ไปรษณีย์ไทยขยับอีก จับมือ DHL Express เปิดตัว Courier Post ส่งสินค้าไปต่างประเทศได้ภายใน 2-4 วัน | Techsauce

ไปรษณีย์ไทยขยับอีก จับมือ DHL Express เปิดตัว Courier Post ส่งสินค้าไปต่างประเทศได้ภายใน 2-4 วัน

สองผู้ให้บริการ Logistics รายใหญ่ในไทยอย่าง 'ไปรษณีย์ไทย' และ 'DHL Express' เปิดตัวบริการ ‘Courier Post’ (คูเรียร์โพสต์) บริการใหม่จากไปรษณีย์ไทย บริการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศระดับพรีเมียมภายใน 2-4 วัน พร้อมมีบริการ On Demand Delivery (ODD) ให้ผู้รับสามารถเปลี่ยนกำหนดเวลาการจัดส่งพัสดุ หรือเปลี่ยนที่อยู่สำหรับการรับพัสดุได้ตามต้องการ

'ไปรษณีย์ไทย' และ 'DHL Express' ประกาศความร่วมมือด้าน Logistics ระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการ ภายใต้บริการ ‘Courier Post’ (คูเรียร์โพสต์) บริการใหม่จากไปรษณีย์ไทย บริการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศระดับพรีเมียมภายใน 2-4 วัน ด้วยเครือข่ายการให้บริการที่ครอบคลุมมากกว่า 220 ประเทศทั่วโลก พร้อมความเชี่ยวชาญด้านการดำเนินขั้นตอนทางศุลกากร ณ ประเทศปลายทาง

โดยราคาค่าบริการเริ่มต้นที่ 720 บาท สำหรับสินค้าที่หนักไม่เกิน 250 บาท รองรับการส่งสินค้าได้ถึงสูงสุดถึง 30 กิโลกรัม

อีกทั้งยังมีการรับประกันกรณีสิ่งของสูญหายและเสียหายสูงสุด 5,000 บาท สำหรับสิ่งของประเภทซองเอกสาร (Document) และสูงสุด 10,000 บาท สำหรับสิ่งของประเภทกล่อง (Package)

นอกจากนี้ยังสามารถส่งสินค้า On Demand Delivery (ODD) ได้อีกด้วย เปิดให้ผู้รับสินค้าสามารถเลือกวิธีการจัดส่งที่ตรงกับความต้องการ ช่วยให้สินค้าถึงมือผู้รับได้สะดวกมากขึ้น เช่น กำหนดระยะเวลานำจ่ายด้วยตนเอง, ให้เพื่อนบ้านรับแทน, แจ้งเปลี่ยนแปลงที่อยู่จัดส่ง หรือรับ ณ ศูนย์บริการของ DHL โดยตรง เป็นต้น

บริการดังกล่าว ยังตรวจสอบสถานะการส่ง ได้ที่แอป Track & Trace และเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th ได้อีกด้วย

‘Courier Post’ เริ่มให้บริการ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลรวม 171 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะขยายการให้บริการครอบคลุมที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2561

โดยในระยะนำร่องจะให้บริการจัดส่งเอกสารและพัสดุไปยัง 25 ประเทศปลายทางหลักในทวีปยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย เช่น เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ อิตาลี เยอรมนี ออสเตรีย แคนาดา สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เป็นต้น ก่อนจะขยายให้ครบทุกภูมิภาคในระยะต่อไป

การเปิดตัวครั้งนี้มาพร้อมกับโปรโมชั่นพิเศษ เมื่อฝากส่งสินค้าประเภทกล่อง (Package) รับส่วนลดทันที 200 บาทต่อชิ้น ทุกพิกัดน้ำหนัก ทุกปลายทาง หมดเขต 30 มิถุนายน 2561 นี้

คุณสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เชื่อว่าการบริการภายใต้ความร่วมมือกับ DHL Express เพื่อพัฒนาการให้บริการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า จะทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในระยะยาว

ส่วนคุณชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ กรรมการผู้จัดการ DHL Express ประเทศไทย กล่าว ว่า “ความร่วมมือครั้งสำคัญนี้เป็นการรวมจุดแข็งของ DHL ในด้านการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศระดับพรีเมียมกว่า 220 ประเทศทั่วโลก บวกกับเครือข่ายของไปรษณีย์ไทยที่มีอยู่ทั่วประเทศไทย จะช่วยให้ผู้ประกอบการของไทยสามารถจัดการส่งสินค้าไปต่างประเทศได้อย่างง่ายดาย ไร้ความกังวล และสามารถลงทุนในการค้าระหว่างประเทศได้อย่างมั่นใจมากขึ้น”

จากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ. หรือ ETDA) ระบุว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยในปี 2559 มีมูลค่า 2.56 ล้านล้านบาท ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศอยู่ที่ 13.47% และมีอัตราการเติบโต 25% ต่อปี ในปี 2560 มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซโดยรวมของไทยอยู่ที่ 2.8 ล้านล้านบาท และคาดว่าจะแตะระดับ 3 ล้านล้านบาทในปี 2561

"แนวโน้มดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงโอกาสสำคัญของการค้าระหว่างประเทศสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการออนไลน์ในประเทศที่มียอดการจำหน่ายสินค้าสูง" ไปรษณีย์ไทย และ DHL Express กล่าวไว้ในแถลงการณ์

นอกจากนี้ข้อมูลจากทาง DHL เอง ยังคาดการณ์ว่ายอดขาย E-Commerce ระหว่างประเทศจะเพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับ 9 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2563 อีกด้วย

 

 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

มองศึก Virtual Bank ไทย เทียบชั้นผู้เล่นบนเวทีโลกได้หรือไม่

หลังจาก ธปท. เปิดให้ผู้ประกอบการที่สนใจจัดตั้ง Virtual Bank ยื่นขอเข้ามา ส่งผลให้ธุรกิจการเงินในไทยกลับมาคึกคักมากขึ้น...

Responsive image

Google Workspace อัปเกรดครั้งใหญ่ ! ดึงพลัง AI พลิกโฉมการทำงาน

Google Workspace บริการชุดแอปพลิเคชันผ่านระบบคลาวด์ ได้รับการยกเครื่องครั้งใหญ่ด้วยการผสานความสามารถของ Generative AI ในหลากหลายแอปพลิเคชันยอดนิยม เพื่อช่วยให้การทำงานเป็นเรื่องที่...

Responsive image

จาก ลี เซียงลุง สู่ ลอว์เรนซ์ หว่อง ว่าที่นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์คนที่ 4

ลี เซียนลุง ได้สิ้นสุดการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ในวันที่ 16 เมษายน 2024 ก่อนจะส่งไม้ต่อให้ ลอว์เรนซ์ หว่อง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ก้าวขึ้นสู่การเป็นนายกรั...