We, Robot งานใหญ่แห่งปีของ Tesla ที่หลายคนจับตา เพราะเป็นครั้งแรกที่ Elon Musk จะเปิดตัวรถแท็กซี่ไร้คนขับหรือ Robotaxi ที่ตกเป็นกระแสข่าวมาอย่างยาวนาน โดยงานนี้มีการเปิดตัวอะไรให้เห็นบ้าง และทำไมทั่วโลกถึงให้ความสนใจ Techsauce สรุปทุกประเด็นที่ต้องรู้มาให้แล้ว
อนาคตของถยนต์ไร้คนขับมาถึงแล้ว
คำพูดเปิดตัว Cybercab หรือแท็กซี่ไร้คนขับจาก Musk
เจ้าตัวเผยว่า ต้นทุนของการขนส่งแบบไร้คนขับจะต่ำมาก ซึ่งอาจเปรียบได้กับระบบขนส่งมวลชนส่วนบุคคลรูปแบบหนึ่ง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ต้องมีการพัฒนารถลักษณะนี้ Musk ตั้งข้อสังเกตว่า การขนส่งในปัจจุบันค่อนข้างแย่ มีความแออัด สกปรก และเดินทางเหนื่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราจำเป็นต้องขับรถ นอกจากนี้รถยนต์ทั่วไปก็มักจะถูกใช้วิ่งบนถนนแค่ราว 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น ทำให้รถถูกจอดนิ่งๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นการเปลืองพื้นที่โดยใช่เหตุ
แต่ Tesla จะแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ หรือ FSD ซึ่งจะทำให้เวลาชีวิตของทุกคนกลับคืนมา
Cybercab เป็นรถไฟฟ้าไร้คนขับที่ออกแบบมาเพื่อรับส่งผู้โดยสารผ่านการเรียกบนแอปพลิเคชัน ตัวรถถูกดีไซน์ออกมาอย่างล้ำยุค ห้องโดยสารมีความโอ่งโถง ที่นั่งด้านหน้าไม่มีพวงมาลัยให้บังคับ มีเพียงหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่เพื่อดูสถานะต่างๆ ของรถเท่านั้น
และยังมีจุดที่น่าสนใจอยู่ที่ Cybercab จะไม่มีช่องชาร์จเหมือนรถ EV เพราะรุ่นนี้ใช้ระบบการชาร์จแบบเหนี่ยวนำ (Inductive Charging) ซึ่งหมายความว่าจะสามารถชาร์จไร้สายได้คล้ายกับมือถือ ซึ่ง Elon Musk มองว่าการมาถึงของ Robotaxi อาจช่วยให้เราเปลี่ยนที่จอดรถให้กลายมาเป็นสวนสาธารณะได้
Elon Musk ระบุว่า รถยนต์ไร้คนขับจะมีความปลอดภัยกว่ามนุษย์ถึง 10 เท่า เพราะใช้ AI ในการตัดสินใจ และกล้องที่ติดตั้งอยู่รอบคันเป็นหูเป็นตาให้กับรถ ซึ่งข้อดีของการใช้ AI คือ ไม่วอกแวก ไม่ดื่ม มีสติตอนขับตลอดเวลา นอกจากนี้ Elon Musk ยังย้ำว่ารถยนต์ Tesla ทุกคันจะสามารถใช้งาน FSD โดยไม่ต้องมีคนควบคุม ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ว่า ในอนาคตผู้ที่ใช้รถรุ่นยอดนิยมอย่าง Model 3 และ Model Y อาจไม่จำเป็นต้องขับรถเองอีกต่อไป
สำหรับ Cybercab แม้จะเป็นรถที่ถูกออกแบบมาให้บริการขนส่ง แต่ Elon Musk บอกว่าผู้ใช้สามารถซื้อมาใช้งานส่วนตัวด้วย โดยจะมีราคาต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือต่ำกว่า 1 ล้านบาทไทย
อีกหนึ่งรุ่นที่เปิดตัวให้เห็นในงานนี้คือ Robovan รถบัสไร้คนขับไร้พวงมาลัย ดีไซน์ภายนอกมีรูปร่างคล้ายรถหัวจักร และแทบไม่มีล้อให้เห็นราวกับหลุดมาจากหนังไซไฟ ภายในห้องโดยสารเต็มไปด้วยที่นั่งสามารถจุคนได้ราว 20 คน หรือจะนำไปประยุกต์ใช้ในการขนส่งสินค้าก็ได้ โดย Elon Musk ระบุว่า จะช่วยลดต้นทุนการเดินทางได้เหลือราว 5-10 เซนต์ต่อไมล์
Tesla เคยพูดเป็นนัยๆ เกี่ยวกับรถตู้มาก่อน โดยบอกว่ากำลังพัฒนา ‘การขนส่งในเมืองที่มีความหนาแน่นของผู้โดยสารสูง’ และยังบอกว่าปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยรถยนต์ไร้คนขับ และเมื่อต้นปีนี้ Musk ได้แสดงภาพรถยนต์รูปทรงรถตู้ที่ปกคลุมไปด้วยผ้าคลุมเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัท
ผมคิดว่านี่จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
Tesla ให้ความสำคัญในการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนอนยด์มาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ก็เคยเปิดตัวหุ่นยนต์ Optimus Gen 2 ให้เห็นกันไปแล้ว โดยในงานครั้งนี้ได้ปล่อยกองทัพหุ่นยนต์มาโลดแล่นโชว์ตัวให้เห็นด้วย พร้อมกับเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบกัน
Musk อธิบายว่า หุ่นยนต์ Optimus จะสามารถทำได้ทุกอย่างราวกับผู้ช่วยประจำบ้าน ตัวอย่างเช่น พาสุนัขไปเดินเล่น ช่วยเลี้ยงลูก ตัดหญ้าในสวน เสิร์ฟเครื่องดื่ม โดยในงานมีการนำเสนอภาพของหุ่นยนต์ Optimus ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนในอนาคตได้อย่างกลมกลืน มีหุ่นยนต์ตัวหนึ่งส่งถุงของขวัญเล็กๆอีกตัวหนึ่งและเล่นเป่ายิ้งฉุบกับแขก อีกตัวหนึ่งกำลังรดน้ำต้นไม้ แถมยังมีกลุ่มหุ่นยนต์กำลังเต้นรำอย่างสนุกสนานราวกับสังคมส่วนตัว
หุ่นยนต์ Optimus Gen 2 คาดว่าจะมีการวางจำหน่ายให้คนทั่วไปได้ซื้อด้วย โดยจะมีราคาอยู่ที่ราวๆ 20,000 - 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ 6.6 - 9.9 แสนบาท โดย Musk กล่าวทิ้งท้ายว่า การมาของหุ่นยนตจะช่วยปรับโครงสร้างความสำคัญทางเศรษฐกิจ และช่วยให้อนาคตไม่มีความยากจนอีกต่อไป
อ้างอิง : Techcrunch, The Verge (1), (2)
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด