริ่มอบรมรุ่นแรกภายในปีนี้

ที่น่าสนใจคือ MIT นำประสบการณ์จากทั้งในมหาวิทยาลัยและจากพื้นที่รอบบอสตัน ซึ่งเป็นศูนย์กลางบ่มเพาะนวัตกรรมสุขภาพระดับโลก มาสร้าง 'โมเดลการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ' ร่วมกับประเทศไทย โดยมีศิริราชเป็นฐานของบริบททางคลินิก ทำหน้าที่เป็น 'สนามทดลอง' สำหรับวิศวกร ผู้ประกอบการ นักวิทยาศาสตร์ แพทย์ นักธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในการทดสอบ ตรวจสอบความถูกต้อง และผลักดันนวัตกรรมให้เกิดผลกระทบทางสังคมที่มีความหมาย

Dr.Anjali Sastry อาจารย์อาวุโสแห่ง MIT Sloan School of Management ผู้ก่อตั้ง GlobalHealth Lab แห่ง MIT และอดีตรองคณบดีของ MIT Open Learning และอดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ Harvard

ดร.แอนจาลี ซัสทรี (Dr.Anjali Sastry) อาจารย์อาวุโสแห่ง MIT Sloan School of Management ผู้ก่อตั้ง GlobalHealth Lab แห่ง MIT และอดีตรองคณบดีของ MIT Open Learning และอดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ Harvard กล่าวว่า 

“HEALTHI Lab พลิกโฉมนวัตกรรมสุขภาพด้วยการฝังผู้ประกอบการไว้ในบริบทของโรงพยาบาล พร้อมประสานความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ อย่างเป็นระบบ เราใช้แนวทางลงมือทำจริง (hands-on) เพื่อให้มั่นใจว่าโซลูชันสามารถใช้งานได้จริง และยังเป็นแนวทางการเรียนรู้ที่มอบข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าสำหรับผู้นำที่ต้องการขับเคลื่อนนวัตกรรม โดยผู้เข้าร่วมจะประกอบด้วยผู้ประกอบการ ผู้บริหาร และพนักงานที่มีแนวคิดเชิงนวัตกรรมจากภายในองค์กร สิ่งที่ทำให้โครงการนี้โดดเด่นคือ ขอบเขตระดับภูมิภาค ซึ่งเรากำลังสร้างสายส่งนวัตกรรมที่เชื่อมโยงความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมสุขภาพจากบอสตัน เข้ากับระบบนิเวศที่มีชีวิตชีวาและความท้าทายเฉพาะของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

นอกจากนี้ ทาง HEALTHI Lab ยังมีแผนจัดกิจกรรมที่เปิดให้ทุกคนเข้าร่วมได้ เช่น Mini-Webinar ที่นำเสนอข้อมูลเชิงลึกจากผู้นำนวัตกรรมสุขภาพระดับแนวหน้าจากทั่วโลก 

ผู้สนใจเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสุดยอดการประชุมสุขภาพ ‘Siriraj x MIT Hacking Medicine 2025’ เข้าร่วมการแข่งขัน Hackathon หรือเข้าร่วมอบรมในหลักสูตร HEALTHI Lab สามารถสมัครได้ทางเว็บไซต์ www.SirirajxMITHackMed.com