กรมพัฒน์ฯ DBD เตรียมนำ AI จองชื่อตั้งบริษัทใหม่ ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาที | Techsauce

กรมพัฒน์ฯ DBD เตรียมนำ AI จองชื่อตั้งบริษัทใหม่ ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาที

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดินหน้าอำนวยความสะดวกการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ นำ AI มาใช้ในการจองชื่อนิติบุคคล ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาที พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานรัฐ 382 หน่วยงาน หวังนำข้อมูลไปใช้สนับสนุนการทำงานให้แม่นยำขึ้น เผยยังคุมเข้มการยื่นจดทะเบียนนิติบุคคลใหม่ กำชับทนายความ ผู้สอบบัญชี ต้องให้ผู้ยื่นจดลงลายมือชื่อต่อหน้าเท่านั้น ป้องกันความเสียหาย และการตุกติกทำธุรกิจ

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ กำลังดำเนินการปรับปรุงระบบการจองชื่อนิติบุคคล ให้สามารถตรวจสอบและทราบผลการอนุมัติการจองชื่อได้ทันที โดยใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มความรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้การจองชื่อใช้เวลาเหลือเพียงแค่ไม่เกิน 2 นาที ก็จะทราบผลว่าชื่อที่จะจอง เป็นชื่อซ้ำหรือไม่ซ้ำ และสามารถนำไปใช้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นชื่อนิติบุคคลได้หรือไม่ ทำให้ช่วยประหยัดเวลา และทำให้การจดทะเบียนทำได้เร็วขึ้น

“กรมฯ จะนำรายชื่อนิติบุคคลที่มีอยู่ในระบบ 1.6 ล้านชื่อ ซึ่งมีการจดไว้เดิม กับชื่อที่เป็นชื่อต้องห้าม เช่น ชื่อกระทรวง ทบวง กรม ชื่อที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ เอาไปใส่ไว้ในระบบ จากนั้น เมื่อมีผู้มายื่นขอจองชื่อ ระบบก็จะทำการตรวจสอบทันทีว่าชื่อซ้ำหรือไม่ซ้ำ และตรงกับชื่อที่ต้องห้ามนำมาใช้จดทะเบียนหรือไม่ ถ้าไม่ ก็อนุมัติให้นำไปใช้ได้ โดยปกติในแต่ละปี จะมีคนเข้ามาจองชื่อประมาณปีละ 3 แสนราย และนำไปใช้จดทะเบียนจริง 7-8 หมื่นราย”นายพูนพงษ์กล่าว

นายพูนพงษ์กล่าวว่า กรมฯ ยังได้ทำการเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคลกับหน่วยงานภาครัฐต่างๆ มีเป้าหมายจำนวน 382 หน่วยงาน โดยได้ทำการเชื่อมโยงไปแล้ว 118 หน่วยงาน ทำให้หน่วยงานต่างๆ สามารถนำข้อมูลนิติบุคคลไปใช้สนับสนุนการทำงานได้แม่นย้ำขึ้น เช่น หากบุคคลมีการซื้อขายที่ดินกับบริษัท กรมที่ดินก็สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้แทนบริษัทคือใคร เป็นกรรมการผู้มีอำนาจจริงหรือไม่ หรือกรณีหน่วยงานที่ตรวจสอบ หากมีการฉ้อโกง ก็สามารถตรวจได้ว่าบริษัทที่กระทำผิด มีใครเป็นกรรมการ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มความเข้มงวดในการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล โดยได้ขอความร่วมมือไปยังสภาทนายความ เนติบัญฑิตยสภา และสภาวิชาชีพบัญชีให้กำกับดูแลทนายความ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต และผู้ทำบัญชี ให้กำชับผู้ประกอบวิชาชีพที่เป็นผู้รับรองผู้ขอจดทะเบียน ให้ผู้ขอจดทะเบียนลงลายมือชื่อต่อหน้าเท่านั้น เพื่อป้องกันความเสียหายต่อประชาชน ลดข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นทางธุรกิจ และป้องกันการสวมรอยเป็นบุคคลอื่นมายื่นจดทะเบียน

“การลงลายมือชื่อของผู้ขอจดทะเบียน ที่ได้รับการรับรองจากบุคคลที่กรมฯ กำหนดไว้ กรมฯ จะถือว่าลายมือชื่อนั้นถูกต้อง โดยนายทะเบียนไม่ต้องมาตรวจสอบซ้ำอีก และการไม่ลงลายมือชื่อต่อหน้า อาจทำให้เกิดกรณีปลอมแปลงลายชื่อชื่อ หรือใช้ชื่อบุคคลอื่นยื่นขอจดทะเบียน ซึ่งเป็นการทำผิดกฎหมาย และเป็นเหตุให้คำขอจดทะเบียนอาจถูกเพิกถอนได้ และผู้ที่มีหน้าที่รับรองอย่างทนายความ ผู้สอบบัญชี ก็จะมีความผิดฐานสนับสนุนให้ผู้อื่นทำความผิดและแจ้งความเท็จ มีโทษทั้งจำคุกและปรับ และกรมฯ จะแจ้งต่อสภาที่ดูแลเพื่อให้ดำเนินการลงโทษด้วย”นายพูนพงษ์กล่าว

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

YouTube Shorts ยกระดับวิดีโอสั้น เพิ่มความยาววิดีโอสูงสุดเป็น 3 นาที พร้อมฟีเจอร์ใหม่ เริ่ม 15 ตุลาคมนี้

YouTube Shorts กำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการสร้างคอนเทนต์วิดีโอสั้น โดยเตรียมเพิ่มความยาวสูงสุดของวิดีโอจาก 60 วินาที เป็น 3 นาที นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่จะเปิดโอกาสให้...

Responsive image

โดรนบุก! Silicon Valley เปิดตัวขนส่งสุดล้ำ ส่งตรงถึงบ้านด้วยระบบอัตโนมัติ

Matternet ผู้นำด้านเทคโนโลยีโดรน สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ด้วยการเปิดตัวบริการส่งของด้วยโดรนในซิลิคอนวัลเลย์ใครจะเชื่อว่าภาพยนตร์ไซไฟที่เราเคยดูจะกลายเป็นจริง เมื่อโดรนเริ่มส่งของถึงบ้า...

Responsive image

เปิดหลักสูตร “วิศวกรรมเซมิคอนดักเตอร์” นำร่อง จุฬาฯ - มจพ. - สจล. เริ่มเรียนปีการศึกษา 2568

เปิดหลักสูตร “วิศวกรรมเซมิคอนดักเตอร์” ครั้งแรกของประเทศไทย โดยจะเริ่มเรียนในปีการศึกษา 2568 นี้ มีสถาบันนำร่องถึง 3 แห่ง ได้แก่ จุฬาฯ, มจพ. และ สจล....