NIA หรือ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์มหาชน) หรือ สนช. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับ AGW Group ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนจากประเทศอิสราเอล เปิดตัวโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพ “Global Accelerator Program” ขึ้น ภายใต้ชื่อ “สปาร์ค (SPARK)” เปิดตัวครั้งแรกวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2017 และเปิดรับสมัครสตาร์ทอัพไปจนถึงวันที่ 15 มีนาคม 2017
เรียงจากซ้ายไปขวา: นายวิเชียร สุขสร้อย ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส สนช. และหัวหน้าโครงการ SPARK, ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สนช., นางสาวอีเดน โพซิน ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและการค้า สถานเอกอัครราชฑูตอิสราเอลประจำประเทศไทย และ นายอีธาน เลวี ประธานบริษัท AGW Group
SPARK Global Accelerator Program จะรวบรวมผู้เชี่ยวชาญต่างชาติในหลายสาขา มาร่วมเป็นวิทยากรและเป็นที่ปรึกษาแบบตัวต่อตัวให้แก่สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมการฝึกอบรม 8 สัปดาห์ ที่จะจัดขึ้น ณ อาคารอุทยานนวัตกรรม สนช.
ทุกๆ บริษัทที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน 12 ทีม จะได้เข้าร่วมการบ่มเพาะโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และได้แนะนำธุรกิจของบริษัทในงาน Startup Thailand 2017 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 6 – 9 กรกฎาคม 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยในวันงานจะเป็นวัน Demo Day ที่ทุกทีมจะได้นำเสนอต่อหน้าคณะกรรมการและนักลงทุน และมีการตัดสินคัดเลือกผู้ชนะ และหลังจบโครงการจะมีบริการให้คำปรึกษาแก่สตาร์ทอัพที่ร่วมโครงการต่อเป็นเวลา 24 เดือน
บริษัทที่ชนะการประกวดแผนธุรกิจในรอบสุดท้าย จะมีโอกาสได้เดินทางไปพบกับนักลงทุนหรือบริษัทกองทุนร่วมทุน และศึกษาดูงานในศูนย์บ่มเพาะชั้นนำของโลก เช่น Google, Barclays ในประเทศอิสราเอล รวมถึงช่วงแนะนำธุรกิจของบริษัทในงาน Startup Thailand 2017 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 6 – 9 กรกฎาคม 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
"เกณฑ์การคัดเลือกคือ เน้นสตาร์ทอัพที่มีโปรดักส์เรียบร้อย และทำเป็นธุรกิจจริงแล้ว มีรายได้ต่อปีแล้วตั้งแต่หนึ่งแสนบาท ไปจนถึงไม่เกินยี่สิบล้านบาท หรือสตาร์ทอัพที่อยู่ในช่วง Seed ไปจนถึง Pre-Series A" นายวิเชียร สุขสร้อย ได้ให้สัมภาษณ์รายละเอียดกับทีมเทคซอสเพิ่มเติม และเน้นย้ำว่า
การจัดทำ Accelerator ของสนช. ในครั้งนี้ มิใช่ทำเพื่อต้องการแข่งขันกันกับ Corporate Accelerators ต่างๆ แต่เป็นโครงการที่ทำเพื่อช่วยต่อยอดเพิ่มเติม โดยเราตั้งเป้าหมายไว้ว่าหลังจบโครงการ ทั้งหมด 12 ทีมนี้จะมีการเติบโตของธุรกิจมากขึ้น และมีอย่างน้อย 1 ทีม ที่จะได้รับเงินลงทุน ระดับ Series A
สำหรับ Sectors ที่ทางโครงการโฟกัส ประกอบไปด้วย 6 Sectors ได้แก่ FinTech, Cyber Security, E-commerce, IoTs, Big Data & Analytics และ Healthcare โดยเป็น Sectors ที่โครงการมีเครือข่ายวิทยากรที่เชี่ยวชาญ
ผู้สนใจสามารถศึกษาเงื่อนไขเพิ่มเติมและสมัครได้ที่ spark.nia.or.th ตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 มีนาคม โดยจะประกาศผลการคัดเลือกในวันที่ 21 มีนาคม และเริ่มการฝึกอบรมในวันที่ 27 มีนาคมนี้
รายชื่อเมนทอร์ และรายละเอียดโครงการในแต่ละสัปดาห์ จะทยอยทำการอัปเดตบนเว็บไซต์ spark.nia.or.th เช่นกัน
วิเคราะห์ 5 เหตุผลสู่เบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจ startup ในอิสราเอล
ประเทศไทย กับบทเรียนจากประเทศที่มีสตาร์ทอัปหนาแน่นที่สุดในโลก อย่างอิสราเอล
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด