หลังจากที่ 'เครือไทย โฮลดิ้งส์' ได้แต่งตั้ง 'ฐากร ปิยะพันธ์' ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง CEO คนใหม่ พร้อมปรับทัพครั้งยิ่งใหญ่ บริษัทก็มีแผนที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจด้วย 6 กลยุทธ์ โดยนำเสนอและพัฒนาระบบ ecosystem ได้อย่างครบรอบด้านทั้งบริการและผลิตภัณฑ์สู่แพลตฟอร์มดิจิทัล เดินหน้าให้บริการไปยังภูมิภาคอาเซียนภายในปี 2568
คุณฐากร ปิยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เครือไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Thai Group เปิดเผยว่า ในรอบกว่า 1 ปีที่ผ่านมาภายใต้วิกฤติการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 ที่ทำให้ทั่วโลกยังต้องเผชิญกับความผันผวนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ โดยเฉพาะการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่นเดียวกับบริษัท เครือไทย โฮลดิ้งส์ ที่ดำเนินธุรกิจด้านประกันและการเงิน
โดยประกอบด้วย อาคเนย์ประกันภัย อาคเนย์ประกันชีวิต อาคเนย์แคปปิตอล อาคเนย์มันนี่ และไทยประกันภัย ก็ได้รับผลกระทบและต้องปรับตัวสู่ยุคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแบบ New Normal จึงต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มและพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ที่ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้าให้มากที่สุดเปิด 6 กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของ 'เครือไทย โฮลดิ้งส์'
จาก 6 กลยุทธ์ เพื่อสร้างความเติบโตและมั่นคงทางธุรกิจแบบรอบด้าน บริษัทยังตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะช่วยให้คนไทยและครอบครัวของพวกเขาใช้ชีวิตหรือดำเนินธุรกิจอย่างมีความสุข ปราศจากความกังวลใจ ผ่านนวัตกรรมทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งสู่การเป็น “Financial as A Service” ของคนไทย ในขณะที่ไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เราจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนธุรกิจอย่างต่อเนื่องไปตามพฤติกรรมของลูกค้า ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และขั้นตอนต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้บริการที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า เราจึงมุ่งเน้นในเรื่องเทคโนโลยีและข้อมูลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ ตรงใจ เข้าถึงได้ง่าย คุ้มค่าเงิน และส่งมอบบริการแบบเทสุดใจ เพื่อให้ลูกค้ามีความสุข
ทั้งนี้ในระยะเวลา 3 ปี (2564-2566) บริษัทฯได้วางงบลงทุนสำหรับเทคโนโลยี จำนวน 1,500 ล้านบาท ” คุณฐากรกล่าวสำหรับเป้าหมายการขยายตลาด คุณฐากร กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต จะมุ่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างโดยใช้ดิจิทัลและดาต้าขยายฐานลูกค้าใหม่จากปัจจุบันที่มีลูกค้าอยู่ประมาณ 4 ล้านราย ตลอดจนสร้างการรับรู้ของแบรนด์อาคเนย์ประกันภัย อาคเนย์ประกันชีวิต ผ่าน Winning Product และการดูแลลูกค้าให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไร้ความกังวลใจ
พร้อมกันนี้ บริษัทฯยังเดินหน้าพัฒนาและหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพื่อตอบสนองลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น การทำประกันภัยยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อตอบสนองต่อเทรนด์ในปัจจุบันขณะที่ธุรกิจการเงินจะเน้นสร้างประสิทธิภาพ ลดต้นทุน สร้างกำไร พร้อมวางโครงสร้างพื้นฐานและหาพันธมิตรทางธุรกิจที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการเข้าซื้อกิจการ(M&A) หรือการร่วมทุน(JV) โดยมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของธุรกิจในภาพรวมให้ติดอันดับ 1 ใน 5 ของตลาด เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจการเงินในประเทศไทยและขยายการให้บริการไปยังภูมิภาคอาเซียนภายในปี 2568 โดยเบื้องต้นจะเข้าเจาะที่ประเทศเวียดนามก่อน จากนั้นตามด้วย สปป.ลาว และกัมพูชา
“ประเทศไทยกำลังปลดล็อกก้าวสู่การทำธุรกิจประกันและการเงินบนโลกดิจิทัลได้อย่างแท้จริง จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปรับตัวสู่การดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ ตอบสนองความต้องการที่มากขึ้น เราไม่สามารถดำเนินธุรกิจแบบเดิม ๆ ได้อีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการผ่านการใช้ Data Analytics เพราะธุรกิจประกันมี Big Data ดังนั้น สิ่งที่ Thai Group จะทำคือการนำข้อมูลที่มีในระบบมาเชื่อมต่อกันเพื่อทำให้เราแตกต่างจากคนอื่น ทั้งในแง่ของผลิตภัณฑ์และบริการ สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างเข้าใจ และบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพไร้รอยต่อและครบทุกบริการ เพื่อให้เราสามารถเข้าไปอยู่ในทุกที่ที่เชื่อมต่อไปยังลูกค้าเป้าหมายใน Ecosystems ได้อย่างยั่งยืน”คุณฐากร กล่าว
ขณะที่บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 14-15% ต่อปี และคาดว่าจะมีรายได้รวมแตะที่ระดับ 30,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี (2564-2566)
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด