ไทยยูเนี่ยนประกาศแผนกลยุทธ์ปี 2030 ตั้งเป้ารายได้ 2.45 แสนล้านบาท มุ่งเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลโลก | Techsauce

ไทยยูเนี่ยนประกาศแผนกลยุทธ์ปี 2030 ตั้งเป้ารายได้ 2.45 แสนล้านบาท มุ่งเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลโลก

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยถึงวิสัยทัศน์และแผนการเติบโตครั้งสำคัญของไทยยูเนี่ยน ด้วยการเปิดตัว "กลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ปี 2030" โดยตั้งเป้ายอดขายสุทธิที่ 2.45 แสนล้านบาทภายในปี 2030 จาก 1.36 แสนล้านบาทในปี 2024 พร้อมกับเพิ่ม EBITDA (กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) ขึ้น 100% เป็น 24,500 - 28,000 ล้านบาท ภายใน 6 ปีข้างหน้า เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการเพื่อสุขภาพจากท้องทะเล

ไทยยูเนี่ยนประกาศแผนกลยุทธ์ปี 2030 ตั้งเป้ารายได้ 2.45 แสนล้านบาท มุ่งเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลโลก

นายธีรพงศ์ กล่าวว่า "โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมทำให้ไทยยูเนี่ยนต้องปรับตัว เราจึงมองหาช่องทางใหม่ๆ ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยกลยุทธ์ปี 2030 จะเน้นไปที่ 3 แกนหลัก คือการเสริมแกร่งธุรกิจเดิม การขยายธุรกิจใหม่ และการสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค"

3 แกนหลักของกลยุทธ์ไทยยูเนี่ยน

  • เสริมแกร่งธุรกิจหลัก: ไทยยูเนี่ยนจะยังคงรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป เช่น ทูน่ากระป๋อง อาหารแช่เย็น และอาหารสัตว์ โดยใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และปรับปรุงการจัดการห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างมั่นคง
  • การสร้างคลื่นลูกใหม่ของการเติบโตโดยมุ่งเน้นการขยายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและตลาดอาหารพร้อมทานให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคสมัยใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบาย โดยเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อผู้บริโภคในตลาดจีน อินเดีย และอาเซียน รวมถึงการขยายธุรกิจอาหารแช่แข็งและส่วนผสมอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอุตสาหกรรมอาหาร
  • การเปิดน่านน้ำใหม่: ไทยยูเนี่ยนให้ความสำคัญกับการลงทุนในเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ยั่งยืนและโปรตีนทางเลือก เช่น โปรตีนจากพืช โดยเน้นวิจัยและพัฒนาร่วมกับพันธมิตร รวมถึงการลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมเพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจแห่งอนาคตนี้

การลงทุนและการควบรวมกิจการ (M&A)

ไทยยูเนี่ยนได้วางแผนงบประมาณการลงทุนปีละประมาณ 5,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจและการควบรวมกิจการ (M&A) โดยเน้นที่กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงภายใต้ บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด    (มหาชน) ซึ่งมีแผนจะขยายธุรกิจให้ยอดขายแตะระดับ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงการหากิจการใหม่ ๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจหลักอื่น ๆ

โครงการทรานส์ฟอร์เมชัน: Project Sonar และ Project Tailwind

นายพอล เฮอร์โฮลซ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และทรานส์ฟอร์เมชัน กล่าวว่า ไทยยูเนี่ยนยังมุ่งเน้นการวางรากฐานการเติบโตผ่าน 2 โครงการหลัก ได้แก่:

  • Project Sonar: จะเน้นไปที่การลดต้นทุนองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล ตั้งเป้าลดต้นทุน 2,625 ล้านบาทต่อปี เริ่มตั้งแต่ปี 2029 ทั้งนี้ประมาณ 40% ของเงินส่วนนี้จะถูกนำไปใช้ในการลงทุนพัฒนาธุรกิจใหม่
  • Project Tailwind: โครงการพัฒนาธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อเพิ่มกำไรและขยายส่วนแบ่งการตลาด รวมถึงการควบรวมกิจการ โดยตั้งเป้าเพิ่มกำไร 1,750 ล้านบาทต่อปีตั้งแต่ปี 2027 และยังมีเป้าหมายเพิ่มรายได้ของบริษัทไอ-เทลซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงในเครือให้เติบโตขึ้น 3 เท่าภายในปี 2030

และเพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ให้เกิดผล ไทยยูเนี่ยนได้กำหนดแนวทางปฏิบัติที่สำคัญ 6 ข้อ ได้แก่:

  • การปรับโครงสร้างองค์กรและพัฒนาทักษะบุคลากร
  • การลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
  • การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและจัดซื้อ
  • การยกระดับขีดความสามารถทางดิจิทัล
  • การนำนวัตกรรมมาใช้ประโยชน์ในธุรกิจ
  • การเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านความยั่งยืน

ทั้งนี้ ไทยยูเนี่ยนได้เริ่มลงทุนในด้านเหล่านี้แล้ว เช่น การจัดตั้งศูนย์นวัตกรรม Global Innovation Center ที่เนเธอร์แลนด์ การขยายทีมดิจิทัล และการนำระบบอัตโนมัติมาใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในทุกมิติ

ผลประกอบการและแนวโน้มธุรกิจ

ในช่วงไตรมาส 4/67 ไทยยูเนี่ยนคาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 3-4% และอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) จะอยู่ที่ระดับ 18.5-19% นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนปรับโครงสร้างเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง คาดว่าจะส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของกำลังซื้อผู้บริโภคในปีหน้า

การขับเคลื่อนธุรกิจของไทยยูเนี่ยนในครั้งนี้สะท้อนถึงการปรับตัวอย่างชาญฉลาดท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลก ด้วยทีมงานที่แข็งแกร่งและการมุ่งมั่นที่มีเป้าหมาย ไทยยูเนี่ยนพร้อมที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมอาหารทะเลและโภชนาการทางทะเลภายในปี 2030

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

American Airlines เปิดตัวระบบจัดการคิวอัจฉริยะ เทคโนโลยีเสียงเตือนสองระดับ ปิดเกมสายแซงคิวขึ้นเครื่อง

เคยเจอไหม? คนแซงคิวขึ้นเครื่องจนวุ่นวายที่ประตูทางขึ้น หลังจากนี้จะไม่มีอีกต่อไป เมื่อ American Airlines แก้ปัญหานี้ด้วยเทคโนโลยีเสียงเตือนอัจฉริยะ ที่จะจับทุกความพยายามแอบขึ้นเครื...

Responsive image

Soft Power และ Technology คือสิ่งที่ประเทศไทยจะเดินต่อไปในอีก 5 ปีข้างหน้า สรุปแนวคิด ทักษิณ ชินวัตร

ดร.ทักษิณ ชินวัตรเผยวิสัยทัศน์ 5 ปีข้างหน้าของประเทศไทยในงาน Forbes Global CEO Conference เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ซอฟต์พาวเวอร์ และการปรับโครงสร้างภาษีเพื่อเสริมสร้างความสามารถ...

Responsive image

เปิดบ้าน WHA สำรวจศักยภาพ นวัตกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ

WHA Open House 2024: Explore – Discover – Shape the Future เป็นการเปิดบ้านครั้งแรกของ WHA เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ WHA Group ในฐานะต้นแบบของธุรกิจที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช...