เศรษฐกิจไทยโตต่ำหรือศักยภาพลดลง สรุปทุกปัญหาที่ดึงรั้งประเทศไทย | Techsauce

เศรษฐกิจไทยโตต่ำหรือศักยภาพลดลง สรุปทุกปัญหาที่ดึงรั้งประเทศไทย

สรุปทุกปัญหาที่ทำให้เศรษฐกิจไทยหดตัวลง โดย ดร. พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ในงาน Future Trends Ahead Summit 2024 

เศรษฐกิจไทยโตต่ำลงทุกครั้งที่มีวิกฤต

จากประเทศที่เป็นหนึ่งในความหวังของเอเชีย สู่ประเทศที่มีเศรษฐกิจที่มีการเติบโตไม่ถึง 3% ในปัจจุบัน 

เศรษฐกิจไทยเคยโตเฉลี่ย 8% ต่อปีจากภาคการลงทุนในช่วงก่อนวิกฤติเศรษฐกิจ 1997 หลังจากนั้นไทยปรับตัวเข้าสู่ภาคการส่งออกโดยเพิ่มจาก 30% เป็น 70% ของ GDP เศรษฐกิจไทยยังโตขึ้นแต่ลดลงเหลือเฉลี่ย  5% ต่อปี 

แต่หลังวิกฤติเศรษฐกิจโลกปี 2008 จากโตเฉลี่ย 5% ต่อปี ลดลงสู่ 3% ต่อปี และหลังวิกฤติ COVID-19 ไทยก็ไม่เคยกลับไปโตแตะ 3% อีกเลย 

ปัจจุบันประเทศไทยโตเฉลี่ยเพียง 2.5% เท่านั้น การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยกำลังโตแผ่วลง หรือเพราะประเทศไทยเราขาดแคลนนวัตกรรมที่ทำให้ประเทศโตไม่เท่าจุดพีคในอดีตแล้ว

ปัญหาเชิงโครงสร้าง หรือเรากำลังกินบุญเก่ามากไป ?

หลายคนอาจจะมองว่าถ้าการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเดี๋ยวเศรษฐกิจในประเทศก็โตขึ้น แต่ในปัจจุบันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จำนวนนักท่องเที่ยวที่กลับมาในประเทศไทยก็ไม่ได้เท่าก่อนหน้า COVID-19 

นอกจากนี้ความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลกก็หายไป ไทยเคยอยู่ในห่วงโซ่อุปทานโลก ส่งออกสินค้าไปทั่วโลก แต่ปัจจุบันไทยขาดดุลการค้าจีนมากขึ้นไทยนำเข้าสินค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และส่งผลกับผู้ผลิตในประเทศ สะท้อนให้เห็นความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลกลดลง

โครงสร้างประชากร ทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ

ประเทศไทยมีอัตราการเกิดตํ่าลง ประชากรที่จะน้อยลงส่งผลให้การพัฒนาของเศรษฐกิจลดตํ่าลงไปด้วย ดังนั้นประชากรจะต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

แต่ปัจจุบันไม่เพียงแค่ประชากรมีน้อยลงอย่างเดียวแต่คุณภาพของประชากรไทยก็ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาเช่นกัน สะท้อนจากคะแนน PISA พบว่าลดตํ่าลงจากการสอบครั้งก่อน 

การลงทุนในประเทศที่หายไป

อีกหนึ่งปัญหาสำคัญคือประเทศไทยขาดการลงทุนนานร่วม 3 ทศวรรษ ไม่เพียงแต่การลงทุนจากต่างประเทศในไทย แต่รวมถึงคนไทยลงทุนในประเทศลดลงโดยหันไปลงทุนในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น

ปัญหาเหล่านี้กำลังส่งผลให้เห็นได้ชัดจากการที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มโตตํ่าลงเรื่อย ๆ หากว่าเรายังไม่ทำอะไรต่อไป เราจะเดินต่อไปได้อย่างไร ? 

แก้ปัญหาเศรษฐกิจกลยุทธ์ลูกศร 3 ดอก 

การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างไม่ใช่แค่การกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ควรมองแนวทางที่ทำให้สามารถแก้ไขได้ระยะยาวและยั่งยืนขึ้น โดยอิงจากการแก้ไขปัญหาเงินฝืดของประเทศญี่ปุ่น ด้วยกลยุทธ์ลูกศรสามดอก ได้แก่ 

  • นโยบายการเงิน ผ่อนคลายนโยบายการคลังลง
  • นโยบายการคลัง รักษาความเข้มแข็งการคลังให้มากขึ้น
  • นโยบายปฏิรูปเชิงโครงสร้าง เพิ่มการแข่งขันในเวทีโลก ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปตลาดแรงงาน การเข้าเขตการค้าเสรี TPP ลดกฎระเบียบเพื่อส่งเสริมธุรกิจและการลงทุนใหม่ เป็นต้น

ญี่ปุ่นใช้เวลาร่วม 10 ปี ปัจจุบันเศรษฐกิจของญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะโตขึ้น จากเฉลี่ยอยู่ที่ 1% ขึ้นมาอยู่ที่ 1.2%-1.5% การที่ประเทศญี่ปุ่นใช้เวลาร่วมสิบปีกว่าที่ผลของการแก้ปัญหาระยะยาวจะงอกเงยผลออกมา แล้วประเทศไทยถ้าไม่เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ ปัญหาเชิงโครงสร้างจะแก้ได้เมื่อไร ? เพื่อให้เศรษฐกิจไทยจะกลับมาเติบโตเป็นหนึ่งในอนาคตของเอเชียอีกครั้งได้ในอนาคต

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Shein บุกอินเดียอีกครั้ง จับมือ Reliance Retail ค้าปลีกรายใหญ่ของอินเดีย กับความร่วมมือที่ต้องแลกมาด้วยเงื่อนไขที่เข้มงวด

Shein เกิดใหม่อีกครั้งในอินเดีย! หลังจากถูกแบนไปเกือบ 5 ปีจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างอินเดียและจีน Shein ได้กลับมาเปิดตัวอีกครั้งในอินเดีย จากการร่วมมือกับ Reliance Retail ค...

Responsive image

รักโลกต้องทำงาน 4 วัน ทั้งปลดล็อกชีวิตสมดุล และลดคาร์บอนปีละ 127 ล้านตัน

จะดีแค่ไหน หากการมีวันหยุดเพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์ ไม่เพียงแต่ทำให้ชีวิตสมดุลขึ้น แต่ยังช่วยรักษ์โลกได้อีกด้วย? รายงานล่าสุดเผยว่า การทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ ไม่เพียงเพิ่มเวลาว่างถึง 50% ...

Responsive image

OpenAI เปิดตัว o3-mini โมเดล AI ใหม่ล่าสุดที่เน้นการให้เหตุผล

OpenAI เปิดตัว ChatGPT o3-mini โมเดล AI ใหม่ที่เน้นการให้เหตุผล ลดข้อผิดพลาดในคำตอบ รองรับงาน STEM พร้อมค่าบริการถูกกว่า o1-mini สูงสุด 63%...