ไทยซัมมิท ชี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีเวลาอย่างน้อย 4 ปีปรับตัวรับกระแส EV จีน | Techsauce

ไทยซัมมิท ชี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีเวลาอย่างน้อย 4 ปีปรับตัวรับกระแส EV จีน

ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังเผชิญอุปสรรคใหญ่จากการเข้ามาของ EV ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงในด้านเทคโนโลยีการผลิตครั้งใหญ่ ซึ่งอุปสรรคครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่โรงงานอย่างเดียวที่ต้องเผชิญ แต่ยังนับรวมไปถึงซัพพลายเออร์รายย่อยที่รับหน้าที่ผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ให้กับภาคอุตสาหกรรม ซึ่งดูเหมือนว่าบริษัทเหล่านี้อาจมีเวลาอย่างน้อย 4 ปีในการรับมือกับ EV จีนที่กำลังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานอาวุโส กลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Nikkei ระบุว่า ซัพพลายเออร์ในประเทศไทย รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นยังคงมีเวลาอย่างน้อย 4 ปีหรือมากสุด 8 ปี ในการปรับตัวรับกระแสการมาของรถไฟฟ้าคู่แข่งจีน

รายงานระบุว่า ผู้ผลิตชิ้นส่วนของไทยกำลังเผชิญกับปัญหาด้านคำสั่งซื้อจากลูกค้าจีน เนื่องจากรถ EV จีนสามารถหาชิ้นส่วนมาจากประเทศตนเองได้ รวมถึงปัญหาของลูกค้าจากญี่ปุ่นที่แม้จะทำธุรกิจร่วมกันมาอย่างยาวนาน แต่ตอนนี้กำลังลดการผลิต บางส่วนได้ปิดโรงงานไป ทำให้คำสั่งซื้อลดลงตามไปด้วย

คุณชนาพรรณ เสริมว่า บริษัทชิ้นส่วนในไทยไม่สามารถรอการคุ้มครองจากรัฐบาลให้แข่งขันกับต่างประเทศได้ เนื่องจากตอนนี้แบรนด์ต่างๆ ได้เข้ามาสร้างโรงงานในไทย และกำลังมองหาซัพพลายเออร์ในตอนนี้ ซึ่งหมายความว่าหากบริษัทชิ้นส่วนเหล่านี้ไม่ได้รับเลือก ก็จะพลาดโอกาสไปหลายปี และต้องเผชิญการแข่งขันที่จะหลั่งไหลเข้ามาในไทยมากขึ้นในภายหลัง

รายงานเสริมข้อมูลจากคุณชนาพรรณว่า ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น และซัพพลายเออร์ไทยยังคงสามารถอยู่รอดได้จากความต้องการรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ไฮบริดที่แข็งแกร่ง โดยยอดขายรถยนต์ไฮบริดแบรนด์ญี่ปุ่นในประเทศไทย เช่น Toyota และ Nissan เติบโต 66% ในช่วงเจ็ดเดือนแรกของปี 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แซงหน้าการเติบโตของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 

"หมายความว่าคุณมีเวลามากขึ้นในการหายใจเมื่อคุณขายให้กับ OEM ญี่ปุ่น แต่มันไม่สามารถชะลอการเตรียมตัวของคุณสำหรับ OEM จีนได้" คุณชนาพรรณ กล่าวปิดท้ายตามรายงาน Nikkei

อย่างไรก็ตาม KKP Research เคยออกมาวิเคราะห์ว่า EV อาจไม่ใช่สิ่งเดียวที่จะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย แต่ยังมีสาเหตุที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างคือ การรุกคืบในการชิงส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ของผู้ประกอบการจากประเทศจีนที่มีกำลังการผลิตส่วนเกิน และมีความสามารถในการตัดราคา ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงรถยนต์นั่งส่วนบุคคล แต่จะขยายวงกว้างไปยังตลาดรถปิกอัพ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของธุรกิจยานยนต์ไทย รวมถึงตลาดส่งออกของไทยด้วยเช่นเดียวกัน 

ในส่วนของมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ KKP Research มองว่า ต้องเร่งพัฒนาศักยภาพด้านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต และอาจถึงเวลาทบทวนมาตรการเงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อลดการบิดเบือนโครงสร้างราคาในตลาด รวมถึงเพิ่มความเข้มงวดในการกำหนดและตรวจสอบสัดส่วนการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ (Local content ratio) เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนไทยให้ได้รับประโยชน์ และมีเวลาปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง 


อ้างอิง : Nikkei, KKP Research

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Trump ไฟเขียว เปิดทางให้ Elon Musk-Larry Ellison เข้าซื้อกิจการ Tiktok

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผยว่าพร้อมพิจารณาให้ Elon Musk หรือ Larry Ellison ซื้อแอป TikTok ซึ่งเป็นของ ByteDance จากจีน ถ้าพวกเขาพร้อมที่จะทำข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ...

Responsive image

OpenAI เปิดตัว Stargate Project โครงการใหญ่ที่ลงทุน 16 ล้านล้านบาทใน 4 ปี

Stargate Project โครงการยักษ์ใหญ่จาก OpenAI ร่วมกับพันธมิตรอย่าง SoftBank, NVIDIA, และ Microsoft ลงทุนกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ในสหรัฐฯ ยกระดับชีวิตมน...

Responsive image

ครั้งแรกของโลก! Moodeng AI Challenge 2025 การแข่งขันด้านการออกแบบ AI เชื่อมต่อมนุษย์ สัตว์ และธรรมชาติ

Moodeng AI Challenge 2025 การแข่งขันระดับโลกที่ท้าทายความคิดสร้างสรรค์ของนักพัฒนา AI เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อเชื่อมโยงมนุษย์ ปัญญาประดิษฐ์ สัตว์ และธรรมชาติเข้าด้วยกัน น...