SpaceX ปล่อย Starship ทดสอบเที่ยวบินครั้งที่ 9 ขึ้นจากฐานปล่อยในรัฐเท็กซัสเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยจรวดสามารถแยกตัวจาก Super Heavy Booster และเข้าสู่วงโคจรได้สำเร็จ นับเป็นก้าวสำคัญในโครงการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศของ SpaceX เพื่อรองรับการเดินทางระยะไกลในอนาคต
แม้จะเป็นเที่ยวบินที่ประสบความสำเร็จที่สุดของปีนี้ แต่หลังจากบินไปได้ไม่นาน ยาน Starship เกิดปัญหาสูญเสียการควบคุมทิศทาง และหมุนจนไม่สามารถเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกได้อย่างปลอดภัย ก่อนจะตกลงใน มหาสมุทรอินเดีย ตามที่บริษัทเคลียร์น่านฟ้าไว้ล่วงหน้า

Super Heavy Booster ที่ใช้ในภารกิจนี้เป็นรุ่น “flight-proven” หรือเคยผ่านการใช้งานจริงมาแล้วจากการทดสอบก่อนหน้า โดยสามารถแยกตัวและทำงานได้ตามแผน แต่ภารกิจยังคงประสบปัญหาในส่วนของ การเปิดช่องปล่อยดาวเทียมจำลอง ที่ไม่สามารถทำได้สำเร็จตามแผนทดสอบ
ภารกิจนี้มีความสำคัญ เนื่องจากเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจาก FAA อนุมัติให้ SpaceX กลับมาทดสอบ Starship อีกครั้ง หลังเกิดเหตุระเบิดในเที่ยวบินก่อนหน้า ซึ่งนำไปสู่การปรับปรุงระบบฮาร์ดแวร์และเพิ่มความปลอดภัยของการบิน
ตลอดปีที่ผ่านมา SpaceX พยายามพัฒนาและทดสอบ Starship อย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมกราคม จรวด Booster เคยถูกจับกลับมาได้อย่างแม่นยำ และ Starship สามารถเข้าสู่อวกาศได้ แม้จะเกิดความผิดปกติและสูญเสียการควบคุมในภายหลัง ส่วนในเดือนมีนาคม การทดสอบครั้งต่อมาประสบปัญหาเครื่องยนต์ Raptor หยุดทำงานระหว่างการบิน จนทำให้ยานหมุนและไม่สามารถกลับลงมาอย่างปลอดภัย
จากเหตุการณ์เหล่านี้ FAA ได้ปรับปรุงขอบเขตพื้นที่อันตรายทางอากาศ ทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และ SpaceX ได้ส่งรายงานวิเคราะห์ความเสี่ยงใหม่ พร้อมทำการเปลี่ยนแปลงเชิงวิศวกรรมที่สำคัญเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของระบบ
Starship เป็นจรวดรุ่นใหม่ที่ SpaceX พัฒนาเพื่อใช้ในการขนส่งอวกาศระยะไกล ทั้งการเดินทางไปดวงจันทร์ ดาวอังคาร และแม้แต่การเดินทางระหว่างทวีปบนโลก ปัจจุบันยังอยู่ในช่วงพัฒนาและทดสอบอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายให้พร้อมใช้งานเชิงพาณิชย์ในอนาคตอันใกล้
อ้างอิง: techcrunch, spacex
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด