จากเหตุการณ์กราดยิงในพื้นที่จ. นครราชสีมา (โคราช) ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. จนล่าสุดผู้ก่อเหตุถูกวิสามัญฆาตกรรมไปแล้วนั้น อีกหนึ่ง hashtag บนเทรนด์ Twitter นอกจาก #กราดยิงโคราช ก็มีการวิพากวิจารณ์การทำงานของสื่อมวลชน ที่มองว่าไม่เหมาะสม เกิดเป็น hashtag #แบนช่องone โดยมีผู้ Tweet ถึงกว่าหลักแสน รวมทั้งบน Facebook ก็มีการวิจารณ์ไปในทิศทางเดียวกัน

ด้วยเทคนโนโลยีปัจจุบันที่ทำให้สื่อต่างๆสามารถรายงานข่าวได้อย่างรวดเร็ว หลายรูปแบบ ทำให้เหตุการณ์กราดยิงโคราชที่เกิดขึ้น บางสื่อได้มีการส่งผู้สื่อข่าวลงไปในพื้นที่ และ live สดสัมภาษณ์ผู้คนในเหตุการณ์ พร้อมทั้งยังมีการรายงานความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลาบนสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Twitter หรือ Facebook ทำให้มีการวิจารณ์ว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่เหมาะสม

ความคิดเห็นส่วนใหญ่บน Twitter และ Facebook เป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า สื่อดังกล่าวกระหายข่าว และเพิ่มความยุ่งยากให้กับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งยังเปิดเผยการทำงาน และที่อยู่ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งผู้ก่อเหตุสามารถทราบได้ เป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์

ทั้งนี้ ขณะที่เกิด hashtag นี้ Facebook ของสถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังได้โพสต์ว่า  “ฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ขอความร่วมมือสื่อมวลชน ในการให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ในปฏิบัติการจับคนร้าย ที่จ.นครราชสีมา จะได้ลุล่วง ด้วยการไม่เผยแพร่แผนปฏิบัติการ ไม่ถ่ายทอดสดการปฏิบัติ ระมัดระวังการสัมภาษณ์ผู้ติดในห้างเทอมินัล21 ซึ่งอาจจะยังตกอยู่ในอันตรายและมีความเสี่ยง #เสรีภาพบนความรับผิดชอบ”

ในขณะที่ @tpagon หรือ ทีปกร วุฒิพิทยามงคล ผู้ก่อตั้ง The MATTER ได้ออกความเห็นว่า “ดีใจมากที่มีแฮชแท็กอย่าง #แบนช่องone และ #แบนช่องไทยรัฐ (รวมไปถึงแบนสื่ออื่นๆ ที่ทำข่าวแบบไร้จรรยาบรรณด้วย) น่าจะทำให้ผู้บริหาร / เจ้าของสื่อพวกนั้นหันมาทบทวนการทำงานของตัวเอง มีบทลงโทษกับการตัดสินใจที่ผิดพลาด และปรับปรุงในอนาคต คิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรปล่อยให้เงียบแม้ผ่านไปแล้ว”

นอกจากนี้ยังมี hashtag ที่วิจารณ์การทำงานทำของสื่อตามมาได้แก่ #แบนAmarinTV #สื่อไร้จรรยาบรรณ 

โดยแม้ว่าจะมีวิจารณ์สื่อ แต่ก็มีการชื่นชมการทำงานของสื่อ ได้แก่ Mthai ThaiPBS และช่อง 7 ที่รายงานข่าวยังตรงไปตรงมาและไม่รบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่