CEO Spotify มองพัฒนาการของ AI มีข้อดี แต่ก็มีความเสี่ยงสำหรับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์เช่นเดียวกัน
ในการเผยผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2023 ของ Spotify ได้มีการกล่าวถึงการพัฒนาของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และผลกระทบต่อธุรกิจสตรีมมิ่งเพลง โดยในด้านบวก บริษัทได้ใช้ AI พัฒนาผลิตภัณฑ์บริการใหม่ เช่น ฟีเจอร์ AI DJ แต่ก็มองถึงผลกระทบด้านลบต่ออุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในระยะยาว เช่น การละเมิดลิขสิทธิ์ โดยการใช้ AI ลอกเลียนเสียงศิลปินไปทำเพลงใหม่โดยไม่ได้รับความยินยอม
บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2023 โดยรายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 14%เมื่อเทียบกับ ปีที่แล้ว และมียอดจากโฆษณาเพิ่มขึ้น 17% โดยมูลค่ารายได้โดยรวมของ Spotify ในไตรมาสแรกปี 2023 คือ 3.04 พันล้านยูโร และมูลค่ารายได้จากโฆษณาคือ 329 ล้านยูโร
Spotify ได้รายงานว่าการเติบโตนั้นมาจากการผู้ใช้งานที่มากถึง 500 ล้านคน ในส่วนผู้ใช้งานที่เป็นสมาชิกแบบพรีเมียมลดลงเป็นอัตราส่วนของ 40% ของสมาชิกทั้งหมด โดยมีสามชิกแบบพรีเมียม 210 ล้านคน และสามชิกแบบฟรีที่มีโฆษณา 317 ล้านคน
รายได้ที่เพิ่มขึ้นก็มาจากฟีเจอร์ใหม่อย่าง AI DJ ที่กำลังได้รับความนิยม เพราะเพิ่มประสิทธิภาพและ อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน โดยเฉพาะในแถบอเมริกาเหนือ แม้ว่าจะอยู่ในเวอร์ชั่นทดสอบก็ตาม
ซึ่งมีผู้ใช้กว่าหลายล้านคน ใช้งานตัวฟีเจอร์อย่างสม่ำเสมอในทุกสัปดาห์นี่เป็นเครื่องบ่งชี้ที่ดีต่อ การลงทุนของ Spotify ในเทคโนโลยี AI
ฟีเจอร์ AI DJ ของ Spotify ใช้ Generative AI ของ OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT โดยผู้ใช้สามารถมีดีเจส่วนตัว ที่เลือกและเล่นเพลงที่คัดสรรมาเฉพาะบุคคล ผสานกับเสียงพูดบรรยายด้วยเสียงที่ AI สร้างขึ้น เหมือนเรามีดีเจเปิดเพลงให้ฟังอยู่จริงๆ โดย Spotify กล่าวว่าตัวโมเดลเรียนรู้เรื่องพวกนี้จากฐานความรู้และข้อมูลเชิงลึกของผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีภายในบริษัท
สำหรับฟีเจอร์ DJ นี้ยังคงเปิดให้ทดลองใช้ในอเมริกาและแคนาดาแบบสมาชิกพรีเมี่ยมอยู่ และจะขยายตลาดออกไปในอนาคต
กรณีศึกษาปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์จาก AI เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้เอง โดยศิลปินชื่อ Ghostwriter ใช้เสียงของ Drake และ The Weekend ทำเพลงชื่อว่า Heart On My Sleeve และปล่อยไปใน Apple Music, Tidal และ Spotify มันกลายเป็นไวรัลบน TikTok และมียอดวิวในยูทูปสูงถึง 230,000 ครั้ง และมีคนฟัง 625,000 ครั้งบน Spotify ซึ่งตอนนี้มันถูกลบออกไปหมดแล้ว
ในมุมมองของผู้ใช้งานบางกลุ่มรู้สึกทึ่งและประทับใจกับความสามารถของ AI ในการเลียนเสียงได้แนบเนียน แยกไม่ออกว่าอันไหนเป็นเสียงของตัวจริงหรือปลอม แต่แน่นอนในฝั่งของตัวศิลปินและค่ายเพลงย่อมไม่พอใจ เพราะนอกจากจะปลอมแปลงเสียงของพวกเขาแล้ว เพลงดังกล่าวยังมีเนื้อหาโจมตีบุคคลที่ 3 มากมาย ซึ่งรวมถึง Selena Gomez ที่เคยคบหากับ The Weeknd
ก่อนอื่นพวกเราต้องยอมรับกันก่อนว่านี่เป็นพื้นที่ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วพร้อมกับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดผมไม่เคยเห็นอะไรที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วเหมือนการพัฒนา AI ในปัจจุบัน
Daniel EK CEO ของ Spotify กล่าวระหว่างประชุมหาแนวทางการแก้ปัญหาเรื่อง AI
Daniel EK มองว่า Spotify ควรที่จะดูแลความสมดุลระหว่างการนำนวัตกรรมมาใช้ในเรื่อง ความคิดสร้างสรรค์และการปกป้องผู้สร้างผลงานและศิลปินที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน นี่คือภารกิจที่สำคัญของ Spotify อย่างยิ่ง จึงต้องมีการคุยกับพาร์ทเนอร์ ศิลปิน และ ผู้สร้างสรรค์ผลงานอย่างละเอียด
แม้ว่า Daniel EK จะมองว่า AI อาจส่งผลกระทบที่มาพร้อมความเสี่ยงในอุตสาหกรรมมากแค่ไหน แต่ Spotify ก็ได้ประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยี AI เช่นกัน
ที่มา : TechCrunch
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด