TADA บริการเรียกรถเจ้าใหม่บุกไทย ตีตลาดด้วยการไม่คิดค่า ‘คอมมิชชั่น’ | Techsauce

TADA บริการเรียกรถเจ้าใหม่บุกไทย ตีตลาดด้วยการไม่คิดค่า ‘คอมมิชชั่น’

ศึกแอปเรียกรถในไทยยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด TADA (ทาดา) บริการเรียกรถสาธารณะที่ครองตลาดสิงคโปร์เป็นอันดับสองได้เปิดให้บริการในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว โดยช่วงแรกจะเน้นการให้บริการในกรุงเทพ พร้อมชูจุดเด่น ‘0% Commission’

TADA ประกาศตัวเป็นเจ้าแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่คิด ‘ค่าคอมมิชชั่น’ จากคนขับ เพื่อส่งเสริมการให้บริการอย่างเท่าเทียมในราคาเป็นธรรม ทั้งฝั่งผู้ขับ และผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังจับมือกับบริษัท Howa International ผู้ให้บริการรถแท็กซี่แบบครบวงจรรายใหญ่ของไทย ทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้ประกอบการแท็กซี่ในไทย ซึ่งต้องการยกระดับมาตรฐานของบริการสู่ระดับสากล

เปิดศึกบริการเรียกรถที่ไม่คิด ‘ค่าคอมมิชชั่น’

ไทยถือเป็นสมรภูมิ Ride-Hailing อันดุเดือดและเต็มไปด้วยผู้เล่นที่อยู่มานาน จึงไม่แปลกหาก TADA จะถูกมองว่า TADA ขยับตัว ‘ช้า’ แต่ TADA ชี้ว่าโมเดลธุรกิจของตนนั้นแตกต่างตรงที่ ‘ไม่คิดค่าคอมมิชชั่น’ จากผู้ขับเลย โดยคิดค่าธรรมเนียมการเรียกรถราคาเดียว 20 บาท ตามกฎของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งนับว่าเป็นกลยุทธ์ที่จูงใจคนขับ และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ที่สำคัญยังได้รับใบอนุญาตให้บริการจากกรมขนส่งทางบกอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่ผ่านมา

ฌอน คิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ TADA มองว่าแม้จะเข้ามาตีตลาดในไทยช้ากว่ารายอื่นๆ แต่ก็เชื่อมั่นในโมเดลธุรกิจที่มุ่งส่งมอบคุณค่าและประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้บริการ และอุตสาหกรรมนี้ในไทย ขณะที่คนขับก็จะได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม และลดแรงกดดันจากการทำงาน

บวกกับประสบการณ์การทำธุรกิจในสิงคโปร์เป็นเวลา 5 ปีจนทำกำไรได้และก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์สองของตลาดในประเทศ ทำให้บริษัทสเกลอย่างรวดเร็วและไม่รีรอที่จะรุกตลาดอาเซียนด้วยกลยุทธ์เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม กัมพูชา หรือไทยซึ่งถือเป็นตลาดที่ 4 ของ TADA

ทั้งนี้ TADA คาดว่าจะทำกำไรในไทยได้ภายใน 3-4 ปี แม้จะไม่คิดค่าคอมมิชชั่น และเก็บเพียงค่าธรรมเนียมการเดินทางก็ตาม เมื่อถามว่าจะกำไรได้อย่างไร บริษัทให้ข้อมูลว่าราคาค่าโดยสารที่ให้บริการในปัจจุบันนั้นถูกกว่าราคาแพงสุดของคู่แข่งในตลาด ราว 30%

หลังจากได้ทดลองเปิดให้บริการ BETA ในปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีผู้ขับที่ลงทะเบียนในระบบมากถึง 15,000 คน ภายใต้ความร่วมมือกับ Howa International

“เราประสบความสำเร็จในตลาดสิงคโปร์มาแล้ว และเชื่อมั่นว่าจะขยายโมเดลธุรกิจนี้พร้อมกับสร้างคุณค่าในระยะยาวด้วย เช่น ราคายุติธรรมแก่คนขับ และการให้บริการที่ดี”

นอกจากนี้ TADA ยังอยู่ภายใต้เครือ MVLLABS Group บริษัทแห่งการขับเคลื่อนที่ใช้บล็อกเชน ก่อตั้งโดย เค วู ซึ่งได้พัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ONiON ที่ประสบความสำเร็จในโครงการนำร่องร่วมกับเครือซีพีกรุ๊ปของประเทศไทยอีกด้วย พร้อมแย้มว่าในอนาคตอาจเจาะกลุ่ม E-Bike แต่ในตอนนี้จะโฟกัสกับกลุ่มรถยนต์ และอาจขยายไปกลุ่มมอเตอร์ไซค์ภายในปีนี้

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สยาม เอไอฯ ได้รับ NVIDIA DGX Blackwell B200 รายแรกในอาเซียน

NVIDIA DGX Blackwell B200 เป็นหน่วยประมวลผลประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ของ Siam.AI Cloud ทำให้สามารถรองรับการประมว...

Responsive image

Infineon เสริมแกร่งและกระจายฐานการผลิต ตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์แห่งใหม่ในประเทศไทย

Infineon Technologies AG ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ (Backend Production) แห่งใหม่ในจังหวัดสมุทรปราการ การลงทุนในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเพื่อเพิ่มประ...

Responsive image

Techsauce จับมือ KUMPUL เสริมแกร่งสตาร์ทอัพไทย-อินโดฯ สู่เวทีโลก

Techsauce และ KUMPUL ได้ร่วมลงนาม MOU อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2025 ที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านสตาร์ทอัพข้ามพรมแดนและนวัตกรรมระดับโลก ผนึกกำลังสร้างระบบนิเวศท...