ไทยประกันชีวิต บริษัทประกันแห่งแรกของไทย กำลังจะเข้าตลาดหุ้น | Techsauce

ไทยประกันชีวิต บริษัทประกันแห่งแรกของไทย กำลังจะเข้าตลาดหุ้น

บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้ยื่น Filing ต่อ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ระดมทุน IPO เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินทุนที่ได้ไปใช้ในการลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation) และการทำการตลาด เสริมสร้างความแข็งแกร่งของช่องทางจัดจำหน่ายผ่านทางพันธมิตร และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเงินทุน และสำหรับเงินทุนหมุนเวียนและวัตถุประสงค์อื่น ๆ

สำหรับไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตแบรนด์ของไทยซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยคนไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีรากฐานมายาวนานกว่า 79 ปี โดยถูกจัดตั้งขึ้นในเดือนมกราคม 2485 และเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกในประเทศไทยที่เป็นของคนไทยและก่อตั้งโดยคนไทย 

ไทยประกันชีวิต ให้บริการโดยมีผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจร ซึ่งครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ประเภทบุคคลและผลิตภัณฑ์ประเภทกลุ่ม โดยมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทั้งด้านการคุ้มครองชีวิต การออม การลงทุน และการวางแผนมรดก ที่ได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกช่วงชีวิต 

ด้านผู้ถือหุ้นของบริษัท ครอบครัวไชยวรรณซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมรายใหญ่ของบริษัทฯ นั้น ได้ให้การสนับสนุนบริษัทฯ มาตั้งแต่ปี 2513 จากรุ่นสู่รุ่น โดยสมาชิกของครอบครัวไชยวรรณซึ่งมีแนวคิดทางธุรกิจและมีประสบการณ์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการและคณะผู้บริหารของบริษัทฯ โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกและความเชี่ยวชาญของบุคคลดังกล่าวเพื่อขับเคลื่อนบริษัทฯ ให้สามารถดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย 

นอกจากนี้ Meiji Yasuda Life Insurance Company (MY) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเชิงกลยุทธ์ (Strategic Shareholder) ของบริษัทฯ ก็เป็นหนึ่งในบริษัทประกันชีวิตที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดย MY ได้ให้การสนับสนุนองค์ความรู้และความชำนาญต่าง ๆ ที่บริษัทฯ ได้นำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัทฯ 

ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี 

เบี้ยประกันภัยรับรวมของบริษัทฯ

  • ปี 2561 มีจำนวนเท่ากับ 86,244.88 ล้านบาท
  • ปี 2562 มีจำนวนเท่ากับ 92,039.37 ล้านบาท
  • ปี 2563 มีจำนวนเท่ากับ 91,269.12 ล้านบาท 

(สำหรับรอบระยะเวลาหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และ 2564 เบี้ยประกันภัยรับรวมของบริษัทฯ มีจำนวนเท่ากับ 41,267.95 ล้านบาท และ 40,372.21 ล้านบาท ตามลำดับ)

รายได้รวมของบริษัทฯ

  • ปี 2561 มีจำนวนเท่ากับ 100,851.67 ล้านบาท
  • ปี 2562 มีจำนวนเท่ากับ 108,388.70 ล้านบาท
  • ปี 2563 มีจำนวนเท่ากับ 107,642.26 ล้านบาท

(สำหรับรอบระยะเวลาหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และ 2564 รายได้รวมของบริษัทฯ มีจำนวนเท่ากับ 48,174.65 ล้านบาท และ 50,744.50 ล้านบาท ตามลำดับ)

กำไรสุทธิของบริษัทฯ

  • ปี 2561 มีจำนวนเท่ากับ 6,709.23 ล้านบาท
  • ปี 2562 มีจำนวนเท่ากับ 6,777.35 ล้านบาท
  • ปี 2563 มีจำนวนเท่ากับ 7,692.32 ล้านบาท

(สำหรับรอบระยะเวลาหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และ 2564 กำไรสุทธิของบริษัทฯ มีจำนวนเท่ากับ 4,170.43 ล้านบาท และ 5,935.33 ล้านบาท ตามลำดับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 2562 และ 2563)

สรุปข้อมูลจาก SEC update ล่าสุดเมื่อ 7 ตุลาคม 2564


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Meta เปิดตัวโครงการ PARTNR วิจัยการทำงานร่วมกันระหว่างหุ่นยนต์และมนุษย์ในบ้าน

Meta เปิดตัวโครงการ PARTNR วิจัยการทำงานร่วมกันระหว่างหุ่นยนต์และมนุษย์ในบ้าน ศึกษางานบ้าน 100,000 รายการ พร้อมใช้ AI และ Mixed Reality เพื่อพัฒนาหุ่นยนต์ให้เข้าใจมนุษย์มากขึ้น...

Responsive image

BYD ลงสนามรถยนต์ไร้คนขับ เปิดตัว God’s Eye สู้กล้อง AI จาก Tesla สมรภูมิ EV นี้ใครจะเป็นผู้นำ?

Tesla เคยถูกมองว่าเป็นบริษัทนวัตกรรมที่ล้ำหน้ากว่าใครในอุตสาหกรรมรถ EV แต่ปัจจุบันสมรภูมิการแข่งขันกลับร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อผู้เล่นรายใหญ่จากจีนอย่าง BYD กำลังไล่ตามทัน...

Responsive image

ญี่ปุ่นแซงหน้าไทย ขึ้นแท่นจุดหมายปลายทาง อันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวจีน

นักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดตรุษจีน ส่งผลให้ญี่ปุ่นกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมแซงหน้าไทย ข้อมูลจาก UN Tourism ระบุว่า ในปี 2567 ญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวต่...