เทคโนโลยีได้ถูกสร้างโดยมนุษย์ ด้วยจุดประสงค์เพื่อการแก้ไขปัญหาหรือการพัฒนาด้านการใช้ชีวิต โดยในช่วงปี 2020 ที่ชีวิตของเราได้พบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้วิถีชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง การทำงานจากบ้าน หรือการเว้นระยะห่างทางสังคม อาจจะยังคงเป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน แต่การพัฒนาเทคโนโลยีจะมาช่วยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ในบทความนี้ Techsauce จะพาคุณมารู้จักห้าเทรนด์เทคโนโลยี ที่จะเป็นแกนหลักในชีวิตของพวกเราในปี 2021 ต่อไป
1. Artificial Intelligence (AI)
หนึ่งในเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปี 2021 คงหนีไม่พ้น AI ซึ่งเทคโนโลยีชิ้นนี้ ได้ช่วยเหลือเราในหลาย ๆ ด้าน อาทิเช่น การจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล การคำนวนข้อมูลซับซ้อน นอกจากนี้ AI ยังสามารถถูกนำไปปรับใช้ในด้านอื่นๆ ด้วยความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเอง หรือ Machine Learning ซึ่งทำให้ระบบ AI มีความสามารถมากขึ้นอีก
2. การใช้หุ่นยนต์, โดรน, และยานยนต์ไร้คนขับ
ในช่วงปีที่ผ่านมา การพัฒนาหุ่นยนต์ได้เข้ามาเติมเต็มความต้องการในอุตสาหกรรมการแพทย์ โดยเฉพาะการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ ซึ่งต้องอาศัยความละเอียดอ่อนเป็นพิเศษ การใช้หุ่นยนต์ นอกจากจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรมนุษย์แล้ว มันยังสามารถเฝ้าดูแลผู้ป่วยได้ตลอดเวลา การใช้โดรนในการขนส่งเวชภัชณ์จะช่วยให้การขนส่งสามารถทำได้รวดเร็วมากขึ้น เข้าถึงพื้นที่ได้ไกลขึ้น และยังประหยัดค่าใช้จ่ายได้
ความต้องการในการคมนาคมยังเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อย ๆ การใช้ยานยนต์ไร้คนขับจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการให้บริการระบบคมนาคม ลดค่าใช้จ่าย ลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ และยังทดแทนการใช้แรงงานมนุษย์อีกด้วย
3. การทดแทนสินค้าด้วยบริการ (As-A-Service)
บริษัทมากมายที่ได้เปลี่ยนการให้บริการของพวกเขา จากเดิมที่อาจจะเคยเป็นผลิตภัณฑ์ สู่การให้บริการผ่านระบบคลาวด์ (Cloud Services) โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้การปรับตัวในการเรียนและการทำงานเป็นไปอย่างยากลำบาก ซอฟต์แวร์สื่อสารออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะกับ Zoom ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากกับการเรียน เพื่อตอบรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลนี้ ทางบริษัทได้เพิ่มเซิฟเวอร์ให้บริการ เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึงบริการของพวกเขาได้ง่ายกว่าเดิม
4. 5G และระบบสื่อสาร
อินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้การพัฒนาเทคโนโลยีสามารถทำได้มากขึ้น ตั้งแต่การเกิดของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตโทรศัพท์ 3G สู่การไลฟ์สตรีมคอนเท้นต์ผ่าน 4G จนถึงปัจจุบันกับ 5G ที่ช่วยให้การสื่อสารสองทางสามารถทำได้หลากหลายกว่าเดิม
การเชื่อมต่อ 5G ไม่ได้เพียงแค่มีความเร็วสูงขึ้นเท่านั้น แต่ช่วยให้การให้บริการคลาวด์หลาย ๆ รูปแบบ สามารถเป็นไปได้ อาทิเช่น การให้บริการเกมผ่านระบบคลาวด์ (Cloud-based gaming platforms) หรือการสร้างระบบควบคุมข้อมูลเรียลไทม์ ที่จะช่วยให้การสั่งการหรือการโยกย้ายข้อมูลจำนวนมหาศาลสามารถทำได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
5. Extended Reality (XR) – Virtual Reality และ Augmented Reality (VR/AR)
ก่อนอื่น เราควรจะทำความเข้าใจถึงความแตกต่างของ Virtual Reality และ Augmented Reality เสียก่อน โดย AR คือการนำภาพที่ถูกสร้างโดยคอมพิวเตอร์มาอยู่ในพื้นผิวจริง ยกตัวอย่างเช่น การใช้ฟิลเตอร์ในแอพพลิเคชั่น Instagram ส่วน VR คือการนำผู้ใช้งานเข้าไปอยู่ในโลกจำลองของคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถพบเห็นได้จากการใช้งานแว่นจำลอง Virtual Reality Headset
AR และ VR สามารถนำไปดัดแปลงได้อย่างหลากหลาย เพื่อให้เข้ากับความต้องการในการใช้งาน โดยในโรงเรียน อาจจะมีการสร้างสื่อการสอนที่มีการตอบสนองได้ หรือการซื้อของออนไลน์ ก็อาจจะมีการสร้างภาพ AR เพื่อเปรียบเทียบสินค้ากับความต้องการของผู้บริโภคได้ดีขึ้น อีกหนึ่งอุตสาหกรรมซึ่งจะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจากเทคโนโลยีดังกล่าว ได้แก่ อุตสาหกรรมการแพทย์ โดยการใช้ VR จะช่วยให้แพทย์สามารถทำการศัลยกรรมทางไกล หรือวินิจฉัยอาการของผู้ป่วย โดยหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่เสี่ยงได้
อ้างอิงจาก Forbes
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด