Techsauce และ KUMPUL ได้ร่วมลงนาม MOU อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2025 ที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านสตาร์ทอัพข้ามพรมแดนและนวัตกรรมระดับโลก ผนึกกำลังสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผ่านการเชื่อมโยงเครือข่าย การเปิดโอกาสทางธุรกิจ และการจัดกิจกรรมต่างๆ

การร่วมลงนาม ระหว่าง Techsauce และ KUMPUL มีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนสตาร์ทอัพระหว่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายตระหนักดีว่าการทำงานร่วมกันจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากร ตลาด และความรู้ที่หลากหลาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยความร่วมมือนี้จะครอบคลุมในหลายด้าน ได้แก่:

• สร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือ: ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันประชาสัมพันธ์ความร่วมมือผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง นอกจากนี้ยังมีการโปรโมทโครงการต่าง ๆ ของแต่ละฝ่าย เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลและโอกาสได้ง่ายยิ่งขึ้น
• เชื่อมโยงเครือข่ายและความร่วมมือข้ามสายงาน: Techsauce และ KUMPUL จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงสตาร์ทอัพกับผู้เชี่ยวชาญจากภาคอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษา และหน่วยงานวิจัยต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมถึงตลาดใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ
• สร้างโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา: ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การจัดสัมมนา เวิร์กช็อป การจับคู่ทางธุรกิจ การแลกเปลี่ยนบุคลากร และหลักสูตรระยะสั้น เพื่อช่วยเสริมสร้างทักษะและศักยภาพของสตาร์ทอัพ
• ส่งเสริมการลงทุนและการขยายธุรกิจ: Techsauce และ KUMPUL จะร่วมกันให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมการลงทุนและโอกาสทางธุรกิจในแต่ละประเทศ พร้อมให้คำปรึกษาแก่สตาร์ทอัพที่สนใจขยายธุรกิจไปยังประเทศไทยและอินโดนีเซีย ซึ่งจะช่วยลดอุปสรรคและเพิ่มโอกาสในการเติบโต
• การทำงานร่วมกันในระดับภูมิภาค: ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันสนับสนุนการจัดงาน Techsauce Global Summit ทั้งในประเทศไทยและอินโดนีเซีย โดยจะเชิญผู้แทนจากภาครัฐและผู้เชี่ยวชาญมาร่วมงาน เพื่อสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งและส่งเสริมความร่วมมือในระดับภูมิภาค
• การสร้างโครงการและโอกาสใหม่ๆ: Techsauce และ KUMPUL จะร่วมกันทำโครงการต่าง ๆ และแนะนำลูกค้าให้กัน เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและผลประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว

การจับมือกันระหว่าง Techsauce และ KUMPUL ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือด้านสตาร์ทอัพระหว่างประเทศไทยและอินโดนีเซีย และคาดว่าจะนำไปสู่การสร้างระบบนิเวศสตาร์ทอัพที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ซึ่งจะช่วยให้สตาร์ทอัพในทั้งสองประเทศมีโอกาสในการเติบโตและประสบความสำเร็จ