โครงการ Siriraj x MIT Hacking Medicine เกิดขึ้นจากความร่วมมือของสองสถาบันชั้นนำ ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เสาหลักด้านการแพทย์ของไทย และสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) สถาบันการศึกษาชั้นนำของสหรัฐอเมริกา โดยมีเป้าหมายสำคัญในการจุดประกายนวัตกรรมสุขภาพ เพื่อผู้สูงวัยในอนาคต และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในประเทศไทย พร้อมขยายผลลัพธ์ที่ดีไปสู่ประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว จำนวนประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำมาซึ่งความท้าทายใหม่ๆ ทางด้านการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น ภาวะโรคเรื้อรังที่เพิ่มสูงขึ้น ความต้องการการดูแลสุขภาพในระยะยาว รวมถึงปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ ดังนั้น การเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด โดยการผนึกกำลังกันระหว่างความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ของศิริราช และศักยภาพด้านเทคโนโลยีของ MIT จะช่วยสร้างสรรค์โซลูชั่นที่ตอบโจทย์ และพร้อมรับมือกับความท้าทายของสังคมผู้สูงอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ศ. นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวเปิดโครงการ Siriraj x MIT
โดยความสำเร็จของโครงการ Siriraj x MIT Hacking Medicine เกิดจากความร่วมมืออย่างแข็งขันของหลากหลายภาคส่วน โดยมีทั้งสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) หน่วยงานภาครัฐที่ให้การสนับสนุนด้านการพัฒนานวัตกรรมและการสร้างระบบนิเวศ, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ให้การสนับสนุนด้านองค์ความรู้ทางการแพทย์, สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ผู้บุกเบิกด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี, Huawei Thailand Cloud Business ผู้ให้บริการเทคโนโลยีคลาวด์ที่ช่วยเสริมศักยภาพในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่, ธนาคารกรุงไทย สถาบันการเงินชั้นนำที่ให้การสนับสนุนด้านเงินทุนและบริการทางการเงิน, บริษัท CloudNurse.Co ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม telehealth ที่ช่วยให้ผู้สูงอายุเข้าถึงบริการสุขภาพได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น, รวมถึงบริษัท Insurverse Insurance และ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัทประกันภัยที่เล็งเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุและร่วมสนับสนุนโครงการ
ก่อนการแข่งขัน Hackathon โครงการ Siriraj x MIT Hacking Medicine ได้จัดงานสัมมนาเชิงวิชาการ ในวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ณ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อปูพื้นฐานความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจ โดยเปรียบเสมือน "การเตรียมความพร้อม ก่อนออกเดินทางไกล" โดยมีผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และผู้บริหารระดับสูง มาร่วมแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจ ดังนี้
ศาสตราจารย์ Deborah J. Lucas และ ดร. วรวรรณ ชาญด้วยวิทย์ กำลังประชุมในหัวข้อ Sustainable Pension Scheme for Developing Countries
หัวข้อนี้ได้นำเสนอ แนวทางการนำ AI มาใช้ในการจัดการข้อมูลทางการแพทย์ ตั้งแต่การรวบรวม การวิเคราะห์ การประมวลผล ไปจนถึงการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ เช่น การวินิจฉัยโรค การพัฒนาเภสัชภัณฑ์ และการดูแลสุขภาพส่วนบุคคล ตัวอย่างเช่น การใช้ AI ในการวิเคราะห์ภาพถ่ายทางการแพทย์ เพื่อตรวจหาความผิดปกติ หรือการใช้ AI ในการพัฒนา chatbot เพื่อให้คำปรึกษาทางการแพทย์
โดยมี คุณ Dorothea Koh (ซีอีโอและ Co-founder ของบริษัท Bot MD): ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และ Healthcare, คุณกมลวัทน์ สุขสุเมฆ (ซีอีโอ ของบริษัท H Lab): ผู้นำด้าน HealthTech ในประเทศไทย และ ผศ. ดร. ประพัฒน์ สุริยผล (รองคณบดีฝ่ายสารสนเทศ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล) ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสารสนเทศทางการแพทย์เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย
นอกจากเรื่องของการจัดการข้อมูลแล้ว ยังมีการถกเถียงเกี่ยวกับนโยบายด้านการดูแลสุขภาพ สำหรับประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเตรียมความพร้อมรับมือกับสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นความท้าทายระดับโลก มีการอภิปรายครอบคลุม ประเด็นสำคัญต่างๆ เช่นระบบประกันสุขภาพ การพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ การส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพ และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ
โดยมี Dr. Cheong Wei Yang (รองอธิการบดี Singapore Management University): ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายสาธารณสุข และ ผศ.นพ. สนั่น วสันต์ศักดิ์ชัย (รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช): ผู้บริหารโรงพยาบาล และ นพ. พณะ จันทรกมล (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลในเครือบางปะกอก): ผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนเป็นผู้ดำเนินการอภิปราย
หัวข้อนี้เป็นการบรรยายโดย โดย ศ. นพ. ประเสริฐ อัสสันตชัย (ผู้เชี่ยวเชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุและนายกสมาคมพฤฒาวิทยาและเวชศาสตร์ผู้สูงอายุไทย) นับเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ได้มาให้ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงอายุ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ปลอดภัย และสะดวกสบายได้
นอกจากหัวข้อเหล่านี้แล้ว ภายในงานยังมีสัมมนาในประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจ อีกมากมาย ซึ่งจัดขึ้นก่อนเริ่มกิจกรรม Hackathon ในวันถัดไป
ดร. สุธี โมกขะเวส ดร. อุกฤษ อังควินิจวงศ์ รศ.นพ. ตรงธรรม ทองดี และ ดร. ธนเดช ช่วงสุวนิช กำลังประชุมในหัวข้อ Scaling Aged Care using AI
หลังจากเสร็จสิ้นการเตรียมความพร้อม ก็ถึงเวลา Hackathon ซึ่งจัดภายใต้ความร่วมมือของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายน โดยการแข่งขันครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่ หลากหลายสาขา ตั้งแต่นักศึกษาแพทย์ วิศวกร นักออกแบบ ไปจนถึงนักธุรกิจ โดยมีผู้สมัครเข้าร่วมกว่า 963 คน และผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้น จนเหลือเพียง 149 คน ที่เปี่ยมไปด้วย ความสามารถ และไอเดียที่สร้างสรรค์ สามารถต่อยอดนวัตกรรมเพื่อยกระดับการดูแลผู้สูงอายุในประเทศกำลังพัฒนาได้
งาน Hackathon เริ่มต้นด้วยคำกล่าวเปิดงานจาก ศ. นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ที่กล่าวถึงความพิเศษของ Hackathon ครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่โรงพยาบาลศิริราชได้จัดกิจกรรม Hackathon ร่วมกับ MIT ด้านคุณ Zen Chu ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการของ MIT Hacking Medicine Initiative ก็ได้กล่าวแสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้เข้าร่วมทุกคน พร้อมตั้งความหวังว่า Siriraj X MIT Hackathon จะเป็นจุดเริ่มต้นของโซลูชั่นที่จับต้องได้ และสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุได้อย่างแท้จริง
โจทย์การแข่งขัน แบ่งออกเป็น 2 หัวข้อหลัก คือ
รางวัลสำหรับทีมที่ชนะเลิศ:
นอกจากรางวัลข้างต้น ยังมีรางวัลพิเศษ "Social Enterprise Prize" มูลค่า 20,000 บาท มอบให้กับทีมที่นำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและอุทิศตนเพื่อการเปลี่ยนแปลงการดูแลผู้สูงอายุในประเทศกำลังพัฒนา
ผลการแข่งขัน
การแข่งขัน Hackathon ในครั้งนี้ ถือเป็น "เวทีประชันไอเดีย" ที่เข้มข้น และ น่าตื่นเต้น โดยแต่ละทีม ได้โชว์ศักยภาพกันอย่างเต็มที่ โดยมีผลการแข่งขันดังนี้
ทีมที่ชนะเลิศ – Track 1 – Aging in Place :
ทีมที่ชนะเลิศ – Track 2 – Geriatric Care :
นอกจากนี้ ยังมีรางวัลพิเศษ "Social Enterprise Prize" มูลค่า 20,000 บาท มอบให้กับทีมที่นำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและอุทิศตนเพื่อการเปลี่ยนแปลงการดูแลผู้สูงอายุในประเทศกำลังพัฒนา โดยมีทีมผู้ได้รับรางวัลดังกล่าวไปถึงสองทีม ดังนี้
ช่วงท้ายของงาน มีการมอบรางวัล “Golden Ticket” ให้กับ 3 ผู้เข้าร่วมที่โดดเด่น ได้แก่
โดยรางวัลนี้ประกอบด้วย ตั๋วเครื่องบินและที่พักสำหรับเข้าร่วมงาน MIT Hacking Medicine Grand Hack ณ เมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 14-16 มีนาคม 2568 พร้อมบัตรเข้างาน Techsauce Global Summit 2025 มอบโดย บริษัท Techsauce
โดยในช่วงสุดท้าย อดีตนายกรัฐมนตรี คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังได้มอบรางวัล Social Enterprise Award และได้กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีปิดของงาน ชื่นชมความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นของเยาวชน ที่ร่วมกันคิดค้นโซลูชั่นเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญของผู้สูงอายุ โดยคุณอภิสิทธิ์เชื่อมั่นว่า โครงการนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในประเทศไทยได้อย่างแท้จริง
Siriraj x MIT Hackathon เป็นเวทีสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิดนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของประชากรสูงอายุในประเทศกำลังพัฒนา โดยนอกจากจะได้โซลูชั่นล้ำสมัยแล้ว ยังเป็นการสร้างเครือข่ายนักนวัตกรรมที่มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัย ความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลศิริราชและ MIT ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงพลังของการผสานความเชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการดูแลสุขภาพ ที่สามารถสร้างประโยชน์ได้จริงในระดับสากล
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์: www.SirirajxMITHackingMedicine.com หรือติดต่อ [email protected]
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด