จากกรณีที่น่าจับตาของการควบรวม Dtac - True ในระหว่างรอมติจาก กสทช. แถลงผลการพิจารณา ทาง Telenor จึงได้ใช้โอกาสในงานแถลงการครบรอบ 25 ปีการดำเนินงานในเอเชีย ณ ดีแทคเฮาส์ จามจุรีสแควร์ ประกาศพันธกิจ Growth 2.0 พร้อมตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็นการควบรวมและธรรมาภิบาล

ซิคเว่ เบรคเก้ (Sigve Brekke), President and Chief Executive Officer (CEO) เทเลนอร์ กรุ๊ป กล่าวว่า “เมื่อ Telenor เข้าสู่ตลาดไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว Telenor เป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ เป็นรายแรก ทั้ง การคิดค่าบริการตามจริงเป็นวินาที ทุกวันนี้ การเข้าถึงโทรศัพท์มือถือของไทยอยู่ที่ 86% และมีการเชื่อมต่อมือถือ 98.5 ล้านอุปกรณ์ นี่คือสิ่งที่เรียกว่า Growth 1.0 พร้อมมองอนาคตไปที่ Growth 2.0 คือการผนวกรวมของ 5G + AI + Data เพื่อเตรียมพร้อมรับ Perfect storm การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโทรคมนาคม เพื่อสร้างประโยชน์ต่อกลุ่มผู้บริโภค ไปจนถึงกลุ่มธุรกิจ

ขณะเดียวกัน เยอเก้น โรสทริป (Jørgen C. Arentz Rostrup), EVP and Head of Telenor Asia ร่วมแถลงในประเด็นก้าวต่อไปของ Telenor ที่ต้องเตรียมแข่งกับผู้เล่นที่มีร่วมกันทั้งในตลาดระดับภูมิภาค หรือตลาดระดับ Global นั้นสามารถมองว่าเป็น Competitor แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถมองว่าเป็น Partner ได้ 

ขณะเดียวกัน Telenor ได้ย้ำเตือนให้เห็นถึงประโยชน์สู่ผู้บริโภคว่า จากเดิมที่ไทยมี 1 ผู้เล่นที่แข็งแกร่ง กับ 2 ผู้เล่นที่อ่อนแอ จะเป็นการดีกว่าถ้าให้ 2 ผู้เล่นที่อ่อนแอรวมกันแล้วแข็งแกร่ง เพื่อให้ผู้เล่นที่เหลือมาแข่งกันพัฒนาเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค 

ทาง Telenor ยืนยันต่อประเด็นคำถามที่เกิดขึ้นในสังคมทั้งกรณีที่มีและไม่มีการควบรวมธุรกิจ จะไม่ถอนการลงทุนในไทยอย่างแน่นอน ถ้ามีการควบรวมกิจการจริงก็จะเน้นความเป็นหุ้นส่วนอย่างเท่าเทียมแบบ Equal Partnership ในทุกๆ เรื่องตั้งแต่บุคลากร ไปจนถึงการเงิน ส่วนเรื่องค่าบริการภายหลังการควบรวมกิจการ ค่าบริการจะไม่ปรับเพิ่มขึ้นจนสูงทะลุเพดาน แต่จะปล่อยให้เป็นเรื่องของกลไกในราคาตลาดที่เป็นธรรม

ทั้งนี้ การอภิปรายนี้จัดขึ้นหลังจาก Telenor และ Axiata ได้รับทราบผลจากหน่วยงานกำกับดูแลการควบรวมกิจการ เซลคอม-ดิจิ (Celcom-Digi) ในมาเลเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนมติการควบรวม True-Dtac นั้นจะได้รับความชัดเจนในเดือนกรกฎาคมนี้